Please wait...

<< Back

" เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2545 "


(น.121) รูป

(น.121) ตามถ้ำบนหน้าผาแถวนี้มีโลงศพโบราณ ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าถ้ำสูงแค่นั้น เอาโลงศพขึ้นไปได้อย่างไร ไกด์ยังช่วยถ่ายรูปให้เราด้วย มีเรื่องที่คนถ่อแพเล่าคือ กัวมั่วรั่วมาเที่ยวเขาอู่อี๋ซานแล้วแต่งบทกวีสั้นๆ ความว่า ทิวทัศน์ของกุ้ยหลินเป็นหนึ่งแห่งแผ่นดิน สู้เนินเล็กเขาอู่อี๋หาได้ไม่ ทำให้คนกุ้ยหลินโกรธ เขาว่ากัวมั่วรั่วเขียนเมื่อ ค.ศ. 1962 ย้อนหลังไปเมื่อ ค.ศ. 1940 เฉินเจียเกิง เศรษฐีซึ่งค้าขายที่สิงคโปร์และเป็นผู้บริจาคเงินสร้างมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมินและโรงเรียนจี๋เหม่ย เขียนบทกวีไว้ว่า ทิวทัศน์ของกุ้ยหลินเป็นที่หนึ่งของแผ่นดิน หารู้ไม่ว่ายังมีเนินเล็กอู่อี๋อยู่แห่งหนึ่ง หมายความว่า ไม่แพ้กัน ของท่านกัวมั่วรั่วมาเขียนทีหลัง


(น.122) รูป




(น.123) รูป

(น.124) เมื่อล่องแพ 9 โค้งเสร็จแล้ว ตรงกลับไปโรงแรม รับประทานอาหารกลางวัน ปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก ถ่ายรูปหมู่ แล้วไปที่แห่งหนึ่งไกด์อธิบายว่า ตรงนี้เคยเป็นวัดหรือศาลเจ้าลัทธิเต๋า ขณะนี้ปรับปรุงเป็นถนนท่องเที่ยวตามแบบราชวงศ์ซ่งใต้ มีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเขาอู่อี๋ซาน แผนที่ทำตอนที่สมัครรับคัดเลือกเป็นมรดกโลกเขตอนุรักษ์สัตว์และพืช ลำธาร 9 โค้ง ด้านตะวันออกของภูเขาเป็นที่ทิวทัศน์สวยงาม ภาพและเรื่องเมืองของเจ้าเมืองหมิ่นหวังสมัยราชวงศ์ฮั่น


(น.124) รูป


(น.125) รูป

(น.125) ตารางวัดสารต่างๆ ในน้ำและในอากาศ น้ำและอากาศบริเวณนี้บริสุทธิ์มากกว่าที่อื่น


(น.126) รูป

(น.126) รูปทิวทัศน์มุมต่างๆ ด้านตะวันออกและตะวันตก ด้านตะวันตกมีภูเขาสูงสุดในจีนภาคตะวันออกชื่อ หวงกังซาน สูง 2,158 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีพืชสัตว์หลากหลาย เขาถ่ายรูปสัตว์แถบนี้มาให้ดูบอกว่าเป็น “โลกแห่งแมลงสวรรค์ของนก” พืชสัตว์ที่มีเฉพาะแต่ที่ภูเขานี้ เช่น ไม้ไผ่ชนิดหนึ่ง คางคกชนิดหนึ่ง กระจงชนิดหนึ่ง นกที่เป็นสัตว์อนุรักษ์ระดับชาติ ด้านประวัติศาสตร์ มีร่องรอยการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่สมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ซัง, โจว) คนสมัยนั้นทำนาและจับปลา วัตถุโบราณสมัยหินใหม่ สมัยราชวงศ์ซังและโจว มีแท่นบูชาฟ้าดิน

(น.127) วัฒนธรรมที่มีลักษณะเด่นคือ หีบศพแขวน (hanging coffin) เป็นวัฒนธรรมยุคสำริด ตามยอดเขาในเทือกนี้พบหีบศพแบบนี้ เช่น ที่ยอดกวนอิมพบใน ค.ศ. 1973 หีบมีรูปร่างเหมือนเรือ แบบเดียวกับที่พบในมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง ทำด้วยไม้หนานมู่ที่พบในท้องถิ่น อายุของหีบประมาณ 3,800 ปี มีรูปถ่ายตอนเปิดหีบ ในหีบมีกระดูกชายอายุราว 50-60 ปี สมัยนั้นถือว่าคนอายุ 60 ปี อายุยืนมาก เสื้อที่ศพสวมอยู่มักผุพังไปแล้ว แต่พอเหลือเศษเอาไปวิเคราะห์ พบเสื้อที่ทำด้วยวัตถุหลายอย่าง เช่น ฝ้าย ป่าน ไหม เสื้อเหล่านี้ทำให้ประวัติการทอผ้าของจีนเก่าไปอีก 1,000 ปี


(น.127) รูป

(น.128) วัฒนธรรมโลงแขวนมีมากมายหลายแห่ง ที่มีมากที่สุดคือ แถบแม่น้ำฉังเจียงที่เราเคยไปดูตอนไปล่องเรือแถวซานเสีย (ซานเสีย แปลว่า สามโตรกเขา) ทางใต้ถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยก็มีด้านตะวันออกไปจนถึงญี่ปุ่น ในเมืองจีนที่พบแต่ละมณฑลอยู่ต่างสมัยกัน เช่น ที่เสฉวนพบสมัยจ้านกั๋ว ที่เจียงซีเป็นสมัยชุนชิว หีบในที่ต่างๆ ไม่เหมือนกัน หีบที่กวางสีรูปร่างเหมือนเขาควาย มีรูปหีบที่พบที่เกาะปาละวัน ประเทศฟิลิปปินส์ มีธรรมเนียมที่ฝังศพไว้ในที่ธรรมดา ต่อมายหลังเก็บกระดูกใส่โอ่งเอาไปยอดเขา มีภาพแสดงวิธี (สันนิษฐาน) นำเอาโลงศพไปไว้บนถ้ำ ที่จริงในพิพิธภัณฑ์ยังมีอะไรให้ดูอีก แต่ว่าหมดเวลาแล้ว พิพิธภัณฑ์นี้มีที่ขายของที่ระลึกอยู่ระหว่างบริเวณที่แสดงเรื่องธรรมชาติกับที่แสดงเรื่องโบราณคดี ที่หมายต่อไปอยู่ในบริเวณเดียวกันนี้ มีสตูดิโอของศิลปินชื่อ เกอปี้ เป็นคนที่ชำนาญการแกะสลักของเล็กๆ ชนิดที่มองด้วยตาเปล่าไม่ค่อยจะเห็น ต้องดูด้วยแว่นขยาย เช่น งาชิ้นเล็กนิดเดียวแกะสลักกวีนิพนธ์สมัยราชวงศ์ถังได้ 300 บท รูปเทพีสันติภาพเล็กๆ ตอนที่มีงานฉลองสหรัฐอเมริกาครบ 200 ปี มีผู้เชิญศิลปินเกอปี้ไปสลักรูปหน้าของประธานาธิบดีอเมริกัน 40 คน แกะรากไม้เป็นรูปกวนอิม รูปพระอรหันต์ 500 องค์ เขาเขียนตุ้ยเหลียนเกี่ยวกับประเทศไทยด้วย


(น.128) รูป

Next >>