<< Back
ฮ่องกง
(น.188) รูป 170 เป็นภาพระหว่างพิธีส่งมอบที่ดีที่สุดที่หาได้ (แอบถ่าย)
(น.189) ทหารกองทัพเรือ มาจาก HMS Chatham (เรือฟรีเกต) มาร่วมงานส่งคืนฮ่องกงโดยเฉพาะ และจะตามกลับพร้อมเรือพระที่นั่งบริตาเนีย HMS Illustrious มาซ้อมรบใน Pacific Rim
กองทัพบกคือพวก Black Watch เป็นหน่วยที่มีประวัติมาตั้งแต่ ค.ศ. 1725 เพื่อดูแลเขต Highland ใน สก็อตแลนด์เมื่อเกิดกบฏจาโคไบท์ หน่วยทหารนี้ได้ประกอบวีรกรรมในสงครามมายาวนานจนได้เครื่องหมายเชิดชูในธงประจำกอง ธงนี้ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชชนนีซึ่งเป็นองค์ผู้บังคับการในเดือนกันยายน ค.ศ. 1996 ที่ Birkhall ในสก็อตแลนด์
กองทัพอากาศ หน่วยกองทหารเกียรติยศนี้ ตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1960 ภารกิจประจำคือการป้องกันสนามบิน ประจำอยู่ที่ Uxbridge ใน Middlesex
สวนสนามจบเป็นเพลงสรรเสริญพระบารมี God Save the Queen จากนั้น Prince of Wales มีพระราชดำรัส ตอนที่ผู้ว่าราชการกล่าวก็ว่าฝนตกมากแล้วตอนนี้ยิ่งฝนตกหนักใหญ่ จนน่าสงสัยว่ากระดาษที่ผู้ว่าราชการกับ Prince of Wales อ่านเป็นกระดาษหุ้มพลาสติกหรือเปล่า ถึงยังอ่านได้จนจบ
พระราชดำรัสที่พระราชทานแทนพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีมีความว่า
(น.190) รูป 171 เป็นภาพระหว่างพิธีส่งมอบที่ดีที่สุดที่หาได้ (แอบถ่าย)
(น.190) อีกห้าชั่วโมงจากเวลานี้ ก็จะเป็นเวลาลดธงยูเนี่ยนแจ็ค และธงจีนจะชักขึ้นเหนือฮ่องกง การบริหารของอังกฤษซึ่งเป็นเวลาศตวรรษกึ่งจะสิ้นสุดลง
ในระยะเวลาที่ผ่านมานั้นฮ่องกงได้เจริญเติบโตขึ้นมาจากชุมชนเล็กๆ ริมฝั่งทะเลเป็นนครชั้นนำแห่งหนึ่ง และเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง มีช่วงเวลาที่จะต้องเสียสละ ต้องทนทุกข์ทรมาน และต้องอาศัยความกล้าหาญ เมื่อฮ่องกงผงาดขึ้นมาจากเถ้าถ่านของสงคราม ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ผู้ที่ย้ายถิ่นเข้ามาด้วยความยากไร้เป็นล้านๆ คนถูกดูดซึมเข้ามาอาศัยอยู่ และฮ่องกงได้สร้างตัวเองเป็นสังคมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
(น.191) อังกฤษภูมิใจและถือว่าเป็นเกียรติอย่างพิเศษที่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวความสำเร็จนี้ ภูมิใจในค่านิยมแบบอังกฤษและสถาบันแบบอังกฤษที่เป็นโครงสร้างของความสำเร็จของฮ่องกง ภูมิใจในสิทธิและเสรีภาพที่คนฮ่องกงได้รับ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างพิเศษที่ได้คบค้าสมาคมกับคนฮ่องกงที่เก่งกาจและมีความสามารถอย่างเลิศล้ำ ซึ่งเป็นผู้สร้างรากฐานนั้น
