<< Back
ฮ่องกง
คืนถิ่นจีนใหญ่ หน้า 161,162,163,164,169-205
(น.161) รูป 142 เส้นทางวิลสัน
(น.161) วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2540
วันนี้รับประทานอาหารเช้าเร็วกว่าปกติคือ 06.45 น. นพรแนะนำว่าวันนี้ควรรับประทานอาหารเช้าแบบฝรั่งเป็นการส่งท้าย และตั้งแต่พรุ่งนี้เราจะรับประทานอาหารเช้าแบบจีนกัน รับประทานแล้วข้าพเจ้าเริ่มชักชวนคนทั้งบ้านเขียนไปรษณียบัตรถึงตัวเองและเพื่อนฝูง วันนี้ใช้แสตมป์เดิมที่มีรูปควีน พรุ่งนี้ใช้แสตมป์ใหม่
เวลา 07.45 น. ไปยังถนน Tai Tam Reservoir เพื่อเดินทางตามเส้นทางไกลวิลสัน ส่วนที่สอง
เส้นทางวิลสันนี้เป็นเส้นทางเดินเขาที่ลอร์ดเดวิด วิลสัน แห่งทิลยอร์น อดีตผู้ว่าราชการฮ่องกง เป็นผู้ริเริ่ม ท่านผู้นี้ชอบการปีนเขาและเดินทางไกลมาก เวลาข้าพเจ้าไปสก็อตแลนด์ ก็จะไปเดินเขากับท่านลอร์ด ทางเดินวิลสันนี้ข้าพเจ้าได้ทราบจากท่านลอร์ด ก็เลยมีความคิดว่าอยากลองเดินเขาที่ฮ่องกงบ้าง
(น.162) รูป 143 คุณเบอร์นาร์ดอธิบายเส้นทาง
(น.162) เมื่อไปถึงไกด์กิตติมศักดิ์คือ คุณเบอร์นาร์ด ชาน (ชาญวุฒิ โสภณพนิช) อธิบายเส้นทางว่าในฮ่องกงนี้มีทางเดินเขาที่ไม่ห่างไกลจากเมืองนัก คนนิยมเดินออกกำลังกาย ชมธรรมชาติกัน คนที่ชอบกิจกรรมประเภทนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันตก จะเห็นว่ามีคนตะวันออกที่มาเดินเขาไม่มากนัก พวกผู้ว่าราชการฮ่องกงชาวอังกฤษหลายท่านนิยมเดินเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลอร์ดแมคเลโฮส (Mac Lehose) ผู้ว่าราชการระหว่าง ค.ศ. 1970-1982 ท่านผู้นี้เลี้ยงอาหารกลางวันให้ข้าพเจ้าเมื่อข้าพเจ้าไปฮ่องกงใน ค.ศ. 1981 เส้นทาง วิลสันนั้นเชื่อมเส้นทางเดินและอุทยานแห่ชาติเป็นแนวเหนือใต้ ส่วนเส้นทางแมคเลโฮสนั้นเชื่อมแนวตะวันตกตะวันออก
(น.163) เส้นทางวิลสันเริ่มต้นที่ถนน Stanley Gap ทางตอนใต้ของเกาะฮ่องกง ขึ้นไปทางเหนือจนถึง Nam Chung ในเขต New Territories ความยาวตอดเส้นทาง 78 กิโลเมตร แบ่งเป็น 10 ตอน ใช้เวลาเดิน 31 ชั่วโมง เส้นทางวิลสันตอนที่ 2 หรือ Taikoo Section ตั้งต้นตั้งแต่ Parkview ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่อาศัยระดับหรูบนถนน Tai tam Reservoir จนถึงเขต Tai Koo Shing จากนั้นขึ้นรถไฟใต้ดิน (MTR) ข้ามอ่าววิกตอเรียไปขึ้นที่สถานี Lam Tin ความยาวตลอดเส้นทาง 6.6 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2 ชั่วโมง 50 นาที ทางเดินบางส่วนเป็นโขดหินขรุขระ ระหว่างทางมองเห็นอ่างเก็บน้ำ Tai Tam ทางชายฝั่งตอนใต้ของเกาะฮ่องกงซึ่งยังมีสถาพเป็นธรรมชาติอยู่ ที่จุดชมวิวจาร์ดีนส์ ลุกเอาท์มองเห็นวิวด้านเหนือเกาะฮ่องกง รวมทั้งแหลมเกาลูนที่อยู่ตรงข้ามอ่าววิกตอเรีย และสนามบินไคตั๊ก ส่วนที่ข้าพเจ้าเดินนั้นเริ่มต้นจาก Tai Tam Reservoir ไปสิ้นสุดที่ถนน Mt. Parker ในเขต Quarry Bay Country Park ใช้เวลาเดิน 1 ชั่วโมง 30 นาที
