Please wait...

<< Back

" เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2544 "

(น.2) วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2544
ข้าพเจ้าและคณะเดินทางถึงสนามบินปักกิ่ง ราว 16:00 น. เวลาท้องถิ่น มาดามเฉียนเจิ้งอิง รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองไปรับที่สนามบิน มาดามเฉียนเพิ่งไปเป็นแขกของสมเด็จแม่เมื่อต้นเดือน ข้าพเจ้ามีส่วนรับรองมาดามด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะอาจารย์มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ (เยี่ยนถิงไอ้) และคณะสถานทูตไทย มาต้อนรับ นั่งรถไปมหาวิทยาลัยปักกิ่ง กับมาดามเฉียน อาจารย์พาไปที่หอพัก จัดข้าวของ


(น.3) รูป 1 มาถึงที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
Upon arrival at Peking University.


รูป 2 ห้องนอน
The bedroom.

(น.4) ตอนค่ำมีงานเลี้ยงอาหารที่ห้องอาหารของมหาวิทยาลัย ศาสตราจารย์สูจื่อหง อธิการบดีเป็นเจ้าภาพ ท่านเป็นวิศวกรชีวภาพ และยังเป็นรองประธานสภาวิทยาศาสตร์จีนด้วย (Chinese Academy of Sciences) เคยไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ไม่เคยมาเมืองไทย แต่รู้จักนักวิชาการไทยหลายคนในการประชุมต่างๆ ก่อนรับประทานอาหาร ท่านอธิการบดีกล่าวปราศรัยและเชิญท่านทูตปราศรัย มีศาสตราจารย์เผย์เสี่ยวรุ่ย เป็นผู้แปล เมื่อรับประทานจวนเสร็จ คณะชมรมนาฏศิลป์และดนตรีจีนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งจัดการแสดง ผู้แสดงเป็นนักศึกษาคณะต่างๆ ไม่ใช่มีแต่เฉพาะพวกที่เรียนดนตรีหรือเรียนดนตรีนอกเวลาเรียน เหมือนกับชมรมดนตรีไทยตามมหาวิทยาลัยของเรา มีนักศึกษาคนหนึ่งมาประกาศและอีกคนหนึ่งเป็นศิษย์ของศาสตราจารย์เผย์แปลเป็นภาษาไทย ผู้แปลคนนี้ไปรับข้าพเจ้าที่สนามบินด้วย รายการแสดงมี
1. ดนตรีของเผ่าทาจิก (ภาษาจีนใช้ว่า ถ่าจี๋เค่อ) แสดงความร่าเริง
2. รำพัด ดูสวยงามดี
3. เพลงรักชาวไต่ เป่าน้ำเต้าประสานเสียง
4. เพลงมองโกล “ไซ่หม่า” หรือ “แข่งม้า” ซอเอ้อร์หูแสดงหมู่
เมื่อจบการแสดงแล้วนักศึกษาเอาแผ่นซีดีเพลงเอ้อร์หูมาให้ มีเพลง “แข่งม้า” ที่เขาเล่น ก่อนหน้านั้นอธิการบดีให้ซอเอ้อร์หูคันหนึ่ง อาจารย์เผย์เชิญให้ข้าพเจ้าออกไปกล่าวอะไรก็ได้เป็นภาษาไทยหรือจีนก็ได้ ข้าพเจ้าว่าจะพูดภาษาจีน ถ้าพูดไม่ได้ขอให้อาจารย์ช่วย ปรากฏว่าพูดได้แม้จะไม่ถูกต้องนัก ครูที่สอนชอบใจมาก บอกว่าถ้ากล้าพูดอย่างนี้ สอนง่ายกว่านักเรียนที่กลัวพูดผิด ไม่กล้าพูด