Please wait...

<< Back

นานกิง

(น. 93) ญี่ปุ่นนำพระธรรมและวิทยาการต่างๆ ไปสู่ญี่ปุ่น พยายามไปถึง 6 หน จึงไปถึง ไปเผยแพร่พุทธธรรม 10 ปี และมรณภาพที่นั่น ญี่ปุ่นระลึกถึงบุญคุณทำรูปไว้บูชา ค.ศ. 1963 ครบรอบ 1,200 ปีของการมรณภาพ รัฐบาลสร้างหอที่ระลึกเอาไว้ที่วัดต้าหมิงนี้ ยังมีโบราณสถานอีกมากในสี่เมืองนี้ (หนานจิง หยังโจว ซูโจว หังโจว) มีนิทานประกอบด้วย แต่ร้อยคำไม่สู้ไปดูหนเดียว จะกล่าวไปก็ยาวเปล่าๆ สู้ไปดูเองไม่ได้ ข้าพเจ้าว่า เมื่อสามปีก่อนไปล่องแม่น้ำฉังเจียง ลงเรือที่นครฉงชิ่งไปขึ้นบกที่นครอู่ฮั่น ต่อทางบกไปหวงซาน เซี่ยงไฮ้ คราวนี้เหมือนได้ดูต่อลงมา คราวก่อนดูโครงการเขื่อนซานเสีย เมื่อโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้วจะไปอีกเพื่อดูว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร ท่านหูว่า โครงการนี้ถ้าสร้างเสร็จก็จะเหมือนที่ท่านประธานเหมาประพันธ์ไว้ว่า จะมีทะเลสาบราบเรียบอยู่ในช่องเขาสูง จะผลิตกระแสไฟฟ้าได้ใน ค.ศ. 2003 หวังว่าจะได้ต้อนรับ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบนั้น ประธานาธิบดีเจียงก็ได้รับเชิญเป็นพระราชอาคันตุกะในต้นเดือนกันยายนนี้ ช่วงที่ศตวรรษหนึ่งกำลังจะผ่านไปและศตวรรษใหม่จะมาถึงนั้น การเยือนนี้มีความหมายยิ่งทางประวัติศาสตร์ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศเจริญขึ้นอีก ข้าพเจ้าว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยจีน เวลามีผู้นำจีนเข้าเฝ้าก็จะทรงสนทนาอยู่ด้วยนาน คราวนี้คงได้สนทนากันอย่างน่าสนใจ


(น. 94) รูป 73 ออกจากมหาศาลาประชาชน
Leaving the Great Hall of the People.

(น. 94) ท่านรองประธานาธิบดีฝากถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าลาท่านหู ออกจากมหาศาลาประชาชนกลับไปที่เตี้ยวอวี๋ไถ รับประทานอาหารเย็นแล้วไปท่าอากาศยาน มีรองอธิบดีกรมเอเชียมาส่ง นั่งเครื่องบิน China Eastern Airline เที่ยวบิน MU 5170 ไปสนามบินหลูโข่วที่นานกิง มีพวกเจ้าหน้าที่มณฑลเจียงซูมาต้อนรับ ฝ่ายไทยมีคุณศรศิลป์ พลเตชา กงสุลใหญ่ ณ เซี่ยงไฮ้ และภรรยา พวกเจ้าหน้าที่เจียงซูกับข้าราชการสถานกงสุลมารับหลายคน ไปที่โรงแรมจินหลิง โรงแรมนี้สร้างขึ้นหลายปีแล้ว แต่ยังปรับปรุงอย่างดี เป็นโรงแรมที่เป็นของจีนแท้ๆ ไม่ได้เป็นสาขามาจากต่างประเทศ ทางสถานกงสุลและโรงแรมจัดอาหารค่ำเอาไว้ เลยฉลองศรัทธา

