Please wait...

<< Back

ย่ำแดนมังกร ส่งท้ายก่อนสลายตัว

(น.347) ส่งท้ายก่อนจะสลายตัว
(น.348) ในเครื่องบิน เราได้มอบของที่ระลึกบางอย่างให้แก่เจ้าหน้าที่ของเครื่องบิน ซึ่งทุกๆ คนได้เดินทางติดตามเราไปในที่ต่างๆ ตลอดการเดินทางและขอให้เขาเซ็นชื่อและเขียนข้อความบางอย่างไว้ในสมุดบันทึกของข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าได้เล่าให้พวกเราคนอื่นๆ ฟังถึงคำกล่าวของท่านรัฐมนตรีหวังที่เปรียบคนกับดอกไม้ อาจารย์สารสินบอกว่าเห็นจะเป็นบทกวีจีนบทใดบทหนึ่ง เครื่องบินนำเราสู่ฮ่องกง จอดลงที่สนามบิน ผู้แทนสำนักข่าวซินหัว 2 ท่านได้มารับเราตามเคย รวมทั้งองครักษ์ของผู้สำเร็จราชการฯ เราเดินทางไปพักที่โรงแรมเดิม แต่เปลี่ยนห้อง เมื่อไปถึงโฮเต็ลก็มีใครต่อใครมารับเยอะแยะตามเคย มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งรีบมาแนะนำตัวว่าเป็น Mrs. Owyang Mr. John Owyang เป็นบุตรของท่านทูต โอวหยัง เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย ซึ่งท่านทูตได้ให้บุตรชายและสะใภ้ของท่านซึ่งเป็นนายธนาคาร มาคอยดูแลเราขณะอยู่ฮ่องกง วันแรกที่ข้าพเจ้ามาถึงฮ่องกงก่อนไปประเทศจีนนั้น ได้ความภายหลังว่าทั้ง 2 ก็มาคอยรับข้าพเจ้า แต่ไม่มีใครแนะนำข้าพเจ้าจึงไม่ทราบ Mrs. Owyang มาถามว่า ข้าพเจ้าอยากไปไหนบ้าง เธอจะช่วยจัดให้ ข้าพเจ้าถามว่ามีอะไรน่าดูบ้างในเมืองฮ่องกงนี้ Mrs. Owyang ก็บอกว่ามี Ocean Park ซึ่งมีอ่างเลี้ยงปลาชนิดต่างๆ น่าสนใจดี ข้าพเจ้าก็บอกว่าสนใจ ข้าพเจ้าเห็นมีท้องฟ้าจำลองอยู่หน้าโฮเต็ล ก็อยากดู Mrs. Owyang ไปสืบมาได้ความว่าเขาอยู่ในระหว่างการปิดซ่อมแซม จึงอดดูไปตามระเบียบ


(น.349) รูป 160 ขอลายเซ็นกัปตันเรือบินไปจากคุนหมิงถึงฮ่องกง

(น.349) ตอนนี้ก่อนอื่นเราจะไปกินอาหารเสียก่อน คุณพูนเพิ่มได้จัดอาหารไว้ที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ทางฝั่งฮ่องกง เราจะไปกินกันที่นั่นทุกคน เที่ยวนี้เราข้ามเรือไปฮ่องกงโดยการลอดใต้อุโมงค์ใต้น้ำ เมื่อถึงร้านอาหารเราก็ไปนั่งรับประทานกัน แม้เป็นอาหารจีนแต่บรรยากาศการกินและรสอาหารก็ไม่ค่อยจะเหมือนกับที่เรากินที่จีนเท่าไร ภาษาที่คนฮ่องกงพูดเป็นภาษากวางตุ้ง ซึ่งข้าพเจ้าฟังไม่ออกเอาเสียเลยมีคนที่พูดกวางตุ้งได้มาช่วยเราอีกคนคืออาจารย์กัลยา ซึ่งเป็นเลขานุการของกรรมการสารานุกรมสำหรับเยาวชน อาหารมื้อนี้มี