ธงอังกฤษจะลงจากยอดเสา ความรับผิดชอบทางการบริหารของอังกฤษจะสิ้นสุดลง แต่อังกฤษยังจะไม่กล่าวอำลาฮ่องกง คนที่อยู่ในฮ่องกงมากกว่าสามล้านห้าแสนคนเป็นคนสัญชาติอังกฤษ ทุกปี คนหนุ่มสาวชาวฮ่องกงเป็นพันๆ คนเรียนอยู่ที่อังกฤษ เราใช้ภาษาเดียวกันและใช้กฎหมายคอมมอนลอร์ของอังกฤษเหมือนกัน และยังมีคนอังกฤษเป็นพันๆ คนที่มาอาศัยอยู่ในฮ่องกง สิ่งที่สืบทอดมาทางครอบครัว มิตรภาพ การค้าและการลงทุน วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ยังเป็นไปอย่างแน่นแฟ้นและลึกซึ้ง
อังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ฮ่องกง และฮ่องกงก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อังกฤษ เรายังเป็นส่วนของอนาคตของกันและกัน เราแน่ใจว่าความผูกพันระหว่างกัน จะไม่เพียงแต่คงอยู่ แต่จะพัฒนาต่อไป ปัจจุบันโลกแคบลง บทบาทของฮ่องกงในแง่ที่เป็นประตูผ่านของยุโรปเข้าสู่เอเชียและบทบาทของอังกฤษในแง่ที่เป็นประตูผ่านของเอเชียสู่ยุโรป ทำให้ความผูกพันระหว่างสังคมของเราทั้งสองแน่นแฟ้นขึ้น
(น.192) ด้วยเหตุผลเหล่านี้ รัฐบาลของข้าพเจ้า และตัวข้าพเจ้าเอง จะสนใจติดตามฮ่องกงและพัฒนาการของฮ่องกงต่อไป สถานกงสุลใหญ่ของอังกฤษจะเปิดทำการในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ จะเป็นสถานกงสุลใหญ่ของเราที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลุ่มติดต่อร่วมจีนอังกฤษ (The Sino-British Joint Liaison Group) จะทำหน้าที่ต่อไปอีกสองปีครึ่งเพื่อหารือเรื่องปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมจีนอังกฤษ (Sino-British Joint Declaration) ปฏิญญาร่วมนั้นจะยังคงมีผลปฏิบัติอยู่อีก 50 ปี ยังอีกหลายปีที่ฮ่องกงจะยังอยู่ในความสนใจของเรา
ขณะนี้ฮ่องกงเผชิญหน้ากับการเข้าสู่การปกครองของจีนในเงื่อนไขที่ยอดเยี่ยม คือความมั่งคั่ง มั่นคง และก้าวหน้า ความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในความสามารถและการปรับตัวของชาวฮ่องกง อังกฤษทราบมานานแล้วว่าคนฮ่องกงรู้ดีที่สุดว่าอะไรดีสำหรับฮ่องกง เราไม่สงสัยเลยว่าคนฮ่องกงดูแลฮ่องกงได้ ดังที่สัญญาไว้ในปฏิญญาร่วมและการปฏิบัติตรงตามปฏิญญาร่วมเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของฮ่องกงในเวลาต่อไป
วันนี้สายตาของโลกอยู่ที่ฮ่องกง ข้าพเจ้าขออวยพรให้การส่งคืนฮ่องกงประสบความสำเร็จและให้มีอนาคตที่มั่งคั่งและมีสันติภาพ
เมื่อพระราชทานพระราชดำรัสจบแล้ว เป็นเวลาเย็น มีพิธีลดธงยูเนี่ยนแจ็ค และธงฮ่องกง ทหารจากหน่วย Black Watch เดี่ยวปี่สก็อต กองเกียรติยศเดินจังหวะสโลว์มาร์ชออกไป วงดนตรีทุกวงเล่น Finale เพลง Rhythm of My Heart จบแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับพร้อมผู้ว่าราชการ
(น.194) รูป 173 ป้ายห้อยคอเข้างาน
