<< Back
ฮ่องกง
(น.179) รูป 163 ถ่ายกับกิมย้ง
(น.179) แล้ว เขาเพิ่งย้ายจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงไปอยู่มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ได้ไม่ถึงสองปี ไปดูที่ดาดฟ้ายังชี้ให้ดูเรือนที่เคยอยู่ตอนยังทำงานมหาวิทยาลัยฮ่องกง ความเห็นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจฮ่องกงหลังจากการกลับคืนสู่จีนนั้น ว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ก่อนดูเหมือนจะมีเรื่องยุ่งยาก ขัดแย้งกับอังกฤษ คนก็กลัวและทายว่าเศรษฐกิจจะแย่ แต่ตอนนี้ดูจีนจะดูแลฮ่องกงอย่างดี และมีเงินมากพอสมควร คนก็คงจะสบายใจแล้ว ตลาดหุ้นฮั่งเสงก็ขึ้นเรื่อยๆ ความสำเร็จในฮ่องกงมีความสำคัญต่อสถานะของจีนในเวทีโลก ที่ว่าอีก 50 ปีจะเปลี่ยนแปลงก็ไม่คิดที่จะมีใครมองไกลไปถึงนั่น การเปลี่ยนแปลงต้องมีแน่ ตอนนี้ดูแค่ฮ่องกงไปก่อน
เมื่อศาสตราจารย์หวังกังวูไปแล้ว คุณหลุยส์ ชา (แซ่นี้ภาษาจีนกลางอ่านว่า จา) หรือที่รู้จักกันดีในนามกิมย้ง นักเขียนนวนิยายจีนกำลังภายใน กิมย้งสนใจประวัติศาสตร์จีนและพระพุทธปรัชญา นำความคิดและเรื่องราวต่างๆ มาเขียนเป็นนวนิยาย เรื่องสุดท้ายที่เขียนคือเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ หลังจากนั้นก็ไม่มีเวลา หันไปทำหนังสือ
(น.180) พิมพ์หมิงเป้า ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์จีนที่มีผู้อ่านมากที่สุดฉบับหนึ่ง ตอนนี้ขายไปแล้ว ทำโรงพิมพ์เดี๋ยวนี้ก็ทำน้อยลง หันไปสนใจการเดินทางไปมหาวิทยาลัยในยุโรป สอนประวัติศาสตร์ และวรรณคดีจีนสมัยราชวงศ์ฮั่นและราชวงศ์ถัง หนังสือพิมพ์ก็เลยเขียนแต่เฉพาะบทบรรณาธิการบ้าง นอกจากนั้นก็มีธุรกิจแถวเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นบ้านเกิด และที่ปักกิ่ง ช่วยกิจการกาชาดด้วย
กิมย้งให้หนังสือแปดเทพอสูรมังกรฟ้าภาษาจีน เขาไม่ทราบเลยว่ามีคนแปลเรื่องของเขาเป็นภาษาไทยและตนเองเป็นที่รู้จักในเมืองไทย (เพราะเหตุที่คนไทยไม่ค่อยจะมีคนรู้จักเคารพในเรื่องลิขสิทธิ์ หรือสมบัติของคนอื่น)
ถามกิมย้งเรื่องความรู้สึกต่อการกลับคืนสู่จีน เขาว่าคนฮ่องกงทั่วๆ ไปเริ่มต้นก็กังวลอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้รู้จักจีนมากขึ้น ไม่รู้สึกว่าทางด้านเศรษฐกิจมีความแตกต่างจากฮ่องกงในปัจจุบันสักเท่าไร เขามองกันว่าจะมีโอกาสดีขึ้นในการเปิดโรงงานที่จีน มีที่ทางกว้างขวางขึ้น ถามเขาว่าเมื่อกลับสู่จีนแล้วเสรีภาพในการเขียนและการแสดงจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เช่น หนังสือ หนังสือพิมพ์ หรือหนังจีนที่เราชอบ กิมย้งไม่คิดว่าจีนจะมายุ่งอะไรในฮ่องกง เขามีส่วนในการร่างระเบียบเกี่ยวกับศิลปะ วรรณคดี หนังจีนฮ่องกง ยิ่งไม่เปลี่ยนยิ่งดีกับจีน เพราะคนจะดูมาก คนดูจะไม่ชอบดูหนังที่ถูกเซนเซอร์ หรือปลุกใจให้รักชาติ ให้ส่งเสริมชนชั้นกรรมาชีพต่อต้านนายทุน ซึ่งในเมืองจีนอาจจะต้องทำ อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีการแทรกแซงจากภายนอก จีนกับฮ่องกงจะปรับตัวเข้าหากันได้เอง
(น.181) รูป 164 ถ่ายก่อนไปงานมีป้ายคล้องคอ
(น.181) ถามเรื่องกองทหารจีนแดงที่เข้ามา กิมย้งว่าคนฮ่องกงไม่สนใจ อังกฤษอยู่ก็มีทหารอังกฤษ จีนเข้ามาแทนก็เหมือนกัน
บ่ายนี้ไม่ค่อยทราบว่าควรทำอะไรดี ตามกำหนดการบอกว่าออกจากบ้านพักเวลา 17.45 น. และไปถึง East Tamar ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี Farewell Ceremony (เป็นท่าเทียบเรือของอังกฤษประจำฮ่องกง) เวลา 18.15 น.แต่มีคนมาบอกว่าให้ออก 18.15 น. ฝนก็ตกมากจึงถึงช้าไป งานเริ่มไปตั้งนานแล้ว ก็เลยต้องไปลุยหาที่นั่ง เจอ Miss Tam ขอสูจิบัตรกับร่ม (เพราะเห็นทุกคนมี) Miss Tam บอกว่าจะหาเล่มแห้งๆให้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฝนตกหนัก และไม่มีสูจิบัตรเล่มไหนมีโอกาสแห้งเลย ข้าพเจ้าเข้าไปนั่งระหว่างคุณ Hague เจ้าเก่าที่นั่งด้วยกันที่เรือบริตาเนีย กับ Lord Howe เก้าอี้เป็นพลาสติก ที่นั่งเป็นแอ่งเพื่อให้นั่งได้สบาย ขณะนี้กลายเป็นอ่างน้ำ มีคนมาช่วยเช็ดให้แห้ง ข้าพเจ้าก็ก็เลยขอผ้าขนหนูปูรองนั่ง ทีแรกข้าพเจ้าก็กางร่มเหมือนกัน แต่สองท่านที่นั่งข้างๆ ก็กางร่ม ข้าพเจ้ากางทีหลังเขาจึงต้องยืดสุดแขน ยืดได้
(น.182) รูป 165 บัตรเชิญ สูจิบัตรเปียกฝนและ และร่มที่เขาให้
รูป 166 บัตรเชิญ สูจิบัตรเปียกฝนและ และร่มที่เขาให้
รูป 167 บัตรเชิญ สูจิบัตรเปียกฝนและ และร่มที่เขาให้
(น.183) สักพักก็เมื่อย ใช้วิธีอาศัยร่มของเพื่อนบ้านง่ายกว่า ข้าพเจ้ายังไม่ทราบว่าหลังจากพิธีที่นี่แล้ว จะไป Convention Hall ที่จัดงานต่อไปได้อย่างไร มองไปรอบๆ เห็นลอร์ดกับเลดี้วิลสัน ข้าพเจ้าตัดสินใจตะโกนเรียกชื่อเลดี้วิลสันเพื่อให้เขาเห็นว่าข้าพเจ้านั่งอยู่ตรงนี้
ดูในสูจิบัตร เขาจัดงานได้น่าสนใจ คือเปิดงานด้วยการเชิดสิงโต เมื่อขบวนเสด็จของ Prince of Wales มาถึง เรือรบหลวง Chatham ยิงสลุต 21 นัด มีแตรประโคม (Royal Fanfare) หลังจากนั้นเริ่มรายการเรียกว่า The Spirit of Hong Kong ใช้การเต้นและดนตรีถ่ายทอดวิญญาณฮ่องกง ประชาชน วัฒนธรรม การที่ฮ่องกงผงาดขึ้นเป็นมังกรทางเศรษฐกิจ ผู้เล่นดนตรีคือ The Hong Kong Chinese Orchestra และ The Hong Kong Philharmonic Orchestra (ข้าพเจ้ามาถึงตอนที่เขาแสดงตอนนี้ ก็ไม่เป็นไร เพราะการเชิดสิงโตก็ไม่ใช่ของแปลกประหลาดสำหรับคนไทย)
