<< Back
ชนเผ่าไป๋
จากหนังสือ
ใต้เมฆที่เมฆใต้
ใต้เมฆที่เมฆใต้หน้า 55-58,60,66-71
(น.55) รูป 57 บ้านชนกลุ่มน้อยจำลอง
(น.55)ไม้หนานมู่ ไม้แดง ห้องนั้นยังมีที่ขายของกระจุกกระจิก เช่น ไม้สลัก หินสลัก รูปหน้ากากหินสลัก เป็นต้น
เข้าไปดูห้องชนชาติส่วนน้อย ชนชาติใหญ่ๆ มีพวกอี๋ ลีซอ พวกไป๋ เขาทำเป็นบ้านจำลองแสดงเครื่องมือต่างๆ บ้านทำด้วยต้นสนและต้นลี่ เป็นไม้เนื้อแข็งชนิดหนึ่ง ไม่ใช่สาลี่ที่กินลูกได้ แสดงเครื่องมือทำการเกษตรและเครื่องมือทำมาหากิน เช่น ครกตำข้าว เครื่องมือทอผ้า เครื่องปั่นด้าย โม่ ไถ แห หั่วป่า (คล้ายๆ กับคบไฟขนาดใหญ่) ธนู เขาควาย เป็นต้น รูปบ้านจำลองชาวไป๋ที่อยู่ในเขตภูเขา บ้านทำด้วยไม้ มุงกระเบื้องไม้ รูปจำลองสะพานแบบต่างๆ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง
(น.56) รูป 58 การแต่งกายชนเผ่า
รูป 59 ที่บูชาบรรพบุรุษของพวกไป๋
(น.57) รูป 60 ภาพชีวิตชาวไป๋
(น.57) หุ่นแสดงเผ่าต่างๆ เช่น เผ่าลาฮู แม้ว ไป๋ อี๋ หุย ไต่ ทิเบต ลีซอ น่าซี
เข้าประตูแบบหมู่บ้านไป๋ไปอีกห้อง แสดงเครื่องแต่งตัวสตรีไป๋ในท้องถิ่นต่างๆ แต่ละถิ่นแต่งไม่เหมือนกัน เช่น ในต้าหลี่เป็นเขตภูเขามีพวกเอ๋อเหยียน เหอจิ่น การแต่งกายเจ้าสาวเหอชิ่ง
จำลองบ้านชาวไป๋ในสี่โจว (ที่เราจะไป) ตรงกลางเป็นห้องรับแขกหรือห้องที่ตั้งป้ายบูชา เรียกว่า จุงถัง ซ้ายเป็นห้องที่พ่อแม่อยู่ ด้านขวามือเป็นห้องเจ้าบ่าวเจ้าสาว
ภาพถ่ายพิธีแต่งงานของชาวไป๋ เจ้าสาวต้องสวมแว่นดำเพื่อป้องกันภัย (ประยุกต์จากผ้าคลุมหน้า ?) มีลูกก็เอาลูกใส่ตะกร้า ภาพรูปตลาดในเดือนมีนาคม
(น.58) รูป 61 ถ่ายรูปกับสาวๆ ชาวไป๋
รูป 62 ถ่ายรูปกับสาวๆ ชาวไป๋
(น.58) เดินออกมาที่ลานตรงกลางหมู่อาคาร จัดเป็นสวนไม้กระถาง มีดอกท้อ ดอกยู่หลาน หรือที่เรียกว่าดอกแมกโนเลีย (Magnolia) หรือมณฑา ดอกตู้จวน เขามีดอกตู้จวนสีเหลืองซึ่งหายาก ดอกตู้จวนขาวก็มี ฝรั่งเรียกดอกตู้จวนขาวว่า โรโดเดนดรอน (Rho-dodendron) ถ้าผลัดใบเรียก Azalea
(น.60) จากโรงแรมเดินทางต่อไปท่าเรือ มาดามเฉินเล่าให้ฟังว่า วัดอรหันต์ 500 ที่ข้าพเจ้าไปดูเมื่อ 14 ปีมาแล้วถูกไฟไหม้เร็วๆ นี้ และห้องที่มีพระอรหันต์ไม่ไหม้
