<< Back
" คืนถิ่นจีนใหญ่ วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2540 "
(น.48) รูป 41 เจดีย์ไม้แกะสลักปิดทอง สูง 3 เมตร
(น.49) รูป 42 กระถางธูปทำด้วยหินอุกกาบาต
รูป 43 หลวงจีนที่ต่อต้านญี่ปุ่นด้วยการกัดลิ้นเอาเลือดมาเขียนพระสูตร
รูป 44 มู่หยู (เครื่องเคาะจังหวะรูปปลา) แขวนไว้ที่ระเบียง
(น.50) รูป 45 เจ้าอาวาสให้ของที่ระลึก
(น.50) เซ็น ในญี่ปุ่น) ซึ่งเน้นในเรื่องการทำสมาธิเพื่อบรรลุความรู้แจ้งเห็นจริง หรือการทำจิตว่าง
ยิ่งกว่าการศึกษาพระธรรมจากคัมภีร์ และไม่เน้นเรื่องโครงสร้างทางการปกครอง อย่างไรก็ตามพระสงฆ์นิกายฉานจงในจีนก็ศึกษาพระสูตรมหายาน
เช่น ปรัชญาปรมิตาสูตร อวตังสกสูตร ลังกาวตารสูตร และวิมลกีรตินิเทศสูตร พระสงฆ์ที่นำนิกายธยานะมาเผยแพร่ในจีน คือ พระโพธิธรรม ชาวอินเดีย
ชาวจีนเรียกว่า พระตั๊กม้อ เข้ามาเผยแพร่ศาสนาในจีนราวต้นคริสศตวรรษที่ 6 (ค.ศ. 527)
วัดในนิกายฉานจงที่มีชื่อเสียง และคนไทยรู้จักดีจากภาพยนตร์ทีวีคือ วัดเส้าหลิน
ที่นี่เห็นมีคนมากันมาก ทั้งชาวบ้านแถวๆ นี้และนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะออกจากวัด มีคนไทยมาทัก เขาบอกว่าเขาไปล่องแม่น้ำแยงซีไปถึงอู่ฮั่นและบินมาเที่ยวที่นี่ต่อ
(น.50) รูป 46 ดอกบัวที่วัด
(น.51) อีกอย่างหนึ่งคือดอกบัวที่นี่ ดอกใหญ่และสวยมากทั้งบัวสีขาวและสีชมพู ต้นไม้อื่นๆ ก็เหมือนเมืองไทย เช่น มีต้นแก้ว ต้นส้มจี๊ด
กลับไปที่โรงแรมจินม่าน นายเฉินเฮ่าเหวิน รองนายกเทศมนตรีเมืองเฉาโจว (แต้จิ๋ว)
ต้อนรับ เขากล่าวว่า นายกเทศมนตรีไม่อยู่เพราะต้องไปประชุมที่กวางโจว เขาอธิบายเรื่องเมืองแต้จิ๋วว่า
มีประชากร 2,300,000 คน มี 2 อำเภอ 2 เขต ขึ้นกับรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง มีประวัติยาวนานมาถึง 1,600 กว่าปี มีโบราณสถาน
โบราณวัตถุมาก บรรพบุรุษของชาวจีนอพยพส่วนใหญ่มาจากเมืองนี้ โดยเฉพาะพวกที่อยู่เมืองไทย ฉะนั้นจะมีการประชุมชาวแต้จิ๋วทั่วโลกที่นี่
(น.51) รูป 47 อาหารกลางวันที่โรงแรมจินม่าน
(น.52) เมื่อกล่าวจบก็เชิญรับประทานอาหารกลางวัน วันนี้ก็ให้จิบน้ำชา เขาว่าชาชนิดนี้แพงมาก ครึ่งกิโลกรัมราคามากกว่า 1,600 หยวน
ได้รางวัลเหรียญทอง แต่ละปีผลิตได้ไม่มาก ปีที่มีน้อยมีเงินก็ซื้อไม่ได้ ชาพวกนี้ต้องดื่มภายในปี เก็บไว้นานๆไม่ดี
เขาคุยว่าเมืองนี้ค้าขายกับต่างประเทศมาก มูลค่าส่งออกมากกว่านำเข้า สินค้าสำคัญ ได้แก่ อาหารแปรรูป (ขายปลาไหลได้มาก)
เครื่องเย็บปักเสื้อและผ้า มีชื่อแห่งหนึ่งใน 4 แห่งคือ ปักกิ่ง ซูโจว เสฉวน และที่นี่ เครื่องปั้นดินเผาแต้จิ๋ว มีศิลปะดี เขาบอกว่าของขวัญที่เติ้งเสี่ยวผิงให้กิมอิลซุง
