<< Back
" คืนถิ่นจีนใหญ่ วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2540 "
(น.174) รูป 155 เด็กพิการเล่นดนตรีให้ฟัง
(น.175) รูป 156 เขามีวิธีให้เด็กพิการพิมพ์ภาษาจีนได้ แป้นพิมพ์มีพลาสติกครอบ
รูป 157 กิจกรรมศิลปะของเด็กพิการ
(น.175) ไว้เพื่อไม่ให้มือที่ควบคุมได้ไม่ดีไปโดนตัวอักษรที่ไม่ต้องการ มี Function ที่ช่วยในการพยายามเขียน software
ที่ช่วยในการพิมพ์อักษรจีนให้ ง่ายกว่าปกติ และพิมพ์มือเดียวได้
นอกจากเรื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็ยังมีงานประดิษฐ์ต่างๆ ที่เป็นทั้งบทเรียนวิชาศิลปะ และเป็นกิจกรรมหลังเวลาเรียนตอนเย็นที่ครูและเจ้าหน้าที่ใช้ให้ความรู้ซ่อมเสริมจากบทเรียน
เช่นการทำหุ่นสำหรับละครหุ่นเล่านิทาน หรือในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการคืนฮ่องกง ก็ให้เด็กประดิษฐ์รูปเกาะฮ่องกงโดยใช้วัสดุต่างๆ
การประดิษฐ์นี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มทักษะทางศิลปะ สร้างนิสัยรักศิลปะแล้ว ยังเป็นกายภาพบำบัดอย่างหนึ่ง ช่วยในการแก้ไขความบกพร่องของกล้ามเนื้อมัดเล็ก เด็กพวกนี้นอกจากจะได้ทำกิจกรรม
(น.176) รูป 158 เด็กพิการให้รูปวาด
(น.176) ด้านศิลปะในสถานที่แล้ว เขายังพาออกไปเที่ยวนอกสถานที่เป็นครั้งคราว
ได้ดูห้องพักเด็กชายและห้องพักเด็กหญิง ที่เขาให้ดูเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เป็นส่วนที่จัดให้ดูได้ง่ายๆ เพื่อให้ได้แนวคิดว่าเขาจัดอย่างไร ห้องนอนต้องติดแอร์เพราะเสียงเครื่องบินดังมาก
และห้องน้ำที่เขาจัดเอาไว้ ช่วยให้เด็กหัดช่วยตัวเอง เช่น มีราวให้เกาะเดินเอง มีเครื่องซักผ้า เครื่องทำให้ผ้าแห้ง ที่ตากผ้า
ซึ่งจัดให้คนที่ต้องนั่งเก้าอี้เข็นทำได้เอง เครื่องเป่าผมที่คนถือเครื่องเป่าผมไม่ได้ ส้วมก็มีลักษณะพิเศษ ห้องอาบน้ำที่ทำให้คนนั่งอาบน้ำเองได้
(น.177) รูป 159 เตียงเด็กพิการ
รูป 160 เครื่องสุขภัณฑ์คนพิการ
รูป 161 เครื่องสุขภัณฑ์คนพิการ
(น.178) คนที่พอจะมีเงินจ่ายให้ เขาคิดเงินค่าที่พักอาศัยเป็นเงิน 400 เหรียญฮ่องกงต่อเดือน รัฐบาลช่วยเหลือผู้ที่จ่ายไม่ได้
ที่จริงเงินที่เก็บจากนักเรียนให้เด็กเป็น pocket money ไม่ได้ใช้บำรุงโรงเรียน มีเจ้าหน้าที่ 140 คน มีอาสาสมัครมาช่วยในด้านต่างๆ
อีกหลายอย่างเก้าอี้รถเข็นที่จัดไว้ไห้เด็ก ใช้เป็นเก้าอี้รถเข็นไฟฟ้า ที่คนพิการสามารถขับไปไหนๆ ได้ด้วยตนเอง มีเจ้าหน้าที่มาช่วยฝึกพูด
(speech therapy) สำหรับคนที่มีปัญหาในด้านการได้ยินและการพูด คนที่ไม่สามารถใช้มือได้มีเครื่องมือที่สามารถทำให้ใช้ศีรษะแทน( head pointer)
มีการฝึกพิเศษสำหรับคนที่บกพร่องทางปัญญา ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก ถามถึงคนตาบอด หูหนวก เขาบอกว่ามีโรงเรียนสอนคนตาบอด
สอนคนหูหนวกต่างหากเป็นของรัฐบาล กาชาดก็คงทำได้เฉพาะเท่าที่มีกำลัง ลืมถามเขาถึงรายละเอียด แต่เข้าใจว่าเมื่อฟื้นฟูได้ถึงระดับหนึ่งอาจจะส่งต่อไปโรงเรียนอื่น
เมื่อออกจากกาชาดฝนตกนิดหน่อย กลับไปบ้านพัก พยายามรีบรับประทาน แต่ก็รีบไม่ได้เพราะว่าสั่งอาหารจีนมารับประทาน และอาหารจีนนี้มักจะทำช้า
ยังรับประทานไม่ทันจะเสร็จศาสตราจารย์หวังกังวูกับภรรยาก็มาตามนัด จึงต้องรีบออกไปรับ ข้าพเจ้ารู้จักท่านศาสตราจารย์มานาน