เจียงหนานแสนงามหน้า 99,100,113,124,132,138,139,140

(น. 99) ที่ห้องโถงแรก ในอาคารพิพิธภัณฑ์ มีภาพสลักนูนต่ำรูปผู้นำพรรคในสมัยปฏิวัติ มีท่านโจวเอินไหล เติ้งอิ่งเชา ต่งปี้อู่ และผู้นำพรรคคนอื่นๆ อีก 4 คน ทำเป็นรูปตัว S กลับข้าง แสดงว่าการปฏิวัติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่คดเคี้ยวยากลำบาก ข้างหลังมีภาพสีน้ำมันเป็นรูปหมู่บ้านและคำคมของท่านโจวเอินไหลว่า ฟันฝ่าต่อสู้จนถึงที่สุด สัประยุทธ์ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและสันติภาพ จัดแสดงนิทรรศการเล่าประวัติศาสตร์ตามลำดับดังนี้
ห้องที่ 1 แสดงการเจรจาระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับพรรคก๊กมินตั๋งที่นครฉงชิ่ง เจียงไคเช็กกับเหมาเจ๋อตงถ่ายรูปร่วมกัน เจรจากัน 43 วัน แล้วแถลงสัญญาสันติภาพ มีงานเลี้ยงฉลองชนแก้วกันเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1945 แต่ว่าถึงวันที่ 11 กลับขัดแย้งกันอีก เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1946 ก๊กมินตั๋งย้ายเมืองหลวงมานครนานกิง ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็มาด้วย (มีรูปอาคารที่ทำงานพรรคในสมัยนั้น และรูปผู้นำพรรค 5 คน)
ห้องที่ 2 มีรูปบ้านเลขที่ 30 ในตู้โชว์แสดงบัตรประจำตัวของสมาชิกพรรค มีรูปถ่ายติดไว้ด้วย นอกจากนั้นแสดงใบสำมะโนครัวของครอบครัวท่านโจวเอินไหล


(น. 99) รูป 78 บัตรประจำตัวสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์
Identity cards of members of the Communist Party.


(น. 100) รูป 79 ภาพโจวเอินไหลและผู้แทนสหรัฐอเมริกา
Zhou Enlai and the United States' representative.

(น. 100) ต่อจากการเจรจาที่ฉงชิ่ง พรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์เปิดการเจรจากันอีกที่นานกิง มีแผนที่แสดงว่าฝ่ายก๊กมินตั๋งเข้าแทรกแซงกองทัพแดงที่หลี่เซียนเนี่ยนเป็นผู้บัญชาการก๊กมินตั๋งส่งกองทัพมา 3 แสนคน และมาแบ่งกองทัพแดงเป็น 4 ส่วน เกิดรบกัน มีการกวาดล้างหมู่บ้านของคอมมิวนิสต์เป็นพันครั้ง มีรูปคณะผู้แทนพรรค ขณะเดินทางไปกองบัญชาการที่ซวนฮวาเตี้ยน ฝนตกหนัก ต้องเดินท่องแม่น้ำไป รูปหนังสือพิมพ์ลงข่าวเจรจาที่ซวนฮวาเตี้ยน
ห้องที่ 3 มีรูปของท่านโจวเอินไหลและผู้แทนของสหรัฐอเมริกาที่ซวนฮวาเตี้ยน รูปท่านโจวท่องน้ำที่ดูเมื่อสักครู่นี้เป็นฝีมือถ่ายภาพของผู้แทนสหรัฐอเมริกาท่านนี้ หนังสือพิมพ์ลงเรื่องการสงบศึกที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน แต่ล้มเหลวเพราะพรรคคอมมิวนิสต์รู้สึกว่าก๊กมินตั๋งมีข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผล ภาพแสดงเสื้อของท่านโจวเอินไหล

