<< Back
" หวงเหออู่อารยธรรม วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2543 "
(น.105) ต้นไม้ในบริเวณนั้นมาจากบ้านเกิดของลูกศิษย์ต่างๆ ของขงจื่อ มีสุสานของลูกขงจื่อซึ่งไม่ได้มีคุณงามความดีอะไรเป็นพิเศษ ส่วนที่ฝังของขงจื่อเขาว่ามีการศึกษาแล้วว่าอยู่ตรงนั้น ป้ายทำใน ค.ศ. 1443
ปลายราชวงศ์ซ่ง มีพวกจินหรือกิมก๊กเข้ามารุกราน ทหารกลุ่มหนึ่งจะมาขุดสุสาน เมื่อนายทหารทราบว่าเป็นสุสานของขงจื่อ พวกที่จะขุดสุสานก็ถูกประหารชีวิต แสดงว่าแม้แต่ชาวจินก็รู้จักขงจื่อ เป็นเหตุให้ตั้งป้ายนี้
เมื่อขงจื่อเสียชีวิตแล้ว มีลูกศิษย์มาเฝ้าอยู่ 3 ปี คนที่ชื่อจือกังมาอยู่ถึง 6 ปี ภายหลังมีศาลาที่ประทับจักรพรรดิที่มาไหว้สุสาน มีพวกอ๋องของคนกลุ่มน้อยด้วย
กว่าจะกลับถึงที่พักก็ค่ำแล้ว รับประทานอาหารค่ำแบบกันเอง แถมก็ต้องคุยเรื่องประพจน์ด้วยตามเคย เมื่อรับประทานแล้วนักข่าวทีวีมณฑลซานตง หรือ Shan Dong Televisions – SDTV
ของซานตงมาสัมภาษณ์ คนสัมภาษณ์ออกตัวว่าเขาแต่งตัวไม่ดีเพราะวันนี้เดินทางทั้งวัน ฉันว่าไม่เป็นอะไรเพราะที่จริงฉันก็แต่งไม่ค่อยจะดีเท่าไร แต่วันนี้ซุปเขาดูแลจัดการให้แต่งดีๆ
(น.106) ตกลงฉันพูดเป็นภาษาไทยและให้คุณอู๋จื้ออู่แปล ก็จะดีเพราะว่าทีวีไทยก็จะได้ถ่ายด้วย ฉันจะเล่าคำถามคำตอบคร่าวๆ ดังนี้
1. สาเหตุที่มาเยือนซานตง ฉันว่าเป็นมณฑลที่เป็นแหล่งกำเนิดอารยธรรมหวงเหอ (ฮวงโห) มีวัฒนธรรมจีนโบราณที่น่าสนใจ เป็นสถานที่กำเนิดขงจื่อและกวีสำคัญหลายท่าน ปัจจุบันเป็นมณฑลที่ก้าวหน้า และฉันรู้จักคนซานตงหลายคน
2. ความประทับใจที่นครจี่หนานในวันแรกที่มา ตอบว่า บ้านเมืองสะอาด ถนนหนทางกว้างขวางได้มาตรฐาน การต้อนรับที่ดี ได้ไปมหาวิทยาลัยซานตง
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีมาตรฐานทางวิชาการ ดูสวนน้ำพุ มีการรวบรวมความรู้ต่างๆ ไว้ทั้งจิตรกรรมและประวัติบุคคลสำคัญต่างๆ ของมณฑล ทะเลสาบต้าหมิงหูก็สวยงาม
3. พิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร ตอบว่า มหาวิทยาลัยมีการสอนวิชาโบราณคดี อาจารย์และนักศึกษาได้เรียนและสอนภาคทฤษฎีแล้วมีโอกาสได้ไปทำงานภาคปฏิบัติ
ไปขุดค้นที่แหล่งโบราณคดี เมื่อขุดแล้วก็ได้นำวัตถุโบราณที่น่าสนใจมาจัดแสดง เขียนคำอธิบาย ค้นคว้าและเขียนบทความวิชาการเผยแพร่ในวงวิชาการ นอกจากนั้น ยังได้ทราบว่ากำลังทำฐานข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ด้วย การศึกษาอย่างเป็นระบบจะเป็นตัวอย่างแก่สถาบันการศึกษาอื่นๆ ทั้งในและนอกประเทศ
ได้ดูพิพิธภัณฑ์เป็นเวลาสั้นมากเพราะไม่มีเวลา แต่ก็นับว่าได้ประโยชน์ดี เขาสามารถนำสิ่งที่สำคัญเป็นหลักๆ มาไว้ด้วยกัน ใช้เวลาไม่มากก็สามารถเข้าใจวัฒนธรรมของซานตงได้ ฉันชอบห้องที่แสดงสัตว์โบราณเพราะสนใจเรื่องสัตว์โบราณ ไดโนเสาร์ต่างๆ ซึ่งให้ความรู้ด้านธรณีวิทยาด้วย
(น.107)
รูป 78 สุสานขงจื่อ
In the ground of the Confucius Mausoleum.
(น.108)
4. สนใจวัฒนธรรมจีนด้านไหน ตอบว่าสนใจทุกด้าน เพราะวัฒนธรรมคือวิถีชีวิตของมนุษยชาติในแต่ละสังคมซึ่งต้องมีครบทุกด้าน
รวมทั้งปัจจัยสี่ที่จะสนองความต้องการทั้งด้านร่างกาย สติปัญญาและอารมณ์ จะศึกษาวัฒนธรรมต้องสนใจและเข้าใจทุกด้าน จึงจะเข้าใจประชาชนและสังคมนั้นๆ ได้
5. มาครั้งนี้คิดว่าจะช่วยให้ไทยและมณฑลซานตงมีการแลกเปลี่ยนด้านวิชาการได้อย่างไร ตอบว่ามาคราวนี้มีอาจารย์ 6 ท่านจากมหาวิทยาลัย 4 แห่งตามมาด้วย เมื่อกลับไปแล้ว
อาจารย์เหล่านี้คงจะไปหารือกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยของเขาให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่สมควร
6. ขอให้กล่าวกับคนจีน ฉันก็เลยเอากลอนที่แต่งขยายความบทกวีชุนเสี่ยว (รุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิ) ของเมิ่งเฮ่าหราน ซึ่งฉันแต่งเป็นเนื้อร้อง เพลงจีนเด็ดดอกไม้ ที่กำนันสำราญ เกิดผล ขอให้ช่วยแต่ง
ฉันท่องบทกวีของเมิ่งเฮ่าหราน แล้วหยิบเอาหนังสือ หยกใส่ร่ายคำ มาอ่านต่อกลอนที่ฉันแต่ง จะให้คุณอู๋อ่านคำแปลภาษาจีน คนที่สถานีเขาบอกว่าไม่ต้องอ่าน ขอบทไปแล้วเขาจะจัดการเองเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เขาจะออกอากาศวันที่ 22 มีนาคมนี้ ฉันดูไม่ได้เพราะไม่ได้ตั้งไว้ แต่ที่สถานทูตจีนที่เมืองไทยบอกว่าเขาดูได้
กลับมาที่ห้อง อ้อย (ทีวีพูล) มาส่งแฟกซ์ข่าว แล้วเลยคุยกันต่อเรื่องต่างๆ พอใครๆ ไปกันแล้วฉันวิ่งรอบๆ ห้องตามเคย
วันนี้เขียนแค่นี้ก่อนนะจ๊ะ ไม่ไหวแล้ว