<< Back
" ใต้เมฆที่เมฆใต้ วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2538 "
(น.179) รูป 191 พิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัย
(น.179) นักศึกษาของสถาบันเรียนภาษาไทย 180 คน มีอาจารย์สอน 10 คน นักศึกษาคนที่ไปรำที่งานดนตรีไทยอุดมศึกษาก็เรียนภาษาไทย
ปลายเดือนที่แล้วอธิการบดีไปร่วมงาน 30 ปีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อปี ค.ศ. 1993 รองอธิการได้ไปงานฉลอง 75 ปีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไปดูพิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัย ข้างหน้าพิพิธภัณฑ์มีจารึกอักษรชาติต่างๆ 9 ชาติ คือ อี๋ ตงปา (เผ่านาซี) ทิเบต จิ่งพอ ลีซอ หว่า (ว้า) ลาฮู ไทใหญ่ (เต๋อหง) ไทลื้อ (สิบสองปันนา)
ของในพิพิธภัณฑ์มีเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ขวานหินขัด เครื่องมือล่าสัตว์ เช่น ธนู บ้าน กระจกสำริด เหรียญเงิน หอยเบี้ย เครื่องประดับสมัยจ้านกว๋อ จอบ แท่งเงินชนิดต่างๆ ที่พบในยูนนาน หนังสือใบลาน กระดาษทำจากเปลือกต้นโก้ว ใช้รากผักกูดเป็นปากกา
(น.180) รูป 192 เสื้อผ้าเผ่าต่างๆ
(น.180) มีดต่างๆ เครื่องมือจับปลา ภาพถ่ายชาวเผ่าตู๋หลงไต่สะพานเชือก เครื่องจักสาน กระทะต่างๆ รูปขมุกินเหล้าไห ไม้ไผ่ต่างๆ รากไม้ เครื่องตีหินเหล็กไฟ เครื่องชั่ง ภาชนะต่างๆ พิมพ์ขนม เครื่องเงิน
ชั้นบนเป็นเรื่องเสื้อผ้า เครื่องประดับ ส่วนใหญ่ทำด้วยเงิน มีกำไลต่างๆ ตุ้มหู เสื้อผ้าเผ่าต่างๆ มีรองเท้าคู่เล็กๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นรองเท้าเด็กที่จริงเป็นรองเท้าผู้หญิงโตๆ
ที่ถูกรัดเท้า เสื้อผ้าที่จักรพรรดิราชวงศ์ชิงให้ชนชาติไต่สมัยนั้น ตราประทับที่จักรพรรดิพระราชทานเจ้าเมืองไต่ ดาบอาญาสิทธิ์ เสื้อผ้าขุนนางราชวงศ์ชิงให้เจ้าเมืองชนชาติอี๋ ของพวกนี้ทางมหาวิทยาลัยเก็บจากชาวบ้านนานมาแล้ว
(น.181) รูป 193 ตุ๊กตาเผ่าต่างๆ ขนาดเล็กๆ
(น.181) ธนู – เกาทัณฑ์ใหญ่ เวลาจะโก่งต้องใช้วัวลาก เสื้อเกราะหนัง ช้างสมัยสามก๊ก เสื้อเกราะของชนชาติต่างๆ
ทำด้วยหนังแพะ เปลือกต้นไม้ หนังหมี เสื้อผ้าผีตองเหลือง (ภาษาจีนเรียกว่าหวงเย่กุ่ย แปลว่า ผีใบไม้เหลือง) กี่ทอผ้า
หุ่นดินเผาเป็นรูปชนเผ่าต่างๆ ที่นี่ทำได้น่าสนใจกว่าที่อื่นคือมีท่าทางต่างๆ เช่น อ่านหนังสือ สวดมนต์ ฟังวิทยุ
ห้องเกี่ยวกับหนังสือทางศาสนาและเครื่องดนตรี ดินเผาตงปา (เหมือนดินเผาที่เด็กปั้นเล่น) ใช้ในพิธีบูชาเทพเจ้ามังกร
เป็นรูปกบ รูปงู รูปสัตว์ประหลาด ไม้สลักโบราณ ลายสักเผ่าต่างๆ (มีภาพประกอบ) ภาพฝาผนัง เป็นเรื่องราวทางพุทธศาสนา พบทางภาคใต้ของยูนนาน คัมภีร์ต่างๆ พิมพ์ไม้ พวกหว่า (ว้า) มีกลองไม้ หัวกะโหลกศัตรู
