Please wait...

<< Back

วัดจินซาน

จากหนังสือ

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 12

(น. 11) ท่านบรรยายถึงสถานที่ที่ข้าพเจ้าจะไป ได้แก่ วัดจินซาน ในเมืองเจิ้นเจียง มีเจดีย์นางพญางูขาว และเล่าเรื่องย่อว่ามีนางพญางู
(น. 12) อายุหลายพันปี มีฤทธิ์สามารถแปลงกายเป็นสาวงามมาเป็นภรรยาของนักศึกษาผู้หนึ่ง คือ สวี่เซียน เจ้าอาวาสวัดจินซานชื่อ พระฝาไห่ ไม่เห็นด้วยว่า ปีศาจจะมาสมสู่อยู่กับมนุษย์ได้อย่างไร จึงพยายามกีดกัน นางพญางูเคยทำให้น้ำท่วมวัดจินซาน แสดงว่าวัดนี้เคยจมน้ำอยู่หนหนึ่ง ภายหลังนางพญางูขาวพ่ายแพ้ฤทธิ์ของพระฝาไห่ ถูกครอบไว้ในเจดีย์ถึง 19 ปี จนลูกชายมาช่วย จึงออกจากเจดีย์ได้ ข้าพเจ้าเคยอ่านเรื่องนี้ที่มีผู้แปลเป็นภาษาไทยพิมพ์รวมเล่มนิทานจีน แต่ลืมรายละเอียดไปแล้ว สมัยสามก๊กบ้านเกิดของท่านเคยเป็นเมืองหลวงของง่อก๊ก (หรืออู๋กั๋วของซุนกวน) มีอยู่คราวหนึ่ง ง่อก๊กพยายามรวมกับจ๊กก๊ก (หรือสู่กั๋วของเล่าปี่) เพื่อไปตีวุ่ยก๊ก (หรือเว่ยกั๋วของโจโฉ) โดยจะให้เจ้าหญิงง่อก๊กแต่งงานกับพระเจ้าเล่าปี่แห่งจ๊กก๊ก แต่การรวมก๊กก็ไม่สำเร็จ การแต่งงานแบบนี้ถือว่าเป็นการสมรสทางการเมือง งิ้วชอบแสดงเรื่องนี้ อีกตอนหนึ่งที่งิ้วชอบแสดงคือเรื่องจับโอรสเล่าปี่ แต่หนีไปได้ (เห็นจะเป็นตอนจูล่งมาช่วย) อีกวัดหนึ่งเป็นสถานที่ที่มีกวีมาเขียนกลอน เช่น ซูซื่อหรือซูตงปัว (ค.ศ. 1037? – ค.ศ. 1101) กวีเอกสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960 – ค.ศ. 1279) นอกจากนั้นในสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 317 – ค.ศ. 589) ซึ่งเป็นช่วงแห่งการแตกแยกทางการเมืองเป็นราชวงศ์ทางเหนือและทางใต้ รวมทั้งมีราชวงศ์ปกครองสืบต่อกันทางเหนือ – ใต้หลายราชวงศ์นั้น ราชวงศ์เหลียง (ค.ศ. 502 – ค.ศ. 557) ซึ่งอยู่ทางใต้ ก็มีเจ้านายองค์หนึ่งไม่สนใจการเมือง ชอบแต่การแต่งบทกวี ได้มาแต่งไว้ ข้าพเจ้าจะได้ไปดูพิพิธภัณฑ์ซึ่งเล่าประวัติของเมืองหลายยุคหลายสมัย

เจียงหนานแสนงาม หน้า 204-209

(น. 204) คนอื่นๆ หายไปหมด ดูเหมือนว่าเขาให้ไปขึ้นเรือก่อน ข้าพเจ้าขึ้นเรือไปถึงที่วัดจินซาน เป็นวัดนิกายฉานจงหรือเซ็น เจ้าอาวาสเป็นหลวงปู่อายุประมาณ 85 ปี มีหลวงพี่เป็นผู้ช่วย ท่านพาเข้าในวิหาร มีพระ เณรสวดมนต์ว่าอะไรก็ไม่ทราบ คงเป็นสันสกฤตแบบจีน พระเณรวัดนี้มีถึง 80 รูป เพราะหลวงปู่มีชื่อเสียงว่าสอนดี หลวงปู่สอนให้จุดธูปเทียนปักไม้หอม เมื่อปักแล้วเดินวนไปรอบหนึ่งแล้วจึงกราบ จะวางพุ่มเองท่านก็ว่าให้ท่านวางให้ ในวัดมีจตุโลกบาลเหมือนวัดอื่น ด้านในมีพระพุทธรูปเหมือนกับวัดต้าหมิงที่ไปเมื่อเช้านี้ รอบๆ มีพระอรหันต์ มีรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมด้วย


(น. 205) รูป 156 เจดีย์ 7 ชั้น
Seven-storeyed stupa.