(น.194) สถานที่แห่งนี้เป็นอาคาร 5 ชั้นยื่นไปในอ่าววิกตอเรียฝั่งเกาะฮ่องกง หลังคาโค้ง มุงด้วยอะลูมิเนียม มองจากฝั่งเกาลูนจะเห็นคล้ายนกนางนวลกำลังโผบินในท้องฟ้าเหนืออ่าวฮ่องกง (เอาอีกแล้ว ข้าพเจ้ามองอีกทีก็ยังไม่เห็นว่าเหมือน) เริ่มก่อสร้างส่วนต่อเติม Hong Kong Convention and Exhibition Centre เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1995 โดยการถมทะเลพื้นที่ 6.5 เอเคอร์ เพื่อใช้เป็นฐานรองรับอาคารต่อเติมใหม่ ขนาดอาคารโดยรอบเท่ากับสนามฟุตบอล 6 สนาม พื้นที่ใช้สอย 155,000 ตารางเมตร เมื่อสร้างเสร็จแล้วรวมกับอาคารเดิมจะได้ห้องประชุมขนาดใหญ่ 5 ห้อง ห้องประชุมย่อย 52 ห้อง
เมื่อไปถึงแล้ว ข้าพเจ้าต้องแยกกับลอร์ดและเลดี้วิลสัน เพราะว่าเขาเป็นผู้ว่าราชการเก่าจึงเป็นแขกพิเศษ ส่วนข้าพเจ้านั้นเจ้าหน้าที่ต้อนรับอธิบายว่าจะต้องไปอยู่ในกลุ่มของตนที่ level 3 เพื่อร่วมงาน Reception และดูดอกไม้ไฟซึ่งจะจุดเหนืออ่าววิกตอเรีย มีความยาวราว 22 นาที ที่ป้ายห้อยคอ ซึ่งมีรูปและชื่อของข้าพเจ้า เขียนว่าเป็น Guest มี Marking tape เขียนเบอร์อะไรต่างๆหลายอย่าง อักษรกลุ่มที่ข้าพเจ้าต้องไปยืนคือ F จะมีคนถือป้าย A, B, C, E, F…บอกเอาไว้ ข้าพเจ้ากับไอริสเดินกันทั่วหมด ก็ไม่เห็น F เดินขึ้นข้างบนลงข้างล่าง
(น.195) จนเหนื่อย ไม่ได้กินและไม่ได้ดูพลุ ระหว่างเดินเจอแต่คุณสุรินทร์ ปลากระป๋องปุ้มปุ้ย ทักทายกันหน่อยเดียว จะให้เขาช่วยหากลุ่มให้ก็ไม่ได้ เพราะคุณสุรินทร์ไม่ได้อยู่กลุ่ม F และดูท่าทางหากลุ่มตัวเองไม่เจอเหมือนกัน
ผลสุดท้ายมีประกาศให้เข้าห้องรับประทานอาหารที่ Hall 2, Level 5 ก็เลยไป แต่เห็นจะเร็วไปหน่อย กลายเป็นแขกคนแรกในห้อง นั่งโต๊ะไหนก็ไม่ทราบเพราะว่า marking tape ที่ติดไว้ถูกน้ำเปียกหลุดไป จำก็ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีชื่อแขก ก็เลยชี้ให้ข้าพเจ้าลองนั่งโต๊ะสุดห้อง ไอริสให้ข้าพเจ้าจดเบอร์โทรศัพท์มือถือของเขาไว้ เพราะเขาไม่มีสิทธิ์เข้าห้องนี้ มีอะไรจะได้เรียกกันได้ แต่สักประเดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจว่าจะอยู่ด้วยต่อไป ถึงไม่มีสิทธิ์เข้า แต่ใครจะมาไล่เขาได้ ระหว่างนี้ข้าพเจ้าก็นั่งโต๊ะ จิบไวน์ที่เขาเอามาเสิร์ฟ และรับประทานขนมปัง ครู่หนึ่งมีนักธุรกิจชาวตะวันตกมานั่งสามสี่คน คุยกันถามว่าเขาทำธุรกิจอะไรบ้าง ได้ทราบว่าเป็นกิจการใหญ่ๆ ในฮ่องกง บางบริษัทมีสาขาในเมืองไทย ส่วนข้าพเจ้าว่ามาในฐานะนักวิชาการ ทุกคนที่คุยด้วยมีความเห็นว่าธุรกิจในฮ่องกงจะดีเหมือนเดิม อาจจะดีกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ถามความเห็นพวกเขาถึงเสิ่นเจิ้น ฟังเสียงเหมือนว่ายังไม่ชอบเท่าฮ่องกง คนหนึ่งว่างานที่ East Tamar นั้นเราควรจะร้องไห้ แต่มัวหลบฝนเลยลืมไป
(น.196) รูป 174 เมนู