(น. 113) สมัยราชวงศ์หมิง มีอู่ต่อเรือใหญ่อยู่ที่นานกิง เรือที่ต่อที่นานกิงนี้สามารถออกทะเลใหญ่ได้ เช่น เรือที่เจิ้งเหอ ขันทีผู้ใหญ่ในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ (ค.ศ. 1402 – ค.ศ. 1424) แห่งราชวงศ์หมิงใช้เดินทางสำรวจย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อแสดงแสนยานุภาพของจีน ยังมีสมอเหล็กของเรือยุคนั้นเก็บเอาไว้ มีขนาดใหญ่มาก พาหนะทางบก ได้แก่ รถ มีเครื่องประดับรถ ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถทำด้วยสำริด ตั้งแต่ 770 ปีก่อนคริสตกาล มีหุ่นจำลองรถสมัยราชวงศ์ฮั่น และราชวงศ์ถัง รถกลอง รถลาก เกี้ยวเจ้าสาว เครื่องทอผ้าชนิดต่างๆ เรื่องของผ้า แสดงตุ๊กตาแต่งกายสมัยต่างๆ แสดงให้ดูว่ากิโมโนของญี่ปุ่นก็ดัดแปลงมาจากเสื้อผ้าสมัยราชวงศ์ถัง แสดงผ้าและการแต่งกายสมัยราชวงศ์ชิง ลงไปชั้นล่าง เป็นห้องแสดงประวัติศาสตร์เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียนเปิดให้ชมฟรี


(น. 113) รูป 93 เครื่องทอผ้า
A loom.

(น. 124) ยอดเขานี้สูง 448 เมตร สุสานสูง 158 เมตร มีต้นไม้ขึ้นโดยรอบ ปลูกสนที่นำพันธุ์มาจากอินเดีย เมื่อขึ้นไปข้างบนเห็นทัศนียภาพเมืองนานกิง ถือเป็นหนึ่งใน 14 ทัศนียภาพสำคัญที่รัฐบาลได้ประกาศใน ค.ศ. 1992 ในวันที่ 12 มีนาคมอันเป็นวันถึงแก่อสัญกรรม และวันที่ 12 พฤศจิกายน อันเป็นวันเกิด จะมีคนมาเคารพศพมาก นักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าปีละ 6 ล้านคน ขาเดินลงแวะซื้อของที่ระลึกตามร้านเล็กๆ แล้วขึ้นรถเดินทางไปที่สวนพฤกษศาสตร์หนานจิง สวนนี้ตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1929 เพื่อเป็นที่ระลึกถึงดร.ซุนยัดเซ็น มีเนื้อที่ 186 เฮกตาร์ มีพันธุ์ไม้กว่า 3,000 ชนิด ผู้มาต้อนรับชื่อรองศาสตรจารย์กังจงเริ่น เป็นรองผู้อำนวยการสถาบันพฤกษศาสตร์ของสวนพฤกษศาสตร์หนานจิง ช่วงนี้เป็นช่วงที่ดอกไม้ต่างๆ เริ่มออกดอกแต่ก็ยังไม่บานเต็มที่ เพราะเพิ่งเริ่มฤดูชุนเทียนหรือฤดูใบไม้ผลิ ที่มีมากคือดอกเฉียงเวยหรือกุหลาบจีน เป็นกุหลาบเลื้อย อิงฮวาหรือซากุระ ได้จากประเทศญี่ปุ่น ออกดอกสีชมพูอ่อนเต็มต้น ไม่มีใบเลย ดอกเหมยสีต่างๆ ดอกกุหลาบอีกชนิดหนึ่งเรียกว่าเย่ว์จี้ (Rosa chinensis) ต้นท้อชนิดต่างๆ ต้น Apricot ซึ่งภาษาจีนเรียกว่าซิ่งหรือเหง ดอกไห่ถังในสวนนี้ยังไม่ออกดอก เดือนหน้าจึงออกดอก อวี้หลานหรือแม็กโนเลียกำลังออกดอก ดอกวิสทีเรีย (Wisteria sinensis) ดอกสีม่วงอ่อน

(น. 132) รูป 109 ลูกโลกโบราณ


(น. 132) รูป 109 ลูกโลกโบราณ
Celestial globe, an astronomical instrument from the Ching Dynasty.

