Please wait...

<< Back

" เย็นสบายชายน้ำ วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2539 "


(น.48) รูป 48 มาดามหลู่ให้สมุดภาพถ่าย

(น.49) วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2539
เช้านี้มาดามหลู่รองนายกเทศมนตรีมารับเวลา 08.20 น. วันนี้เราจะออกจากฉงชิ่งไปลงเรือ ก็เลยถือว่าต้องลากันที่โรงแรม มาดามหลู่ให้สมุดภาพถ่ายที่ฉงชิ่ง คนไทยที่นี่มีคนเดียว มาดามหลู่พูดถึงหมู่บ้านจิตรกรที่เราจะไปว่า สร้างมาตั้งแต่เริ่มสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นใหม่ ๆ เดิมถือว่าเป็นที่ค่อนข้างห่างไกลชุมชน เงียบสงบดี และทิวทัศน์สวยงาม แต่ตอนนี้ก็เริ่มพลุกพล่านแล้ว มาดามหลู่เป็นนายกกิตติมศักดิ์ของสมาคมสตรีนักเขียนพู่กันจีน ที่จริงก็เริ่มหัดไม่นานนัก แต่ไปร่วมกิจกรรมของสมาคมอยู่เสมอ ในสมุดภาพถ่ายที่ให้ข้าพเจ้า เขาก็เป็นคนเขียน มาดามหลู่เล่าว่าตอนนี้มีหน้าที่ดูแลเรื่องการค้าของฉงชิ่งทั้งการค้าระหว่างประเทศและการค้าภายใน ต้องดูแลตลาดในเมืองด้วยว่ามีสินค้าต่าง ๆ พอให้ประชาชนใช้ไหม


(น.50) รูป 49 ไปหมู่บ้านจิตรกร จิตรกรให้รูปข้าพเจ้ายืนที่โตรกเขาซานเสีย

(น.50) ถึงหมู่บ้านจิตรกรที่ถนนหัวหลงเฉียว มีคุณซ่งกว่างซุ่นเป็นผู้อำนวยการของหมู่บ้านมากล่าวต้อนรับ เล่าเรื่องหมู่บ้านว่าที่นี่มีจิตรกร 17 คน เขียนภาพพู่กันจีน สีน้ำมันแบบฝรั่ง และภาพพิมพ์ไม้ จิตรกรอยู่ที่นี่ 42 ปีแล้ว แต่เพิ่งเปิดให้ชาวต่างประเทศเข้าชมเมื่อค.ศ.1985 ผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ส่วนมากจะเป็นจิตรกรรุ่นแรก อายุ 70 กว่าปีแล้ว พวกที่เรียกว่าหนุ่มก็อายุ 50 กว่าปี แต่ละคนมีห้องทำงานของตนเองและมาแสดงภาพในห้องประชุมนี้ ส่วนมากจะส่งภาพประกวดระดับชาติ ได้รับรางวัลมากมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติก็มาสั่งรูปที่หมู่บ้านนี้ หลายคนได้รับเชิญไปแสดงภาพที่ต่างประเทศ เช่น หลี่เซ่าเหยียน จิตรกรชาวเสฉวนเคยไปแสดงผลงานในประเทศไทยในค.ศ.1990 ได้ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ เช่น พระบรมมหาราชวัง เสียดายที่เขาไม่ได้มาต้อนรับด้วยเพราะอยู่ที่เฉิงตู อายุ 80 กว่าแล้วจึงมาไม่ไหวได้แต่โทรศัพท์มาให้คนอื่นช่วยต้อนรับข้าพเจ้า จิตรกรอื่น ๆ เคยไปฝรั่งเศส นอร์เวย์ เยอรมนี ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จิตรกรที่นี่

(น.51) นอกจากเขียนภาพแล้ว ยังค้นคว้าเทคนิคใหม่ ๆ ในการเขียนภาพด้วย จิตรกรชื่อ หยูเซียนหัว ให้รูปข้าพเจ้ายืนอยู่ที่โตรกเขาซานเสีย ข้าพเจ้าถามถึงวิธีการเลือกคนเข้ามาพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เขาว่ามีคณะกรรมการคัดเลือกตามมหาวิทยาลัยดูว่าใครเหมาะสม อีกประเภทหนึ่งก็คือศิลปินที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามไม่มีโอกาสคัดเลือกใครมาอีก เพราะหมู่บ้านมีขนาดเล็ก คนมาอยู่มากไม่ได้ เมื่อมาอยู่รัฐบาลให้เงินเดือน แต่ก็ต้องเสียค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่เอง ภาพที่เขียนถ้าขายได้ รายได้ก็ต้องแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งต้องส่งให้รัฐบาล ส่วนหนึ่งเข้ากองทุนหมู่บ้าน จิตรกรได้ส่วนเดียว เขาบอกว่าระหว่างปฏิวัติวัฒนธรรมยิ่งแย่ รัฐบาลไม่ช่วยเหลือเลย ตอนนี้ยังดีขึ้น ดูภาพเขียนในห้องแสดงภาพและไปดูตามห้องทำงานของแต่ละคน เช่น คุณหลินจุน ศิลปินชาวส่านซี ชอบเขียนภาพหมีแพนด้า ต้องไปที่เขตอนุรักษ์เพื่อไปศึกษาลักษณะของหมีแพนด้า นอกจากนั้นยังเขียนภาพอื่น เช่น ภาพซานเสีย เคยได้รางวัล ภาพหลู่ซุ่น นักเขียนมีชื่อของจีน