ในยูนนานมีทะเลสาบหลายแห่ง ได้แก่เทียนฉือที่ข้าพเจ้าเคยไปขณะนี้น้ำเสีย ต้องใช้เวลา 15 ปี จึงแก้ไขได้ (โดยการเปลี่ยนน้ำ) เอ๋อร์ไห่ยังไม่ถึงกับเสีย ใกล้ๆ ทะเลสาบนี้มีหมู่บ้านชนเผ่าหนึ่งที่มีประเพณีถือระบบแม่เป็นใหญ่ ชายหญิงแต่งงานกัน ชายต้องไปนอนอยู่บ้านหญิง แต่กลางวันไปอยู่บ้านตัวเอง ในสมัยก่อนพวกเด็กๆ รู้แต่ว่าใครเป็นแม่ ไม่รู้จักพ่อ เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปบ้างแล้ว แถวนั้นทิวทัศน์สวยงาม น้ำใสสะอาด เด็กหญิงร้องเพลงเก่ง จับปลาในทะเลสาบไปพลางร้องเพลงไปพลาง พวกนักมานุษยวิทยาชอบเข้าไปศึกษา การคมนาคมยังไม่ค่อยสะดวกนัก คราวหน้าถ้าข้าพเจ้ามาอีก มีเวลาจะพาไป
(น.66) รูป 72 ท่องทะเลสาบเอ๋อร์ไห่
(น.66) เราออกมาชมวิว มองไปไกลๆ พวกหนึ่งก็ว่าเหมือนวิวทะเลสาบเจนีวา มีภูเขาสูงปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ตอนนี้หิมะกำลังตกบนยอดเขามีเมฆดูเหมือนจะเป็นเมฆดูสามี ถ่ายรูปกันใหญ่ แต่อีกด้านหนึ่ง (เข้าใจว่าเป็นเพราะเรือเราแล่นอยู่ใกล้ฝั่งนี้) ดูเห็นแห้งแล้งคล้ายๆ ภูเขาในมองโกเลียที่เราไปตอนเดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 เลยว่าที่นี่ดีมากข้างหนึ่งเป็นเจนีวา อีกข้างเป็นมองโกเลีย
ลงมาชั้นล่าง มีพิธีกรเป็นสาวชาวไป๋อธิบายเรื่องพิธีซานเต้าฉา ว่าเป็นพิธีของชาวไป๋สำหรับรับแขกผู้มีเกียรติ โดยให้ดื่มชา 3 ถ้วย 3 วิธี
ชาถ้วยแรกค่อนข้างขม เหมือนชีวิตคนเกิดมาก็ต้องประสบความยากลำบาก ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ถ้วยต่อมาหวาน หมายความถึงชีวิตต้องลำบากก่อน เมื่อพยายามจนได้รับผลสำเร็จ ชีวิตก็หวาน เมื่อ
(น.67) รูป 73 พิธีชา 3 ถ้วย 3 วิธี ในเรือ
(น.67) อายุมากก็ต้องคิดถึงอดีตของตนว่าเป็นอย่างไร ผ่านประสบการณ์ต่างๆ ที่เป็นความทรงจำของชีวิต ดื่มสามครั้งรสชาติไม่เหมือนกัน คือ ขมหวาน และสุดท้ายรสชาติยากที่จะลืม วิธีทำชา 3 ถ้วยนี้ต่างกัน
ก่อนอื่นแจกผลไม้เชื่อม : แตงกวาเชื่อม ลูกบ๊วย ฯลฯ และเต้นระบำต้อนรับ ผู้หญิงที่เต้นถือไม้ เขาบอกว่าไม้นี้เรียกว่าไม้ป้าหวัวเปี้ยน มีเหล็กอยู่ข้างใน ถามว่ามีความหมายอย่างไรก็ตอบไม่ได้ ส่วนผู้ชายถือกลองแทมโบรีน พอเต้นจบแล้วโฆษกออกมาประกาศว่าการมาเยือนที่เขตปกครองตนเองของพวกไป๋นี้ ถ้ายังไม่ดื่มน้ำชาซานเต้าฉาก็เหมือนกับมาไม่ถึง เป็นธรรมเนียมการต้อนรับที่มีมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยกษัตริย์น่านเจ้าต้อนรับอาคันตุกะที่มาเยือน ชาที่เอามาเลี้ยงของที่นี่เป็นชาก้อนที่เคยได้รับรางวัลมาแล้ว 3 ครั้ง ดื่มแล้วทำให้เป็นหนุ่มสาวตลอดไป
Next >>