(น. 132) หลังจากดูสวนพฤกษศาสตร์แล้ว เราไปที่หอดูดาว Purple Mountain Observatory หอดูดาวตั้งอยู่บนเขาซีจิ๋นในภูเขาจื่อจินซาน (จื่อจิน = สีม่วงอมทอง ซาน = ภูเขา) ทางตะวันออกของนานกิง สร้างเมื่อ ค.ศ. 1929 แล้วเสร็จใน ค.ศ. 1934 เป็นที่ศึกษาวิชาดาราศาสตร์สาขาต่างๆ มีกล้องส่องดาวของเก่าเขาก็ยังใช้อยู่ แต่งานใหม่ๆ ที่ทำก็ต้องใช้กล้องที่ดีควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ มีอุปกรณ์ดาราศาสตร์โบราณอยู่หลายชิ้นเช่น ลูกฟ้า (Celestial Globe) เป็นเครื่องมือสำริดสร้างใน ค.ศ. 1905 ปลายสมัยราชวงศ์ชิง แสดงแผนที่ดาว 1,448 ดวง (ขณะนั้นยังไม่มีการใช้กล้องโทรทัศน์ใหญ่ๆ) แสดงตำแหน่งดาว และการเคลื่อนไหวของดาวเหล่านี้


(น. 138) รูป 113 ศาลเจ้าขงจื๊อ
Confucius Shrine.

(น. 138) ศาลเจ้าขงจื๊อ ข้าพเจ้าสงสัยว่า ขงจื๊อกับขนมเกี่ยวพันกันอย่างไร ผู้ว่าราชการบอกว่า ที่นั่นเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมต่างๆ รับประทานเสร็จแล้วไปได้ ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายดูแลความปลอดภัยก็บอกว่าไปได้ พักสักครู่ไปที่ศาลเจ้าขงจื๊อ เข้าทางประตูหน้าไปเป็นสวน มีรูปสำริดขงจื๊อ ในอาคารมีภาพประดับเปลือกหอยเล่าประวัติขงจื๊อในช่วงอายุ ต่างๆ ศาลนี้สร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1034 ซ่อมใหม่ ค.ศ. 1984 ตอนนี้คงมีงานเทศกาลของศาล มีโคมรูปต่างๆ เช่น ซิ่วกับนกกระเรียน (ภาษาจีนกลางใช้ว่า โซ่ว) ดอกบัวมีนางฟ้า โคมเล็กหลายรูปแบบ มีสีต่างๆ สวยงาม แถวๆ นั้นมีของขายแยะจริงๆ แต่เขาไม่ได้ให้ไปซื้ออะไร วันนี้มีคนมาก ไปศาลเจ้าขงจื๊อแป๊บเดียวแล้วกลับที่พัก วันนี้เที่ยวเมืองหนานจิง (นานกิง) ทั้งวัน เลยขอเล่าประวัติของเมืองนี้ไว้สักเล็กน้อย นานกิงตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกทางตอนใต้ของแม่น้ำฉังเจียง (แยงซีเกียง) มีหลักฐานสมัยประวัติศาสตร์ให้ศึกษาย้อนหลังไปได้ 2,300 กว่าปี เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ต่างๆ

(น. 139) รวมทั้งพวกกบฏไท่ผิงและรัฐบาลก๊กมินตั๋ง จึงได้รับการเรียกขานว่า “นครแห่งเมืองหลวงสิบราชวงศ์” เมืองนานกิงมีหลายชื่อเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละสมัย เช่น จินหลิง มั่วหลิง เจี้ยนเยี่ย เจี้ยนคัง เจียงหนิง และหนานจิง เนื่องจากเคยมีชื่อว่า เจียงหนิง เมืองหนานจิง จึงมีชื่อย่อว่า หนิง และชื่อมณฑลเจียงซูก็มาจากอักษรคำแรกของเมืองเจียงหนิงกับเมืองซูโจว เมืองนานกิงล้อมรอบด้วยแม่น้ำลำคลองและภูเขาน้อยใหญ่ ทิวทัศน์สวยงามยิ่ง ทางด้านเหนือมีแม่น้ำแยงซีไหลผ่าน ส่วนทางตะวันออกเฉียงเหนือมีภูเขาจื่อจินซานหรือจงซานหนือจินหลิงซาน ที่เรียกกันว่า จื่อจินซาน ซึ่งแปลว่า ภูเขาม่วงอมทอง นั้น เพราะเป็นภูเขาที่มีแผ่นชั้นหิน (shale) สีม่วง เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ หากมองระยะไกล จะเห็นเป็นสีม่วงอมทอง เขาจื่อจินซานทอดตัว


(น. 139) รูป 114 มีโคมไฟต่างๆ
Lanterns in various shapes.

Next >>