อดีตผู้นำเกาหลีเหนือก็ทำที่แต้จิ๋ว แหล่งเครื่องปั้นที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น ชานตุง เจียงซู เจียงซี (กังไส) กวางตุ้งที่โฝซาน เซรามิกที่ใช้ในเครื่องอิเล็คโทรนิคส่งขายญี่ปุ่น นอกจากนี้มียาสมุนไพร
อาหารที่นี่อร่อยมากตามเคย มีหูฉลามแบบแต้จิ๋ว น้ำหูฉลาม ที่เหลือก็เอามาทำซุปผักต่อ ขนมต่างๆ อีกหลายชนิด
จากนั้นนั่งรถกลับไปขึ้นเครื่องบินลำเดิมที่สนามบินซัวเถาไปนครกวางโจว นครกวางโจวนี้เป็นเมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้งอยู่ตอนบนของที่ราบลุ่มแม่น้ำจูเจียง
หรือแม่น้ำไข่มุก นครกวางโจวนี้ถือว่าเก่าแก่มาก มีอายุกว่า 2,200 ปี ตั้งเมืองมาตั้งแต่ก่อนสมัยสามก๊ก มีประวัติเป็นนิทานปรัมปราเล่ากันว่า
ในอดีตมีเทวดา 5 องค์ ขี่แพะ 5 ตัว ลงจากสวรรค์ มาที่กวางโจวนี้เพื่อนำรวงข้าวมาให้ชาวบ้าน ทำให้เมืองนี้อุดมสมบูรณ์ ปัจจุบันนี้เป็นเมืองหลักทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนในการค้าระหว่างประเทศ เป็นเมืองขนาด
(น.53) ใหญ่ที่สุดของจีนตอนใต้ มีงานแสดงสินค้าส่งออกของจีนปีละ 2 ครั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1957
เมื่อไปถึงสนามบินมีนายหลูจงเหอ รองผู้ว่าราชการมณฑลมาต้อนรับ พาไปที่มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศและการค้าต่างประเทศกวางโจว
ระหว่างทางได้ชมตัวเมืองกวางโจวซึ่งเป็นเมืองใหญ่ มีการก่อสร้างมาก มีแต่ตึกสูงๆ สร้างแทนตึกเก่าๆ
ที่อยู่อาศัยก็ดูจะกลายเป็นคอนโดหรืออาคารสงเคราะห์ไปหมด ถนนหนทางมาก มีถนนให้คนเดิน ถนนจักรยาน ผู้คนมีจำนวนมาก แต่บ้านเมืองก็ดูสะอาดดี
มีคนเก็บขยะแต่งชุดสีแดงคอยเก็บกวาด ในเมืองมีป้ายคำขวัญการคืนฮ่องกงตลอดทาง
เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัย อธิการบดีคือ ศาสตรจารย์หวงเจี้ยนหัวและคณาจารย์ต้อนรับ พาขึ้นไปที่ห้องรับแขก อาคารคณะภาษาตะวันออก ชั้นที่ 5 (เดินขึ้นไป)
อธิการบดีแนะนำมหาวิทยาลัยว่ามหาวิทยาลัยนี้ขึ้นตรงกับมณฑลกวางตุ้ง ก่อตั้งเมื่อค.ศ. 1995 โดยการรวมมหาวิทยาลัย 2 แห่งคือ มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกวางโจว
ซึ่งขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ และมหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศกวางโจว ซึ่งขึ้นกับกระทรวงการคลังเข้าด้วยกัน มหาวิทยาลัยภาษาต่างประเทศกวางโจวตั้งขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1965
ผู้ตั้งคือ นายกรัฐมนตรี โจวเอินไหล ตั้งแต่ ค.ศ. 1965-1995 มีนักศึกษาที่สำเร็จระดับอนุปริญญาและปริญญาตรีไปกว่า 9,000 คน ปริญญาโทและปริญญาเอกกว่า 200 คน
รวมทั้งยังอบรมภาษาให้บุคคลภายนอกอีกกว่า 10,000 คน นับว่าเป็นศูนย์อบรมทางภาษาที่สำคัญ
Next >>