(น.196) หันไปอีกที่เห็นกงสุลแอ๊เข้ามา ไอริสโทรศัพท์เรียก ได้ความว่าติดอยู่ที่ East Tamar กับใครๆ อีกราว 200คน ไปไหนไม่ได้ไม่มีรถรับ พอดีรู้จักกับทูตกรีก ซึ่งโมโหจัด ไปยืนขวางถนนทำให้รถบัสหรือรถเมล์จอดรับ จึงมากันได้หมด
ที่จริงแล้วข้าพเจ้ามีที่นั่งอยู่โต๊ะหลักเบอร์ K 2 มีป้ายชื่อที่โต๊ะ พบกับเจ้าชาย Jochim แห่งเดนมาร์กกับพระชายา เจ้าชายบรูไน Baroness Thatcher และ Sir Denis Thatcher
พระชายาเจ้าชาย Jochim เกิดและโตที่ฮ่องกง จึงอยากมาร่วมพิธีนี้ ท่านว่าถึงจะรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นความก้าวหน้าของฮ่องกงไปอีกก้าวหนึ่ง แต่ก็อดที่จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงและน้ำตาไหลไม่ได้ ข้าพเจ้ากับเจ้าชายกล่าวถึงการเสด็จเยือนประเทศไทยของมกุฎราชกุมารว่า ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเชื่อมสัมพันธไมตรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการส่งเสริมธุรกิจ ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ
Sir Denis Thatcher บอกว่าเมื่อเสร็จพิธีนี้แล้วจะกลับลอนดอนเลย ส่วน Baroness Thatcher จะเดินทางต่อไปญี่ปุ่น เพราะว่าจะต้องไปบรรยาย ส่วนใหญ่การบรรยายจะใช้หัวข้อตามที่เจ้าภาพกำหนดให้คร่าวๆ ถ้าเจ้าภาพไม่กำหนด หรือกำหนดไว้กว้างๆ ก็จะเสนอกับ
(น.197) รูป 175 เมนู
(น.197) เขาว่าควรจะพูดเรื่องอะไรที่จะเป็นประโยชน์ที่พูดบ่อยที่สุดเห็นจะเป็นเรื่อง Privatization ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและมีขั้นตอนในการปฏิบัติซับซ้อนมาก
เมื่อรับประทานของคาวเสร็จ พิธีกรเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ (Robin Cook) ขึ้นมาเชิญชวนดื่มถวายพระพร ดื่มอวยพรประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน และประมุขประเทศที่มาร่วมในพิธี และเพื่อความก้าวหน้าผาสุกของฮ่องกง ในหมายเดิมมีแค่นี้ แต่ในงานเขาเชิญให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน (เฉียนฉีเฉิน) กล่าวด้วยเมื่อรับประทานของหวาน และดื่มกาแฟแล้ว Prince of Wales เสด็จออกไป ระหว่างเสด็จออก ข้าพเจ้าคิดว่าเขาจะให้ยืนส่งเสด็จ หลายคนก็คงคิดอย่างนั้น ทำท่าจะลุกขึ้นแล้วก็นั่งลงไปใหม่จนเขาให้ลุกไปได้ตามลำดับหมายเลขโต๊ะ
(น.198) รับประทานเสร็จแล้วยังเหลือเวลาอีกนานก่อนจะถึงพิธีส่งคืนฮ่องกง จึงเดินไปเดินมาอยู่ในศูนย์ประชุมอันใหญ่โตดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เข้าห้องน้ำล้างหน้า สีฟันได้เสียด้วยซ้ำ เดินเข้าไปในห้องผู้ใหญ่จีน ผู้ใหญ่อังกฤษ (ที่ Baroness Thatcher นั่ง) เดินออกไปข้างนอกเจอลอร์ดและเลดี้วิลสันอีก เจอคุณหลู่ผิง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของสำนักงานฮ่องกง มาเก๊า ขึ้นกับคณะรัฐมนตรี (State Council) เป็นฝ่ายปักกิ่งที่ดูแลฮ่องกงและมาเก๊า