(น.163) รูป 144 แผนที่และคำอธิบาย เส้นทางวิลสัน
(น.164) รูป 145 ส่วนหนึ่งของเส้นทางเดิน
(น.164) ส่วนเส้นทางแมคเลโฮส เป็นเส้นทางเดินทางไกลเส้นแรกของฮ่องกงอยู่ในเขต New Territories ตั้งต้นจากคาบสมุทร Sai Kung ทางตะวันออกสิ้นสุดที่เขตเมืองใหม่ Tuen Mun ทางตะวันตก ยาวกว่า 100 กิโลเมตร แบ่งออกเป็น 10 ตอน (section)
Sai Kung East Country Park เป็นอุทยานแห่งชาติหนึ่งใน 8 แห่งที่เส้นทางแมคเลโฮสผ่าน เส้นทางที่ข้าพเจ้ากะจะเดินเป็นส่วนหนึ่งของตอนที่ 2 โดยตั้งต้นตั้งแต่ถนน Sai wan ไปสิ้นสุดที่ Chek Keng จากนั้นนั่งเรือไปขึ้นท่า Wong Shek ใช้เวลาเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง ดุเดือดกว่าที่จะเดินวันนี้มาก
(น.164) รูป 146 ทิวทัศน์ข้างทาง
(น.169) รูป 153 ไปถึงเหมืองเก่า
(น.169) นอกจากนั้นตามทางเดินยังมีเสาบอกระยะทางเอาไว้ทุก 50 เมตร เพื่อคนที่เดินเล่นเกิดป่วยหรือมีปัญหาอะไรจะได้โทรศัพท์บอกให้คนอื่นมาช่วยสามารถอธิบายได้ว่าตัวเองอยู่ตรงไหน เช่น อยู่ที่เสา H 054 วิธีนี้ข้าพเจ้าได้ยินว่าเริ่มมีคนคิดว่าจะทำในเมืองไทย เช่น ที่สวนลุมพินี
เดินไปถึงส่วนหนึ่งของเส้นทางฮ่องกง เป็นทางเดินรอบเกาะ
ก่อนจะกลับฝนตก ยังดีที่เดินเกือบถึงที่หมาย ก่อนจะถึงเราเดินผ่านเหมืองหินเก่า
(น.170) กลับบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปกาชาด ฟังวิทยุมีข่าวว่ามีคนนิยมจีนจะไปบังคับให้นายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ ของอังกฤษขอโทษที่ย่ำยีประเทศจีนในสงครามฝิ่น แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจเพราะเป็นคนหมู่น้อย คนที่ประท้วงจีนก็ไม่มีใครสนใจเช่นกัน ก็ดีแล้ว ทุกอย่างเป็นเรื่องในอดีต ปัจจุบันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะการร่วมมือกันในการปรับปรุงบ้านเมืองให้ดี
เดินทางไปกาชาดฮ่องกง กาชาดฮ่องกงนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1950 เป็นสาขาของกาชาดอังกฤษ แต่มีอิสระในการบริหาร และจัดการเงินเอง วัตถุประสงค์ของกาชาดฮ่องกงก็เหมือนกับกาชาดของประเทศต่างๆ โดยทั่วไปคือ ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บจากสงครามและภัยพิบัติต่างๆ ปรับปรุงสุขภาพ ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและช่วยขจัดความทุกข์ยากของประชาชนทั่วโลก
กิจกรรมภายในฮ่องกง ได้แก่ การบรรเทาสาธารณภัย การรับบริจาคโลหิต การให้ยืมเครื่องมือหรืออุปกรณ์การแพทย์ จัดตั้งกลุ่มยุวกาชาดและอาสากาชาด อุปถัมภ์โรงเรียนและสถานสงเคราะห์คนพิการ 5 แห่ง
