Please wait...

<< Back

" เย็นสบายชายน้ำ วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2539 "


รูป 44 โต๊ะกลมของหรัวกว๋อโหม (mó)

(น.42) อีกห้องท่านประธานเหมาเคยมาอยู่ 41 วัน ท่านแต่งบทกวีชิ่งหยวนชุนที่นี่ เป็นของขวัญให้คนในก๊กมินตั๋งชื่อ หลิ่วยาจื่อ (ให้ทำไม?) มีหมวกท่านประธานเหมาตอนมาเจรจา ท่านโจวเอินไหลให้โต๊ะกลมในห้องเดิมเป็นของหรัวกว๋อโหม (mó) โจวเอินไหลเคยใช้เป็นโต๊ะอาหาร ห้องของท่านหลินโปฉยู เป็นหนึ่งในเจ็ดของคนสำคัญพรรครุ่นแรก มีหนังสือพิมพ์ชื่อ เจี้ยรื่อเป้า อยู่บนโต๊ะ เลยหยิบมาให้อาจารย์สารสินอ่าน มีบทบรรณาธิการ กล่าวถึงสุนทรพจน์ประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก เรื่องความทุกข์ยากของประชาชน ห้องทำงานของต่งปี้อู่ เป็นคนที่ดูแลแนวร่วมของพรรค ในค.ศ. 1945 ท่านเป็นตัวแทนรัฐบาลไปประชุมสหประชาชาติครั้งแรกที่ซานฟรานซิสโก ห้องทำงานของผู้หญิง ห้องนี้รู้สึกเย็นดีกว่าเพื่อน มีแบบฟอร์มผู้หญิงเวลาออกไปทำงาน แต่แรกไม่มีเครื่องแบบ ท่านโจวเอินไหลออกเงินตัวเองให้พวกนี้ไปซื้อผ้าตัดแบบฟอร์ม ชั้นล่าง มีรูปเติ้งอิ่งเชากับหลี่เผิง บิดาของท่านหลี่เผิงเป็นสมาชิกพรรคคนสำคัญในเกาะไหหลำ เสียชีวิตไป เพื่อนสมาชิกส่งหลี่เผิงมาให้ท่านโจวเอินไหลเลี้ยงอยู่เดือนหนึ่งก็ส่งไปอยู่เหยียนอาน ผู้อธิบายบอกว่าตอนแรกท่านหลี่เผิงเองก็ไม่ทราบว่ามีรูปนี้ ผู้ถ่ายภาพคือเลขานุการของโจวเอินไหลชื่อ ต่งเสี่ยวเผิง เป็นคนชอบถ่ายรูป ดูเสร็จแล้วถ่ายรูปหมู่กับกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มฝ่ายไทย ฝ่ายตำรวจ ฝ่ายกระทรวงการต่างประเทศ แล้วกลับโรงแรมเลย


(น.43) รูป 45 ถ่ายรูปหน้าบ้าน


(น.44) รูป 46 นายกเทศมนตรีเลี้ยงอาหารค่ำ

(น.44) อ่านหนังสือพิมพ์ People Daily พาดหัวข่าวว่า Chinese Language Popular Overseas พูดถึงการวางแผนขยายการสอนภาษาจีนไปทั่วโลก โดยส่งครูสอนภาษาจีนที่อบรมแล้วไปต่างประเทศเพราะเป็นที่ต้องการ ตอนค่ำท่านนายกเทศมนตรี ชื่อ หลิวจื้อจง เลี้ยงอาหารค่ำ คุณเว่ยซือเฟิง หัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของนครฉงชิ่งแนะนำฝ่ายจีน มีท่านนายกเทศมนตรีหลิวจื้อจง มาดามจาง กระทรวงการต่างประเทศ คุณหลี่เคอซี รองประธานสภาผู้แทนประชาชน ซึ่งเป็นสมาชิกก๊กมินตั๋งแห่งฉงชิ่ง มาดามหลู่ คุณจางกั๋วจง รองประธานที่ปรึกษาการเมือง อุปนายกสภาอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม คุณถังเฟิงหยุน รองอธิบดีสำนักงานโครงการซานเสีย คุณจางเซิงจง เป็นที่ปรึกษากรมพิธี พี่แอ๊ (คุณรัฐกิจ รองอธิบดีกรมพิธีการทูต) แนะนำฝ่ายไทย