คุณหลู่ผิงดูแลเรื่องฮ่องกง มาเก๊ามาร่วม 20 ปีแล้ว เขาเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นในเซี่ยงไฮ้ก่อนการปลดปล่อย จึงน่าจะรู้จักระบบตะวันตกดี ข้าพเจ้าได้พบเขาเมื่อเขามากรุงเทพฯ และเขาอธิบายนโยบายของจีนต่อฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ พบผู้ว่าฯ Chris Patten ก็ชมเขาว่ากล่าวสุนทรพจน์ดีมาก
ก่อนถึงเวลามีพิธีข้าพเจ้าเข้าไปในห้องพิธีที่ Grand Hall Level 6 ซึ่งจุแขกได้ประมาณ 4,000 คน พอเข้าไปก็งงชะงักตามเคยเพราะไม่รู้ว่าจะต้องนั่งที่ไหน มีเจ้าหน้าที่มาว่าว่าทำไมไม่ไปนั่งที่ ยืนตรงนี้เกะกะทางที่ทหารจะเดินแถวเข้ามา ข้าพเจ้าว่าไม่ได้อยากยืน แต่มันหาที่ไม่ได้จริงๆ ไอริสหันไปพูดเป็นภาษากวางตุ้งว่าอะไรก็ไม่ทราบ คนนั้นเขาเลยไปเรียกใครมาอีกคน ซึ่งพยายามชี้ที่ให้เดินไป และทำหน้าเหมือนข้าพเจ้านี่ยุ่งมาก ข้าพเจ้าก็เลยเดินไปตามมือเขาชี้ไปเจอเข้ากับท่านรัฐมนตรีประจวบและภรรยา และท่านปลัดกระทรวงฯ พวกเขาก็เลยบอกว่าให้ข้าพเจ้านั่งตรงนี้แหละ ที่จริงก็ควรถูกแล้ว
ก่อนพิธีมีวงโยธวาทิตของทหารจีนกับทหารอังกฤษเล่นสลับกัน เล่นเพราะทั้งสองวง ท่านรัฐมนตรีชี้ว่าทหารจีนที่เขาเลือกมานี้รูปร่างสูงใหญ่ทั้งนั้น
(น.199) ประมาณ 23.30 น. แขกผู้ใหญ่เข้ามาในห้องบนเวทีทั้งฝ่ายอังกฤษและฝ่ายจีน ข้าพเจ้ามองเห็นไม่ชัดว่าเป็นใครกันบ้าง ที่แน่ก็มี Prince of Wales, นายกรัฐมนตรี Tony Blair, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Robin Cook, ผู้ว่าราชการ Chris Patten ฝ่ายจีนเห็นประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน นายกรัฐมนตรีหลี่เผิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เฉียนฉีเฉิน
เมื่อมาพร้อมกันแล้ว Prince of Wales พระราชทานพระราชดำรัส มีความว่า
ท่านประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน ท่านนายกรัฐมนตรีหลี่เผิง และท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย
พิธีที่สำคัญและพิเศษนี้แสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่เป็นทั้งการเปลี่ยนแปลงและการต่อเนื่องในประวัติศาสตร์ของฮ่องกง
ประการแรก แสดงว่าฮ่องกงกลับเป็นของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามปฏิญญาร่วมจีนอังกฤษ (Sino-British Joint Declaration) ซึ่งทำขึ้นใน ค.ศ.1984 หลังจากที่อังกฤษบริหารอยู่นานถึง 150 ปี
พิธีนี้ยังฉลองความต่อเนื่อง เพราะว่าในปฏิญญาร่วมนั้นมีข้อตกลงต่างๆ ที่ตามมา เพื่อช่วยในการปฏิบัติตามสัญญา ช่วยให้เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีรัฐบาลของตนเอง มีสังคมของตนเอง ระบบเศรษฐกิจของตนเอง และวิถีชีวิตของตนเอง