กิจกรรมระหว่างประเทศ มีอาทิ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมและแข่งขัน Asia Pacific Regional First Aid Competition and Workshop ครั้งแรกที่ฮ่องกงใน ค.ศ. 1995 ส่งอาสาสมัครเข้าร่วมกิจกรรมในภูมิภาค เช่น ในฟิลิปปินส์ ลาว จีน ญี่ปุ่น และไทย
ปัจจุบัน Mrs. Betty H. P. Tung ภริยาของ Chief Executive ของ HKSAR เป็นผู้อำนวยการกาชาดฮ่องกง
(น.171) รูป 154 เยี่ยมโรงเรียนสอนเด็กพิการของกาชาดฮ่องกง
(น.171) Princess Alexandra Red Cross Residential School ที่ Kwun Tong ฝั่งเกาลูน ที่เรามาเยือนนี้ จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาการศึกษา สุขภาพและทักษะสำหรับคนพิการ หรือมีปัญหาที่ไม่สามารถเข้าโรงเรียนปกติได้ กาชาดฮ่องกงเริ่มตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1962 รับเด็กพิการกำพร้า หรือเด็กพิการที่พ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้จำนวน 60 คน จัดการศึกษาระดับประถมศึกษา 3 ห้องเรียน กรมประชาสงเคราะห์ฮ่องกงสนับสนุนด้านการเงิน ปีต่อมาจึงจดทะเบียนเป็นโรงเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ รัฐบาลฮ่องกงเป็นผู้อุดหนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าใช้จ่ายของนักเรียนประจำ อีก 20 ปีต่อมาจึงขยายการศึกษาถึงระดับมัธยม ปัจจุบันนี้มีนักเรียน 180 คน เป็นนักเรียนประจำครึ่งหนึ่ง มีชั้นเรียน 18 ห้อง ตั้งแต่ชั้นเตรียมประถมไปจนถึงชั้นมัธยม นักเรียนทั้งหมดเป็นคนพิการทางกายหรือพิการทางสมอง นอกจากให้การศึกษาแล้ว ยังบำบัดรักษาเพื่อช่วยเหลือให้นักเรียนปรับตัวเข้ากับสังคม ฝึกอาชีพ และสามารถเรียนต่อระดับสูงได้
(น.172) เมื่อข้าพเจ้าไปถึง มีพวกกาชาดคอยต้อนรับอยู่ รองผู้อำนวยการคือ Mrs. Patricia Ling เลขาธิการกาชาดคือ Ms. Christine Fang มีเจ้าหน้าที่กาชาดอีกหลายคน รวมทั้งอาจารย์ของโรงเรียนเด็กพิการ ส่วนใหญ่คนที่ทำงานกาชาดจะเป็นอาสาสมัคร มีงานการอื่นๆ หลายอย่าง ทำงานกาชาดเป็นการกุศลเพิ่มมาอีกอย่าง ได้พบเพื่อนเก่าคือสองพี่น้องตระกูลโอวหยัง (Alvin Owyang และ Ivan Owyang) ข้าพเจ้าตามหาเขาไม่พบเพราะว่าเขาย้ายบ้าน พอดีมีอาสากาชาดชื่อป้าเบตตี้รู้จักกับครอบครัวนี้เลยนัดกันได้ อัลวินกับไอเวิ่นบอกว่าจะมาเดินกับข้าพเจ้าตอนไปเส้นทางเดินแมคเลโฮส
เมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคมปีที่แล้ว เรามีการประชุมกาชาดอาเซียน มีประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอาเซียนมาร่วมสังเกตการณ์รวมทั้งฮ่องกงด้วย พวกเราเชิญผู้สังเกตการณ์ให้ขึ้นมาพูด เพราะประเทศเหล่านี้มีประสบการณ์ที่น่าสนใจที่เราชาวอาเซียนควรจะศึกษาไว้ เช่น ในเรื่องงานอาสาสมัครฮ่องกงเขาทำได้ดีมาก ทางฮ่องกงเขายังอธิบายด้วยว่าต่อไปเขาจะเปลี่ยนจากการเป็นสาขาของกาชาดอังกฤษเป็นสาขาของกาชาดจีน การดำเนินการส่วนอื่นเป็นไปอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จดหมายข่าวของกาชาดฉบับใหม่เป็นบทความแนะนำให้รู้จักกาชาดจีนและเล่าเรื่องที่กาชาดฮ่องกงได้ไปหารือกับกาชาดจีน