(น.51) รูป 50 คุณหลินจุน ชอบเขียนภาพหมีแพนด้า


(น.52) รูป 51 ภาพหมีแพนด้าฝีมือคุณหลินจุน

(น.52) คุณอู๋เฉียงเหนียนทำภาพพิมพ์ไม้ภาพหนึ่งต้องแกะสลักไม้ 3 แผ่น ทาสีแล้วพิมพ์ลงกระดาษ ตอนนี้กำลังพิมพ์ภาพแมว เขาเอาภาพประชาชนที่เสียใจเมื่อรถศพของโจวเอินไหลผ่าน เขาเขียนเมื่อ ค.ศ.1977 ใช้เวลาเขียนปีหนึ่ง คุณสูว์ควงที่มีภริยาเป็นชนกลุ่มน้อย เลยชอบเขียนรูปชนกลุ่มน้อย เพิ่งกลับมาจากเหลียงซานทางตะวันตกของเสฉวนซึ่งเป็นจังหวัดปกครองตนเองชนชาติอี๋ ภาพที่เขาเขียนได้เหรียญทอง ใบโฆษณานิทรรศการของเขาเองที่ญี่ปุ่นมีศิลปะอย่างใหม่คือ แกะไม้เป็นพิมพ์สำหรับทำภาพพิมพ์ แต่ไม่พิมพ์ ใช้เป็นงานศิลปะ เขาเล่าว่า ตอนปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อ 20 ปี จิตรกรต้องเลี้ยงตัวเองลำบากมาก ตอนนี้ก็สบายแล้ว อยู่ในหมู่บ้านนี้มีความสุขดีคือ ทุกคนเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นนายกสมาคม หรือสมาชิกธรรมดา


(น.52) รูป 52 ภาพคนที่เสียใจในการตายของโจวเอินไหล


(น.53) รูป 53 ถ่ายรูปกับคุณหนิวเหวิน ด้านหลังเป็นภาพนายอำเภอเจ้าของวาทะ “เป็นผู้นำ ถ้าไม่ทำอะไรให้ประชาชน กลับไปบ้านขายมันเทศจะดีกว่า”

(น.53) คุณหนิวเหวิน เป็นนายกสมาคมของที่นี่และเป็นรองประธานของสมาคมจิตรกรเสฉวน เป็นคนมีอายุ 70 กว่าปีแล้ว มีผลงานดีเด่น มีรูปเขียนพู่กันจีนภาพหนึ่งที่ติดไว้ข้างฝา เป็นรูปข้าราชการระดับนายอำเภอ มีวาทะของนายอำเภอว่า “เป็นผู้นำ ถ้าไม่ทำอะไรให้ประชาชน กลับไปบ้านขายมันเทศจะดีกว่า” อีกห้องมีผลงานของหลี่เซ่าเหยียน (ไม่ได้มา) เขาทำงานด้านนี้ให้พรรคคอมมิวนิสต์มา 50-60 ปีแล้ว โดยการทำภาพพิมพ์ไม้ให้หนังสือพิมพ์ของพรรค อีกคนหนึ่งชื่อหัวจุนอู่ เป็นนักวาดภาพการ์ตูนที่มีชื่อเสียงที่สุดในจีน ไม่ได้เป็นสมาชิกของหมู่บ้านนี้ แต่รู้จักชอบพอกับจิตรกรในหมู่บ้าน มักส่งรูปมาให้อยู่เสมอ ผลงานภาพหนึ่งเป็นภาพกบกระโดดลงบ่อ มีบทกวีเขียนบรรยายว่า ใคร ๆ ก็ชมว่าฟ้ากว้างใหญ่ เห็นท้องฟ้าแล้วเกิดความกลัว กระโดดออกมาจากบ่อ เกรงอันตรายจากลม กลับไปอยู่ก้นบ่อดีกว่า อีกภาพคือสมาชิกแก๊งสี่คน คนหนึ่งหน้าเป็นหมู


(น.54) รูป 54 ภาพขุยเหมิน ซานเสีย ของซ่งก่วงซุ่น

(น.54) หวงสวนจือ เป็นจิตรกรชาวเจียงหนาน ฉะนั้นจึงเขียนวิวเจียงหนานเอาไว้มาก ลูกชายก็เป็นจิตรกร อีกห้องมีภาพของหม่าเจิ้นเชิง ตอนนี้เขาไปปักกิ่ง คนที่อธิบายให้เราฟังอยู่ในกลุ่มนักวาดรูปรุ่นใหม่ ถามว่าอายุเท่าไหร เขาว่า 57 ปี อีกคนชื่อจีเจียต๋าหว่าเป็นคนทิเบต (ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านนี้) อายุราว 50 ปี ซ่งก่วงซุ่น เป็นคนซานเสีย อำเภอปาเซียน ชอบเขียนภาพทิวทัศน์ เช่น ภาพขุยเหมิน ไป๋ตี้เฉิง


(น.55) รูป 55 บ้านศิลปิน

(น.55) ดูแล้วการออกแบบบ้านพักเขาทำได้ดีมาก ประหยัดเนื้อที่แต่มีประโยชน์ด้านใช้สอย หน้าบ้านเป็นสวนดอกไม้ที่หันไปทางแม่น้ำเจียหลิงเจียง ทิวทัศน์งดงาม ดูแล้วรู้สึกสงบ น้ำตรงนี้ว่ายได้ไม่เป็นอันตราย ริมน้ำปลูกผัก ตกปลาได้ มองดูโดยรวมแล้ว น่าจะช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจให้อยากเขียนภาพสร้างสรรค์งานศิลปะ เหมือนอยู่ในดินแดนที่เรียกว่า “ซื่อไว่เถาหยวน” คือ อยู่ในสวนท้อไกลมนุษย์


(น.56) รูป 56 ถ่ายรูปริมน้ำ

Next >>