(น.183) รูป 168 ภาพพิธีอำลาของอังกฤษ ฝนตกหนัก ทุกคนกางร่มไม่มีภาพดีกว่านี้แล้ว
(น.184) รูป 169 ภาพพิธีอำลาของอังกฤษ ฝนตกหนัก ทุกคนกางร่มไม่มีภาพดีกว่านี้แล้ว
(น.184) พิธีกรที่มาอธิบายคือ Frances Yip ซึ่งเป็นนักร้องที่เรารู้จักกันดี กับนักแสดงชื่อ Brian Blessed ที่ตรงที่ข้าพเจ้านั่งอยู่มองไม่ค่อยเห็นการแสดงจริงเพราะไกลและมีคนบัง แต่เขาตั้งจอแบบจอภาพยนตร์ไว้ 2 ข้างเวทีทำให้เห็นดี ระบบเสียงก็ดีมากทั้งๆ ที่ฝนตก
วงร้องเพลงประสานเสียงเด็กร้องเพลงปนๆ กันหลายเพลง
การแสดงของนักร้องหญิงเดี่ยวชื่อ Dame Gwyneth Jones เป็นนักร้องเพลงโอเปร่า กับนักร้องชายเดี่ยวเสียงเทเนอร์ชาวฮ่องกงชื่อ Warren Mok
เมื่อจบการร้องเพลงแล้ว ถึงตอนที่ผู้ว่าราชการ His Excellency, the Right Honourable Christopher Patten กล่าวสุนทรพจน์ เป็นสุนทรพจน์ที่น่าสนใจตีความได้หลายอย่าง มีใจความว่า
(น.185) สำหรับฮ่องกงในภาพรวม วันนี้เป็นวันที่มีเหตุอันควรเฉลิมฉลองไม่ใช่เป็นเรื่องเศร้าโศก แต่สำหรับหลายๆ คนอาจโศกเศร้าที่จะต้องจากไป ซึ่งข้าพเจ้าจะกล่าวถึงต่อไป
ประวัติศาสตร์ไม่เป็นแต่เพียงเรื่องของวันที่ผ่านมา สิ่งที่ทำให้เกิดประวัติศาสตร์ คือสิ่งที่มาก่อนและสิ่งที่มาทีหลังวันที่ที่เราจำกันได้เหล่านั้น เรื่องของมหานครแห่งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในปีก่อนๆ ในคืนนี้และปีแห่งความสำเร็จที่จะตามมาอย่างแน่นอน
เป็นที่แน่นอนที่เรื่องของฮ่องกงไม่เป็นเพียงแต่เรื่องของความรับผิดชอบของอังกฤษเพียงศตวรรษกึ่ง ถึงแม้ว่าคืนนี้จะเป็นการสรุปประวัติศาสตร์บทหนึ่ง
ประวัติศาสตร์บทนี้เริ่มต้นด้วยเหตุการณ์ ที่พวกเราทั้งหมดในที่นี้คงไม่มีใครที่ต้องการจะให้อภัย ถ้ามองย้อนไปจากจุดยืนของวันนี้ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษเต็มๆ หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เป็นเรื่องน่าคิดว่า คนที่อยู่ในฮ่องกงปัจจุบันยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นเพราะในศตวรรษของเราเองนี้ก็ได้เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่ยากจะแก้ตัวให้ได้ ทั้งหมดนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเราต้องรำลึกถึงอดีต แต่ก็ควรสำนึกว่าบางครั้งเรื่องในอดีต ก็ควรจะลืมเสียบ้าง