Mrs. Patricia Ling บรรยายสรุปเกี่ยวกับกิจการของกาชาดในการติดต่อติดตามหาญาติที่หายไป ช่วยเหลือคนป่วย คนพิการ การสร้างโรงเรียนคนพิการ มี 3 แห่ง ช่วยพวก Celebral Palsy โปลิโอ
(น.175) ไว้เพื่อไม่ให้มือที่ควบคุมได้ไม่ดีไปโดนตัวอักษรที่ไม่ต้องการ มี Function ที่ช่วยในการพยายามเขียน software ที่ช่วยในการพิมพ์อักษรจีนให้ ง่ายกว่าปกติ และพิมพ์มือเดียวได้
นอกจากเรื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็ยังมีงานประดิษฐ์ต่างๆ ที่เป็นทั้งบทเรียนวิชาศิลปะ และเป็นกิจกรรมหลังเวลาเรียนตอนเย็นที่ครูและเจ้าหน้าที่ใช้ให้ความรู้ซ่อมเสริมจากบทเรียน เช่นการทำหุ่นสำหรับละครหุ่นเล่านิทาน หรือในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องการคืนฮ่องกง ก็ให้เด็กประดิษฐ์รูปเกาะฮ่องกงโดยใช้วัสดุต่างๆ การประดิษฐ์นี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มทักษะทางศิลปะ สร้างนิสัยรักศิลปะแล้ว ยังเป็นกายภาพบำบัดอย่างหนึ่ง ช่วยในการแก้ไขความบกพร่องของกล้ามเนื้อมัดเล็ก เด็กพวกนี้นอกจากจะได้ทำกิจกรรม
(น.178) คนที่พอจะมีเงินจ่ายให้ เขาคิดเงินค่าที่พักอาศัยเป็นเงิน 400 เหรียญฮ่องกงต่อเดือน รัฐบาลช่วยเหลือผู้ที่จ่ายไม่ได้ ที่จริงเงินที่เก็บจากนักเรียนให้เด็กเป็น pocket money ไม่ได้ใช้บำรุงโรงเรียน มีเจ้าหน้าที่ 140 คน มีอาสาสมัครมาช่วยในด้านต่างๆ อีกหลายอย่างเก้าอี้รถเข็นที่จัดไว้ไห้เด็ก ใช้เป็นเก้าอี้รถเข็นไฟฟ้า ที่คนพิการสามารถขับไปไหนๆ ได้ด้วยตนเอง มีเจ้าหน้าที่มาช่วยฝึกพูด (speech therapy) สำหรับคนที่มีปัญหาในด้านการได้ยินและการพูด คนที่ไม่สามารถใช้มือได้มีเครื่องมือที่สามารถทำให้ใช้ศีรษะแทน( head pointer) มีการฝึกพิเศษสำหรับคนที่บกพร่องทางปัญญา ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยาก ถามถึงคนตาบอด หูหนวก เขาบอกว่ามีโรงเรียนสอนคนตาบอด สอนคนหูหนวกต่างหากเป็นของรัฐบาล กาชาดก็คงทำได้เฉพาะเท่าที่มีกำลัง ลืมถามเขาถึงรายละเอียด แต่เข้าใจว่าเมื่อฟื้นฟูได้ถึงระดับหนึ่งอาจจะส่งต่อไปโรงเรียนอื่น
เมื่อออกจากกาชาดฝนตกนิดหน่อย กลับไปบ้านพัก พยายามรีบรับประทาน แต่ก็รีบไม่ได้เพราะว่าสั่งอาหารจีนมารับประทาน และอาหารจีนนี้มักจะทำช้า ยังรับประทานไม่ทันจะเสร็จศาสตราจารย์หวังกังวูกับภรรยาก็มาตามนัด จึงต้องรีบออกไปรับ ข้าพเจ้ารู้จักท่านศาสตราจารย์มานาน
(น.178) รูป 162 ศาสตราจารย์หวังกังวูและภรรยามาเยี่ยม
Next >>