(น.178) รูป 162 ศาสตราจารย์หวังกังวูและภรรยามาเยี่ยม
(น.179) รูป 163 ถ่ายกับกิมย้ง
(น.179) แล้ว เขาเพิ่งย้ายจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงไปอยู่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ได้ไม่ถึงสองปี ไปดูที่ดาดฟ้ายังชี้ให้ดูเรือนที่เคยอยู่ตอนยังทำงานมหาวิทยาลัยฮ่องกง
ความเห็นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจฮ่องกงหลังจากการกลับคืนสู่จีนนั้น ว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ก่อนดูเหมือนจะมีเรื่องยุ่งยาก ขัดแย้งกับอังกฤษ
คนก็กลัวและทายว่าเศรษฐกิจจะแย่ แต่ตอนนี้ดูจีนจะดูแลฮ่องกงอย่างดี และมีเงินมากพอสมควร คนก็คงจะสบายใจแล้ว ตลาดหุ้นฮั่งเสงก็ขึ้นเรื่อยๆ
ความสำเร็จในฮ่องกงมีความสำคัญต่อสถานะของจีนในเวทีโลก ที่ว่าอีก 50 ปีจะเปลี่ยนแปลงก็ไม่คิดที่จะมีใครมองไกลไปถึงนั่น การเปลี่ยนแปลงต้องมีแน่ ตอนนี้ดูแค่ฮ่องกงไปก่อน
เมื่อศาสตราจารย์หวังกังวูไปแล้ว คุณหลุยส์ ชา (แซ่นี้ภาษาจีนกลางอ่านว่า จา) หรือที่รู้จักกันดีในนามกิมย้ง นักเขียนนวนิยายจีนกำลังภายใน
กิมย้งสนใจประวัติศาสตร์จีนและพระพุทธปรัชญา นำความคิดและเรื่องราวต่างๆ มาเขียนเป็นนวนิยาย เรื่องสุดท้ายที่เขียนคือเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ หลังจากนั้นก็ไม่มีเวลา หันไปทำหนังสือ
(น.180) พิมพ์หมิงเป้า ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์จีนที่มีผู้อ่านมากที่สุดฉบับหนึ่ง ตอนนี้ขายไปแล้ว ทำโรงพิมพ์เดี๋ยวนี้ก็ทำน้อยลง
หันไปสนใจการเดินทางไปมหาวิทยาลัยในยุโรป สอนประวัติศาสตร์ และวรรณคดีจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นและราชวงศ์ถัง หนังสือพิมพ์ก็เลยเขียนแต่เฉพาะบทบรรณาธิการบ้าง
นอกจากนั้นก็มีธุรกิจแถวเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นบ้านเกิด และที่ปักกิ่ง ช่วยกิจการกาชาดด้วย
กิมย้งให้หนังสือแปดเทพอสูรมังกรฟ้าภาษาจีน เขาไม่ทราบเลยว่ามีคนแปลเรื่องของเขาเป็นภาษาไทยและตนเองเป็นที่รู้จักในเมืองไทย
(เพราะเหตุที่คนไทยไม่ค่อยจะมีคนรู้จักเคารพในเรื่องลิขสิทธิ์ หรือสมบัติของคนอื่น)
ถามกิมย้งเรื่องความรู้สึกต่อการกลับคืนสู่จีน เขาว่าคนฮ่องกงทั่วๆ ไปเริ่มต้นก็กังวลอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้รู้จักจีนมากขึ้น ไม่รู้สึกว่าทางด้านเศรษฐกิจมีความแตกต่างจากฮ่องกงในปัจจุบันสักเท่าไร
เขามองกันว่าจะมีโอกาสดีขึ้นในการเปิดโรงงานที่จีน มีที่ทางกว้างขวางขึ้น ถามเขาว่าเมื่อกลับสู่จีนแล้วเสรีภาพในการเขียนและการแสดงจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เช่น หนังสือ หนังสือพิมพ์ หรือหนังจีนที่เราชอบ
กิมย้งไม่คิดว่าจีนจะมายุ่งอะไรในฮ่องกง เขามีส่วนในการร่างระเบียบเกี่ยวกับศิลปะ วรรณคดี หนังจีนฮ่องกง ยิ่งไม่เปลี่ยนยิ่งดีกับจีน เพราะคนจะดูมาก คนดูจะไม่ชอบดูหนังที่ถูกเซนเซอร์ หรือปลุกใจให้รักชาติ
ให้ส่งเสริมชนชั้นกรรมาชีพต่อต้านนายทุน ซึ่งในเมืองจีนอาจจะต้องทำ อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก จีนกับฮ่องกงจะปรับตัวเข้าหากันได้เอง
Next >>