สิ่งที่เรากำลังฉลองกันในค่ำวันนี้คือพลังอันไม่หยุดยั้ง คือการทำงานหนัก ความกล้าหาญของชายหญิงที่เป็นผู้สร้างความสำเร็จของฮ่องกง คนเหล่านี้ส่วนมากก็เป็นชายชาวจีนและหญิงชาวจีน พวกเขาเป็นคนธรรมดาๆ ในแง่ที่เขามามือเปล่า แต่ถ้าจะวัดจากความสำเร็จที่เขาประสบทั้งๆ ที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคนานัปการ ต้องนับว่าเขาเหล่านั้นเกินกว่าธรรมดา
(น.186) เมื่อการปกครองของอังกฤษจะสิ้นสุด ข้าพเจ้าคิดว่าเรามีสิทธิที่จะพูดว่าสิ่งที่ประเทศของเราให้กับที่นี่คือ การสร้างนั่งร้านที่ให้คนฮ่องกงปีนขึ้นไปได้ ได้แก่ กฎหมาย รัฐบาลที่มือสะอาดและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการปกครองจนเกินไป ค่านิยมของสังคมเสรี การเริ่มต้นของรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนและมีความรับผิดชอบตามระบบประชาธิปไตย ที่นี่เป็นนครจีน เป็นนครที่มีความเป็นจีนมากแต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงคุณลักษณะแบบอังกฤษ ไม่มีดินแดนที่เคยขึ้นกับอังกฤษที่ไหนที่จะมั่งคั่งเช่นนี้ตอนที่อังกฤษออกไปไม่มีที่ไหนที่จะมีความหลากหลายในด้านสิทธิมนุษยชนและกฎหมาย อาชีพ ศาสนา หนังสือพิมพ์ การกุศล มีข้าราชการที่ซื่อสัตย์ที่สุด และมีความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะทำงานเพื่อประโยชน์สุขแก่สังคม
ข้าพเจ้าไม่สงสัยเลยว่า ด้วยการที่ประชาชนที่นี่ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่พวกเขาหวงแหน ดวงดาวแห่งฮ่องกงจะสูงขึ้นต่อไป ค่านิยมของฮ่องกงเป็นค่านิยมที่ถูกต้อง เป็นค่านิยมสากล เป็นค่านิยมที่เป็นอนาคตของเอเชียและของที่อื่นๆ อนาคตของชุมชนที่มีความสุขที่สุด มั่งคั่งที่สุด มั่นคงน่าเชื่อถือที่สุด คือชุมชนที่ผสมผสานเสรีภาพทางการเมืองและอิสรภาพทางเศรษฐกิจ อย่างที่เราทำในเวลานี้ ที่นี่
คืนนี้พวกเราทั้งหมดที่นี่และข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่า เพื่อนร่วมชาติทั้งชายและหญิงของข้าพเจ้าทุกคนที่ได้มองดูเหตุการณ์นี้จากที่ไกล ขออวยพรให้หัวหน้าคณะผู้บริหาร (Chief Executive) ของเขตบริหารพิเศษและทีมงานที่ยอดเยี่ยมของเขาจงโชคดีในการเริ่มงานใหม่ คุณ ซี เอช ต่ง และคุณเบตตี้ ภริยา จะรับใช้ฮ่องกงด้วยความเสียสละ
(น.187)ด้วยพลังและความกระตือรือร้น ทุกๆ คนที่นี่รวมทั้งผู้ที่อยู่นอกฮ่องกงขอให้พวกเขาประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่ท้าทายในภายภาคหน้า
ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วว่าการเฉลิมฉลองในค่ำคืนวันนี้จะมีรอยของความเศร้าอยู่บ้าง นั่นคือครอบครัวของข้าพเจ้าและตัวข้าพเจ้าเอง กับคนอื่นๆ ที่เหมือนกับเราที่จะต้องจากฝั่งทะเลแห่งนี้ไปในเวลาอีกไม่นานนัก ข้าพเจ้าเป็นผู้ว่าราชการคนที่ 28 เป็นผู้ว่าราชการคนสุดท้าย ภริยาของข้าพเจ้า ลูกๆ ของข้าพเจ้าและตัวข้าพเจ้าเองก็เหมือนกับผู้ว่าราชการคนอื่นๆ และครอบครัวของพวกเขา จะกลับบ้านไปโดยมีฮ่องกงอยู่ในหัวใจของพวกเรา ทุกท่านดีกับเรา ท่านต้อนรับเราอย่างดี ถือว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่และเป็นอภิสิทธิ์ในชีวิตที่ได้อาศัยร่วมบ้านกับท่านมา 5 ปี และมีส่วนรับผิดชอบอนาคตของพวกท่าน มาถึงตอนนี้ชาวฮ่องกงจะต้องบริหารฮ่องกงเอง นั่นเป็นคำมั่นสัญญา และนั่นเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่มีใครเปลี่ยนได้
ที่ข้าพเจ้าว่าสุนทรพจน์ยากคือต้องตีความ ไม่ทราบว่าความไม่ดีเก่าคือการกระทำของอังกฤษในสงครามฝิ่น และความไม่ดีใหม่คือสงครามโลกใช่หรือไม่
เมื่อจบสุนทรพจน์แล้ว The Hong Kong Philharmonic Orchestra บรรเลงต่อ รายการต่อไปคือการเดินสวนสนามของหน่วยนาวิกโยธินทหารสก็อต ทหารเป่าปี่สก็อต หน่วย Black Watch (คือทหารสก็อตหน่วย Royal Highland Regiment) และทหารกูรข่า ตามด้วยกองเกียรติยศจากกองทัพเรือ กองทัพบก และกองทัพอากาศ เพลงที่เล่นตอนเดินสวนสนามมีหลายเพลง อะไรบ้างไม่ทราบ มีอยู่เพลงที่เราเอามาเล่นเป็นเพลงเวสสุกรรมชั้นเดียวทางฝรั่ง
(น.188) นักดนตรีกองดุริยางค์ของทหารที่มาบรรเลง มีวงดุริยางค์ราชนาวิกโยธินซึ่งมีทั้งหมด 6 วง ที่มาสวนสนามมาจาก 2 วง คือวงราชนาวิกโยธินจากปอร์ตสมัธตามเสด็จมาในเรือพระที่นั่งบริตาเนีย วงของราชนาวิกโยธินพลีมัธจาก HMS Illustrious มาร่วมการฝึกยุทธการ Ocean Wave วงดนตรี Scots Guards ร่วมบรรเลงในการเปลี่ยนยามทหารหน้าพระราชวังบักกิงแฮมตั้งแต่ ค.ศ. 1662 วง The Highland Band of the Scottish Division ตั้งใน ค.ศ. 1994 รวมนักดนตรีจากทหาร 4 กรม คือ The Black Watch, Queen’s Own Highlanders และ The Agyll and Sutherland Highlanders ที่ตั้งของวงดนตรีอยู่ที่เอดินเบอระ วงปี่สก็อตและกลองจากกองพัน Black Watch ซึ่งมีความสามารถในการเดินสวนสนามโดยใช้อาวุธได้ด้วย การแสดงปี่สก็อตของกองพลทหารกูรข่า ซึ่งเล่นปี่สก็อตมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทหารสก็อต ทหารกูรข่านี้เป็นทหารมาจากเนปาล รูปร่างไม่ใหญ่โตนัก มีชื่อเสียงว่ามีความสามารถในการรบและซื่อสัตย์มาก ปฏิบัติหน้าที่ในฮ่องกงอยู่นาน ได้ทราบว่าเมื่อฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแล้ว ส่วนหนึ่งจะกลับลอนดอน อีกส่วนหนึ่งจะไปสมทบกับพวกที่อยู่แล้วในบรูไน เมื่อข้าพเจ้าไปบรูไนและไปในป่าก็ได้ทหารกูรข่านี่เองดูแล
Next >>