(น. 205) หลวงพี่พาขึ้นเขาเพื่อไปเจดีย์ที่สูงขึ้นไป หยุดดูทัศนียภาพเป็นพักๆ เดิมที่สร้างวัดอยู่กลางน้ำ แล้วน้ำเปลี่ยนเส้นทาง หลวงพี่เล่าว่ามีวัดบนเขาสองแห่ง เขาจินซานนี้ไม่ค่อยเห็นเพราะต้นไม้และตึกบังเต็มไปหมด ส่วนเจียวซานเห็นแต่ต้นไม้ตึกซ่อนอยู่หลังต้นไม้ อาคารที่นี่หันทางทิศตะวันตกซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลก คนจีนทั่วไปจะสร้างอาคารหันทางทิศใต้ อาจจะเป็นเพราะลักษณะของแม่น้ำจึงวางผังวัดเช่นนี้ หลวงพี่ยังเล่าเรื่องพระถังซำจั๋งเป็นทารกลอยน้ำมา และเจ้าอาวาสวัดจินซานช่วยเก็บเอามาเลี้ยง เป็นเรื่องประหลาดไม่เคยได้ยิน
(น. 206) บนภูเขามีพระเจดีย์ 7 ชั้น หลวงพี่บอกว่าภูเขาลูกนี้ยังไม่สูง สร้างเจดีย์ต่อขึ้นไปทำให้เขาสูงขึ้น ข้าพเจ้าจะขึ้นไปชมทิวทัศน์ก็ได้ แต่ท่านไม่ขึ้นเพราะรู้สึกไม่เหมาะสม ข้าพเจ้าขึ้นไปบนเจดีย์ 7 ชั้น เจดีย์นี้สร้างสมัยจักรพรรดิกวงซวี่ (จักรพรรดิกวงสู) ปีที่ 26 ตรงกับ ค.ศ. 1900 ข้างบนเห็นยอดเขาอีก 2 ยอด มีเจดีย์ บริเวณแถวนี้มีถ้ำ เรียกว่า ถ้ำฝาไห่ มีรูปปั้นพระฝาไห่อยู่ในนั้น กลับลงมาที่ศาลาข้างล่าง หลวงปู่คอยรับอยู่ ท่านกล่าวต้อนรับ (ภาษาที่ท่านพูด คนปักกิ่งฟังไม่ค่อยจะออก ดีแล้วที่มีล่ามท้องถิ่น)


(น. 206) รูป 157 หลวงปู่อธิบายวัตถุโบราณของวัด ในภาพคือติ่ง ภาชนะ 3 ขา
The Reverend Monk giving explanation on the Temple's antiques. A tripod bowl (ting) is seen in the picture.