ค่ำนี้ ข้าพเจ้าขอยกย่องผู้ที่แปลงความคิด “หนึ่งประเทศ สองระบบ” มาเป็นปฏิญญาร่วม และยกย่องผู้ที่อุทิศตนทำหน้าที่อย่างหนักในช่วง 13 ปีที่ผ่านมาในการตกลงรายละเอียดเรื่องปลีกย่อยที่จะทำให้ปฏิบัติตามปฏิญญาร่วมได้
(น.200) ที่สำคัญที่สุด ข้าพเจ้าขอยกย่องประชาชนชาวฮ่องกงที่ได้ประสบความสำเร็จในช่วงศตวรรษกึ่งที่ผ่านมา ความสำเร็จที่เป็นชัยชนะของชาวฮ่องกงนี้สมควรและจะต้องได้รับการธำรงไว้
ฮ่องกงแสดงให้โลกเห็นว่าความเปลี่ยนแปลง (พลวัต-Dynamism) และความมั่นคงสามารถเป็นคุณสมบัติสำหรับกำหนดความสำเร็จของสังคม ทั้งสองอย่างนี้ทำให้เกิดเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ที่โลกอิจฉา ฮ่องกงแสดงให้โลกเห็นว่าตะวันตกอยู่ร่วมกับตะวันออกและทำงานด้วยกันได้อย่างไร การที่ฮ่องกงเป็นจุดนัดพบทางการค้าและทางวัฒนธรรมที่รุ่งเรือง นำเรามาพบกัน และทำให้ชีวิตของเราทุกคนมั่งคั่ง
สิบสามปีมาแล้ว รัฐบาลของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความเห็นร่วมกันว่าจะต้องรักษาเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ฮ่องกงเจริญรุ่งเรืองเอาไว้ ฮ่องกงจะต้องมีระบบการค้าและการเงินแยกต่างหากเป็นของตน ต้องปกครองตนเองและมีสภานิติบัญญัติที่มาจากการเลือกตั้ง คงไว้ซึ่งกฎหมายและเสรีภาพ และคนฮ่องกงรับผิดชอบด้านบริหาร
ลักษณะพิเศษเหล่านี้เป็นประโยชน์ต่อฮ่องกงมามากกว่า 2 ทศวรรษ ฮ่องกงสามารถผ่านพ้นสภาพความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง โดยที่เกือบจะไม่ถูกกระทบกระเทือนหรือผจญกับความสับสน ซึ่งมักจะต้องเกิดขึ้นถ้ามีความเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้ในส่วนอื่นของโลก
(น.201) สหราชอาณาจักรรู้สึกภูมิใจและถือเป็นอภิสิทธิ์ที่ได้มีความรับผิดชอบต่อคนฮ่องกง และได้จัดโครงสร้างของโอกาสที่ฮ่องกงได้ประสบความสำเร็จอย่างเด่นชัด และได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่คนฮ่องกงได้สร้างขึ้นจากโอกาสของพวกเขา
อีกไม่นานนักสหราชอาณาจักรจะส่งมอบความรับผิดชอบไปให้สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงเวลานั้นจีนจะเป็นผู้รักษาฮ่องกงและฮ่องกงจะยังคงมีเอกลักษณ์ของตนเอง ตลอดจนความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั้งหลายในโลกในกรอบของ “หนึ่งประเทศ สองระบบ”
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทั้งหลาย ในคืนนี้จีนจะรับความรับผิดชอบต่อสถานที่และประชาชนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเรา การรับรองที่หนักแน่นต่อหน้าประชาคมโลกที่ให้ไว้ในปฏิญญาร่วมใน ค.ศ. 1984 เป็นการยืนยันความต่อเนื่องในวิถีชีวิตของฮ่องกง สหราชอาณาจักรจะสนับสนุนปฏิญญาร่วมอย่างไม่คลอนแคลน พันธกรณีและความเกี่ยวพันอันแน่นแฟ้นของเราต่อฮ่องกงจะดำเนินต่อไปและข้าพเจ้ามั่นใจว่าจะรุ่งเรืองไปพร้อมกับการที่ฮ่องกงและประชากรของฮ่องกงจะรุ่งเรืองต่อไปด้วย
แขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย ท่านสุภาพสตรีและสภาพบุรุษ ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระบรมราชินี และในนามของประชาชนอังกฤษทั้งหมด ข้าพเจ้าใคร่แสดงความขอบคุณ ความชื่นชม ความรัก และความปราถนาดี ต่อชาวฮ่องกงทั้งหมด ผู้ซึ่งเป็นมิตรที่มั่นคงและพิเศษมาหลายชั่วคน เราจะไม่ลืมพวกท่านและเฝ้ามองด้วยความสนใจอย่างใกล้ชิดในขณะที่ท่านก้าวสู่ยุคใหม่ของประวัติศาสตร์อันดีเด่นของท่าน
(
น.202) เมื่อพระราชดำรัสจบแล้ว ทหารที่มีหน้าที่ชักธงลงเข้าประจำที่เมื่อพร้อมแล้วแตรวงบรรเลงเพลง God Save the Queen ลดธงยูเนี่ยนแจ็คและธงฮ่องกงลงจากเสา และบรรเลงเพลงชาติจีน ชักธงจีนและธงเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (ธงพื้นแดง มีดอกชงโคอยู่ตรงกลาง) ขึ้นสู่ยอดเสา
ประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินกล่าวสุนทรพจน์ว่า
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ล
นายโทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรี
แขกผู้มีเกียรติ
ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี
ธงประจำชาติแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนและธงประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกงภายใต้รัฐบาลจีนได้โบกสะบัดเหนือดินแดนนี้ ขณะนี้ทุกประเทศในโลกกำลังจับจ้องที่ฮ่องกง รัฐบาลทั้งสองประเทศตกลงจัดให้มีพิธีมอบฮ่องกงแก่จีนตามปฏิญญาร่วมจีนอังกฤษว่าด้วยปัญหาฮ่องกง เพื่อแสดงถึงการที่จีนกลับมามีอำนาจในฮ่องกงอีกครั้งหนึ่งและการจัดตั้งเขตบริหารพิเศษฮ่องกงอย่างเป็นทางการ การคืนฮ่องกงมาสู่จีนนี้จึงเป็นโอกาสแห่งความรื่นเริงสำหรับชาติจีน และเป็นชัยชนะของสันติภาพและความยุติธรรมของมนุษยชาติ
ดังนั้น วันที่ 1 กรกฎาคม 2540 จะกลายเป็นวันประวัติศาสตร์ซึ่งจะอยู่ในความทรงจำนานเท่านาน การที่ฮ่องกงกลับคืนสู่แผ่นดินแม่ครั้งนี้แสดงว่า ต่อไปนี้เพื่อนร่วมชาติฮ่องกงจะกลายเป็นเจ้าของแผ่นดินจีนและฮ่องกงกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการพัฒนา
(น.203) หน้าประวัติศาสตร์จะต้องจารึกชื่อ นายเติ้งเสี่ยวผิง ผู้คิดหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และโดยแนวทางของความคิดที่ยิ่งใหญ่นี้เองทำให้เราประสบความสำเร็จในการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาฮ่องกง และในที่สุดฮ่องกงก็กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินแม่อีกครั้ง
ข้าพเจ้าขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณท่านผู้ทรงเกียรติทั้งชาวจีนและชาวอังกฤษ ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายปัญหาฮ่องกงประสบความสำเร็จและทุกท่านทั่วโลกที่ได้แสดงความสนใจและสนับสนุนการคืนสู่แผ่นดินแม่ของฮ่องกง