(น.182) รูป 194 หนังสือโบราณ
(น.182) จดหมายพฤกษศาสตร์ของชาวจิ่งพอ เหมือนกับที่พิพิธภัณฑ์ยูนนาน แต่อธิบายละเอียดกว่า
1. ใบซีจ๋วย (เฟิร์น) = แต่ก่อนบิดามารดาขัดขวาง เดี๋ยวนี้เห็นด้วยแล้ว
2. ใบไมยราบ = ไม่ต้องอาย
3. ใบเหยียนซวน (กำลังเสือโคร่ง) = อย่ายั่วโมโห
4. ใบขนุน = พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกินข้าวด้วยกันแล้ว
5. ใบชา = สองฝ่ายต้องดูแลกัน
6. ใบยาสูบ, หมาก, เหรียญเงิน, เส้นไม้ไผ่ = เริ่มมีความรู้สึกดี
(น.183) รูป 195 พืชต่างๆ ที่มีความหมาย
(น.183)
7. รากไม้ = คิดถึง
8. พริก = รักร้อนแรง
9. กระดุม = มีบุคคลที่สามเข้าแทรกแซง
10. ใบมะขามป้อม = แค้นมากอยากจับมาสับเป็นท่อนๆ เหมือนบะช่อ
11. มะกล่ำตาช้าง = รักเธอไม่พลัดพรากจากกัน
12. ใบไม้สีแดง = แต่งงานได้, ใบไม้สีขาว = แต่งงานไม่ได้
13. ใบหญ้าไม้กวาด = ฉันรอเธอด้วยความอดทน
14. สนเขา = จะมีโอกาสเจอกันบ่อยๆ
15. ใบไผ่ = หวังว่าเธอจะอยู่ข้างฉันเรื่อยไป
(น.184) นอกจากนั้นยังมีการผสมกันระหว่างของต่างๆ กลายเป็นความหมายใหม่ เช่น พ่อแม่ไม่ให้แต่งงาน อีกสามวันจะหนีตาม ที่เราแอบอยู่ด้วยกันนี้ปิดความลับไม่อยู่แล้ว
จดหมายทิเบตทำด้วยไม้ไผ่มีเครื่องหมายใช้ธนูยิงบอกกันเวลาคับขัน
นอกจากนั้นมีหนังสือต่างๆ อีกหลายเล่ม
เครื่องดนตรีมีเครื่องเป่า ขลุ่ยต่างๆ ฉาบ กลองยาว กลองมโหระทึก
เผลอดูเพลินไปหน่อย เลยเวลาไปแล้วต้องรีบกลับ มาดามเฉินบอกว่าแถวนี้เป็นเขตการศึกษา นอกจากสถานศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่รับนักเรียนชั้นมัธยมปลาย สอบเข้าตามปกติแล้ว
ยังมีที่รับคนที่ทำงานอยู่แล้วมาเรียน พวกครูที่สอนนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร สอนนักเรียนมัธยมปลายที่สอบได้คะแนนไม่พอที่จะเข้ามหาวิทยาลัยให้เรียนซ้ำ
กลับมานัดวิศวกรมาเล่าเรื่องไฟฟ้าพลังน้ำ ในแม่น้ำล้านช้าง (แม่น้ำโขง) ไปโรงแรมคิงเวิลด์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานกงสุล พบกับคนไทยคือข้าราชการจากสถานทูตปักกิ่ง
ข้าราชการและครอบครัวสถานกงสุลที่คุนหมิง คนไทยในเขตการดูแลของสถานกงสุล (ยูนนาน เสฉวน หูหนาน แต่หูหนานไม่มีคนไทย) มีพวกนักเรียน 7
คนที่เรียนอยู่ที่สถาบันชนชาติมณฑลยูนนาน เจ้าหน้าที่ของธนาคาร และบริษัทต่างๆ ที่มาลงทุนในยูนนานและเสฉวน จากนั้นรับประทานอาหารค่ำ ขอให้เขาลองสั่งสุนัขมา คราวนี้เป็นสุนัขน้ำแดง (คราวก่อนเป็นพะโล้)
ได้คุยกันเรื่องโอกาสการลงทุนในจีน
(น.185) รูป 196 เซ็นชื่อ
รูป 197 คนไทยในยูนนาน