(น. 207) ท่านเล่าว่าวัดนี้มีประวัติมา 1,600 ปีแล้ว มีเนินเขา 2 แห่ง ที่มีชื่อเสียงในเมืองนี้คือ จินซานกับเจียวซาน เหมือนหยก 2 ก้อนลอยอยู่ในแม่น้ำ ที่นี่มีของสำคัญเก็บไว้คือ
1. ติ่ง คือภาชนะสำริด 3 ขา สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ภาชนะแบบนี้มีวิธีใช้ 2 อย่างคือ ใช้ในกองทัพ (ทหารทำกับข้าวหรือพิธีกรรม) และใช้ในพิธีกรรม ติ่งใบนี้เป็นของโจวซวนหวัง มีคำจารึกอยู่ข้างใน
2.เข็มขัดหยกของซูตงปัว กวีเอกและขุนนางสมัยราชวงศ์ซ่ง เข็มขัดนี้มีหยก 20 ชิ้นร้อยติดกัน มีเรื่องเล่ากันว่าสมัยที่ซูตงปัวเป็นเจ้าเมืองหยังโจว ช่วงหนึ่งเจ็บป่วยมาก อยากลาออก จึงมาปรึกษาเจ้าอาวาสวัดนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน เจ้าอาวาสแนะนำให้ลาออกแถมให้ทิ้งเมียน้อยให้หมด เพราะชีวิตเหมือนเทียนใกล้ดับ ส่วนจารึกที่เขียนไว้อยู่ในสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง ราชวงศ์ชิง เป็นเรื่องการเสด็จเจียงหนาน
3.ภาพวาดจินซานอยู่กลางน้ำ สมัยราชวงศ์หมิง รัชกาลจักรพรรดิเจียจิ้ง (ค.ศ. 1522 – 1566) ฝีมือเหวินจื่อหมิง หลวงปู่แปลบทกวีที่เขียนเอาไว้ในภาพให้ฟังว่า
(น. 208)
ได้มาที่วัดจินซานอีกหนหนึ่งเมื่อตอนผมหงอก
สถานที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่สันทรายถูกน้ำท่วมถึง
มองเห็นใบเรือที่ใช้ใบในแม่น้ำฉังเจียง
เห็นอาทิตย์กำลังตกทางทิศตะวันตก
แม่น้ำไม่สามารถกล่าวอธิบายได้
เวลาผ่านไป ชีวิตก็ล่วงไป
คนคิดว่าความกังวลทำให้ผมหงอก
อยากปีนเมฆดูเมืองที่ไกลออกไป
ดูนครหลวงที่ไกลโพ้น
ยืนอยู่ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิ
ชื่นชมทิวทัศน์ ณ ที่นี้
สวรรค์อยู่บนฟ้าสูง ผืนน้ำสีน้ำเงิน
เป็นทิวทัศน์ที่งามสง่า
ประวัติศาสตร์ทางตะวันออกเห็นเป่ยกู้มีเหตุหลายหลากปรากฏ
เรื่องราชวงศ์ภาคใต้ที่โหดร้ายก็ยังเป็นที่กล่าวถึง
กล่าวกันว่ามีสุสานกษัตริย์ที่เจิ้นเจียงนี้ แต่ไม่น่าเชื่อ
มองจากที่นี่เห็นวิญญาณร่ายรำในสายน้ำ
หวังว่าในอนาคตจะได้เป่าขลุ่ยในแสงจันทร์
ระหว่างฤดูใบไม้ผลิจะได้ล่องเรือข้ามแม่น้ำกลับบ้านทาง
ทิศตะวันออก
เขียนบทกวีนี้สมัยจักรพรรดิเจียจิ้ง ให้เจ้าอาวาส
(น. 209) อีกม้วนหนึ่งเหมือนกับว่าเป็นสมุดเซ็นเยี่ยมสมัยก่อน มีคนสมัยหลังเขียนชมภาพที่เจียงไคเช็คเขียนก็มี หลวงปู่อ่านเป็นสำเนียงพื้นเมือง ฟังแล้วเพราะดีกว่าใช้ภาษาจีนกลางเสียอีก แต่ฟังไม่ออก ท่านขอให้ข้าพเจ้าเขียนตัวอักษรให้ท่าน ข้าพเจ้าเขียนว่า จินซานซื่อ (วัดจินซาน) ท่านเขียนให้ข้าพเจ้าว่า โฝซิน แปลว่า โพธิจิต (ซึ่งเป็นหลักของนิกายฉานจง) ข้าพเจ้าบริจาคเงิน ท่านจะให้ใบอนุโมทนา แต่ยังหาไม่เจอ กลับลงไปที่รถท่านทูตจังเหลียนยังไม่มา ได้ความว่าขอให้หลวงปู่เขียนตัวอักษรให้เหมือนกัน



จัดหมวดหมู่สารสนเทศ

วัดจินซาน

วัดจินซาน เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองเจิ้นเจียง ตั้งอยู่ในแถบแม่น้ำแยงซี