และในพิธีที่เคร่งขรึมนี้ ข้าพเจ้าขอแสดงความปรารถนาดีมายังเพื่อนร่วมชาติชาวฮ่องกงกว่า 6 ล้านคนที่ได้กลับคืนมาสู่มาตุภูมิอีกครั้งหนึ่ง
ภายหลังการส่งมอบฮ่องกงแก่จีนแล้ว รัฐบาลจีนจะยึดมั่นและปฏิบัติตามนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” “คนฮ่องกงบริหารฮ่องกง” และ “การปกครองตนเองในระดับสูง” ระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งวิถีชีวิตและตัวบทกฎหมายของฮ่องกงจะไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงในหลักการใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแล้ว รัฐบาลจีนจะรับผิดชอบด้านการต่างประเทศและการป้องกันประเทศ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงจะมีอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการตามกฎหมาย Basic Law รวมทั้งอำนาจในการพิพากษาขั้นเด็ดขาดของกฎหมาย ชาวฮ่องกงจะมีสิทธิ์และเสรีภาพอย่างเต็มที่ตามกฎหมาย โดยเขตบริหารพิเศษ
(น.204) ฮ่องกงจะค่อยๆ พัฒนาระบบประชาธิปไตยที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของฮ่องกง
ฮ่องกงยังคงสถานภาพเป็นท่าเรือปลอดภาษีและเป็นศูนย์กลางการเงิน การค้า และการเดินเรือระหว่างประเทศ รวมทั้งจะยังคงการติดต่อและพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมกับประเทศอื่นๆ และองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ต่อไป ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศอื่นและภูมิภาคอื่นๆ ในฮ่องกงจะได้รับการปกป้องภายใต้กฎหมาย
ข้าพเจ้าหวังว่าทุกประเทศและภูมิภาคที่มีผลประโยชน์ด้านการลงทุนและการค้าในฮ่องกงจะยังคงดำเนินการเพื่อความมั่งคั่งมั่นคงของฮ่องกงต่อไป
เพื่อนร่วมชาติฮ่องกงมีประเพณีความรักชาติที่ยิ่งใหญ่ หากวิเคราะห์ความมั่งคั่งของฮ่องกงในวันนี้ก็เกิดจากเพื่อนร่วมชาติฮ่องกงทุกคนเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งสิ้น และสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้คือ เกิดจากผลของการพัฒนาและการสนับสนุนจากจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย ข้าพเจ้าจึงเชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนจากชาวจีนทุกคน รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและเพื่อนร่วมชาติฮ่องกงจะสามารถบริหารฮ่องกงได้เป็นอย่างดี จะเสริมสร้างรักษาความมั่งคั่งและความมั่นคงในระยะยาวเพื่ออนาคตที่สดใสของฮ่องกง
ขอขอบคุณ
เมื่อประธานาธิบดีกล่าวจบเป็นอันว่าเสร็จพิธี Prince of Wales กับผู้ว่าราชการ Chris Patten ออกไป คณะบนเวทีออกไปหมดแล้วเราก็ออกไปกัน
Next >>