(น.45) นายกเทศมนตรีกล่าวต้อนรับว่าถึงข้าพเจ้าจะมาที่ประเทศจีนเป็นครั้งที่ 7 แต่มาฉงชิ่งเป็นครั้งแรก ประเทศจีนและไทยมีความสัมพันธ์กันดี เขาดีใจที่ข้าพเจ้ามาศึกษาค้นคว้าเรื่องจีนและเขียนหนังสือ กล่าวต่อไปถึงนครฉงชิ่งว่า เมืองนี้สำคัญที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงใต้ เป็นเมืองสำคัญในการขนส่งในแม่น้ำแยงซี ปัจจุบันมีเนื้อที่ 2,300 ตารางกิโลเมตร ประชากร 15.3 ล้านคน นครฉงชิ่งมีความสำคัญด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจดี ที่ตั้งของนครทำให้เมืองนี้สำคัญในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจของประเทศจีน ตอนที่เปิดประเทศเพื่อปฏิรูปเศรษฐกิจ ฉงชิ่งก็มีความมั่งคงทางเศรษฐกิจและสังคม ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 8 เศรษฐกิจเติบโต 8.5 % อุตสาหกรรมในฉงชิ่งมีอุตสาหกรรมเคมี เครื่องกล อุตสาหกรรมยา และอุตสาหกรรมเบาอื่น ๆ หลายปีมานี้เทศบาลปรับปรุงเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันเทศบาลก็ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นการดึงดูดการลงทุน เรื่องการคมนาคมยังมีปัญหา เพราะเมืองนี้เป็นเมืองภูเขา จะต้องตัดถนนใหม่ไปต้าจู๋ ปัจจุบันได้ลงทุนตัดทางด่วนจากฉงชิ่งไปอู่ฮั่น เลียบไปตามแม่น้ำแยงซี อีกสายจากฉงชิ่งไปจ้านเจียงจะสร้างปีหน้า ขณะเดียวกันก็ประสบความสำเร็จในการเปิดให้ชาวต่างประเทศมาลงทุนตามนโยบายของรัฐบาลกลาง มีผู้มาลงทุนจากต่างประเทศถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

(น.46) การค้ากับไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การพัฒนาการค้าขายมีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น ปัจจุบันโครงการแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 9 จะสร้างฉงชิ่งให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าตามแม่น้ำ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีหลี่เผิง และประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน คิดว่าจะกระชับความสำคัญกับไทยมากขึ้น ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศและเป็นประโยชน์ในการสร้างมิตรภาพ วันพรุ่งนี้ ข้าพเจ้าจะลงเรือไปดูโครงการซานเสีย อันเป็นโครงการที่รัฐบาลจีนสนับสนุนมาก ท่านนายกเทศมนตรีเองเพิ่งกลับมาจากการตรวจโครงการเมื่อเดือนก่อน รู้สึกว่าการดำเนินโครงการราบรื่นดี อาจจะเสร็จก่อนกำหนดเวลา ทางมณฑลต้องพยายามปรับปรุงเตรียมแผนรองรับ ข้าพเจ้าถามว่าเมื่อมีโครงการซานเสียแล้วจะเปลี่ยนแปลงสภาพของฉงชิ่งอย่างไร นายกเทศมนตรีกล่าวว่า การสร้างเขื่อนใหญ่ที่สุดของโลกสำเร็จได้จะมีประโยชน์ในการป้องกันน้ำท่วม เพิ่มความสามารถในการขนส่งทางเรือและการท่องเที่ยว ฉงชิ่งต้องปรับปรุงให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง ตัวอย่างเช่น ในแม่น้ำแยงซีนี้ เรือขนส่ง 1,000 ตัน ในหน้าน้ำน้ำมากจะขนส่งได้ 3,000 ตัน หลังการสร้างเขื่อนจะเพิ่มเป็น 10,000 ตัน เมื่อสร้างเขื่อนเสร็จแล้วท่าเรือปัจจุบันจะท่วมไป ต้องสร้างใหม่ที่ถนนปิงเจียง เรือที่ใช้ในแม่น้ำเป็นพวกเรือพ่วงเป็นแถว ๆ ประมาณ 2,000 - 3,000 ตัน ต้องเตรียมเรื่องการขนถ่ายสินค้า ข้าพเจ้าถามเรื่องการใช้น้ำชลประทาน ท่านนายกเทศมนตรีว่า ตอนต้นของแม่น้ำไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าไรในเรื่องการ


(น.47) รูป 47 นายกเทศมนตรีให้ของขวัญ

(น.47) ชลประทาน ถ้าเอาน้ำในแม่น้ำแยงซีมาทำต้นทุนจะสูงเกินไป จึงใช้น้ำในแม่น้ำที่เป็นสาขาของแม่น้ำแยงซี เมื่อพูดถึงตอนนี้ หัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์บอกว่าควรจะไปคุยกันต่อที่โต๊ะอาหารได้แล้ว ที่โต๊ะอาหารท่านนายกเทศมนตรีเล่าว่าเคยไปเมืองไทย 2 หน ในค.ศ. 1991 และ 1993 ไปประเทศไทย 2 ครั้งรวม 8 วัน ไปหนแรกมีธนาคารกรุงเทพเป็นเจ้าภาพ 6 วัน หนที่ 2 บริษัทอีซูซุเป็นเจ้าภาพ 2 วัน จึงชอบรับประทานน้ำปลาพริกขี้หนู โทรทัศน์ท้องถิ่นมีข่าวเรื่องข้าพเจ้ามาเยือนฉงชิ่ง อาหารวันนี้เป็นอาหารท้องถิ่น เผ็ดมากตามเคย มีดนตรีพื้นเมืองมาบรรเลง นอกจากเพลงจีนก็ยังเล่นเพลงไทย เช่น จับปูดำ ขยำปูนา สายฝน รับประทานเสร็จมาออกกำลังกายแก้ท้องอืด ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่มาวันนี้คือ คนจีนตอนใต้ใช้อักษรจีนตัวเต็มมากขึ้นทั้งในนามบัตรและเอกสารต่าง ๆ อาจเป็นเพราะต้องติดต่อต่างประเทศมากขึ้น