ประวัติ

วัดจินซาน เป็นวัดนิกายฉานจงหรือเซ็น เจ้าอาวาสเป็นหลวงปู่อายุประมาณ 85 ปี มีพระ เณรสวดมนต์เป็นสันสกฤตแบบจีน พระเณรวัดนี้มีถึง 80 รูป เพราะหลวงปู่มีชื่อเสียงว่าสอนดี หลวงปู่สอนให้จุดธูปเทียนปักไม้หอม เมื่อปักแล้วเดินวนไปรอบหนึ่งแล้วจึงกราบ ในวัดมีจตุโลกบาลเหมือนวัดอื่น ด้านในมีพระพุทธรูปเหมือนกับวัดต้าหมิงที่ไปเมื่อเช้านี้ รอบๆ มีพระอรหันต์ มีรูปพระโพธิสัตว์กวนอิมด้วย[1] เดิมที่สร้างวัดอยู่กลางน้ำ แล้วน้ำเปลี่ยนเส้นทาง หลวงพี่เล่าว่ามีวัดบนเขาสองแห่ง เขาจินซานนี้ไม่ค่อยเห็นเพราะต้นไม้และตึกบังเต็มไปหมด ส่วนเจียวซานเห็นแต่ต้นไม้ตึกซ่อนอยู่หลังต้นไม้ อาคารที่นี่หันทางทิศตะวันตกซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลก คนจีนทั่วไปจะสร้างอาคารหันทางทิศใต้ อาจจะเป็นเพราะลักษณะของแม่น้ำจึงวางผังวัดเช่นนี้ หลวงพี่ยังเล่าเรื่องพระถังซำจั๋งเป็นทารกลอยน้ำมา และเจ้าอาวาสวัดจินซานช่วยเก็บเอามาเลี้ยง เป็นเรื่องประหลาดไม่เคยได้ยิน[2]

เรื่องเล่าวัดจินซาน

วัดจินซานเป็นสถานที่ที่มีเรื่องเล่านางพญางูขาว ว่ามีคนเอางูเล็กๆ มาเลี้ยง แล้วงูกลายเป็นสาวงามได้เพราะงูนี้บำเพ็ญเพียรมา 500 ปีจึงมีฤทธิ์ นางอยากแต่งงานกับชายหนุ่มชื่อสวี่เซียน แต่พระฝาไห่เจ้าอาวาสวัดจินซานไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าคนกับงูไม่ควรจะอยู่ด้วยกัน งูจึงโกรธทำน้ำท่วมวัด แต่ในที่สุดงูแพ้ ถูกจับขังไว้ในเจดีย์ 19 ปี บุตรชายมาช่วยได้ และได้อยู่ด้วยกัน [3]

บทกวี

ภาพวาดจินซานอยู่กลางน้ำ สมัยราชวงศ์หมิง รัชกาลจักรพรรดิเจียจิ้ง (ค.ศ. 1522 – 1566) ฝีมือเหวินจื่อหมิง หลวงปู่แปลบทกวีที่เขียนเอาไว้ในภาพให้ฟังว่า
ได้มาที่วัดจินซานอีกหนหนึ่งเมื่อตอนผมหงอก
สถานที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่สันทรายถูกน้ำท่วมถึง
มองเห็นใบเรือที่ใช้ใบในแม่น้ำฉังเจียง
เห็นอาทิตย์กำลังตกทางทิศตะวันตก
แม่น้ำไม่สามารถกล่าวอธิบายได้
เวลาผ่านไป ชีวิตก็ล่วงไป
คนคิดว่าความกังวลทำให้ผมหงอก
อยากปีนเมฆดูเมืองที่ไกลออกไป
ดูนครหลวงที่ไกลโพ้น
ยืนอยู่ท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิ
ชื่นชมทิวทัศน์ ณ ที่นี้
สวรรค์อยู่บนฟ้าสูง ผืนน้ำสีน้ำเงิน
เป็นทิวทัศน์ที่งามสง่า
ประวัติศาสตร์ทางตะวันออกเห็นเป่ยกู้มีเหตุหลายหลากปรากฏ
เรื่องราชวงศ์ภาคใต้ที่โหดร้ายก็ยังเป็นที่กล่าวถึง
กล่าวกันว่ามีสุสานกษัตริย์ที่เจิ้นเจียงนี้ แต่ไม่น่าเชื่อ
มองจากที่นี่เห็นวิญญาณร่ายรำในสายน้ำ
หวังว่าในอนาคตจะได้เป่าขลุ่ยในแสงจันทร์
ระหว่างฤดูใบไม้ผลิจะได้ล่องเรือข้ามแม่น้ำกลับบ้านทาง
ทิศตะวันออก
เขียนบทกวีนี้สมัยจักรพรรดิเจียจิ้ง ให้เจ้าอาวาส[4]


อ้างอิง

1. เจียงหนานแสนงาม หน้า 204
2. เจียงหนานแสนงาม หน้า 205
3. เจียงหนานแสนงาม หน้า 202
4. เจียงหนานแสนงาม หน้า 208