(น.350) รูป 161 เลี้ยงอาหารกลางวันที่ฮ่องกง (เที่ยวกลับ)

(น.350) หลายอย่าง เช่น ไข่เยี่ยวม้า หูฉลาม เป็ดย่าง หมูแดง เต้าหู้ยัดไส้ นกพิราบ เป๋าฮื้อแห้ง แกงฟัก ข้าวผัดปลาเค็ม อีมี่ ฯลฯ หลังอาหารข้าพเจ้าขอเขาไปเที่ยวที่ต่างๆ เขาบอกว่า จะต้องไปเป็นกลุ่มเล็กๆ จำกัดคนเพื่อความปลอดภัย ท่านผู้หญิงมณีรัตน์กับพวกจะต้องไปหาซื้อสิ่งของบางอย่างสำหรับใช้ในราชการ ก็เป็นอันแยกขบวนไป คนอื่นๆ นอกจากที่ไปกับข้าพเจ้าเขาไปซื้อของกันที่ไหนก็ไม่รู้ ส่วนที่ไปกับข้าพเจ้ามีท่านผู้หญิงสุประภาดา คุณพูนเพิ่ม อารยา กสิณ เปาะ คุณเสริม คุณดำรง แอ๋ว อยากไปด้วยแต่ครบตามโควต้าของฝ่ายรักษาความปลอดภัยฮ่องกงพอดี

(น.351) แห่งแรกเราไป Chinese Arts and Crafts (H.K.) Ltd. ขายของทำจากเมืองจีนหลายๆ อย่าง เท่าที่จำได้มีเครื่องเงินเครื่องทองที่ราคาแพงมาก ข้าพเจ้าคิดว่าใครจะไปซื้อ (ถึงแม้จะสวยก็ตาม) ผู้ดูแลร้านบอกว่าคนไทยนั่น แหละมาซื้อ! ข้าพเจ้าได้แต่จดรายการของต่างๆ เพื่อเป็นตัวอย่าง ม้าทำด้วยทอง 18 เค น้ำหนัก 1026.18 กรัม ราคา 170,000 เหรียญฮ่องกง (อัตราแลกเปลี่ยน 1 เหรียญฮ่องกง = 4 บาท) มังกรทำด้วยทอง 14 เค น้ำหนัก 224 กรัม ราคา 29,000.00 เหรียญฮ่องกง ช้าง 14 เค น้ำหนัก 724.34 กรัม ราคา 84,000 เหรียญฮ่องกง เด็กนอนในเปลือกถั่ว ทอง 14 เค น้ำหนัก 97.24 กรัม ราคา 10,000 เหรียญฮ่องกง ม้า 18 เค น้ำหนัก 451.3 กรัม ราคา 67,000 เหรียญฮ่องกง นอกจากนั้นมีจิ่งไท่หลานทำเป็นตลับซึ่งราคาถูกกว่าในประเทศจีน เล่นเอาเปาะชักโมโหเพราะว่าเพิ่งซื้อมาหยกๆ ในราคาสูงกว่านี้ เครื่องดนตรีจีนขนาดจิ๋วทำด้วยเงินลงยา 8 ชิ้น ราคา 680 เหรียญ (เราน่าจะเอามาทำเป็นชุดเครื่องดนตรีไทย) มุกน้ำจืดจาก เซี้ยงไฮ้ งาสลักซึ่งมาจาก 2 แหล่ง คือปักกิ่งและเซี้ยงไฮ้ แต่เขาอธิบายว่าของจากปักกิ่งมีคุณภาพดีกว่า มีภาพปักใส่กรอบเป็นรูป Long march เครื่องไม้แกะสลัก สินค้าไม้ไผ่ เหล็กดัด ภาพปัก

(น. 352) เลียนแบบภาพสมัยราชวงศ์ซ้อง ราคา 3,800 เหรียญฮ่องกง ทำที่เซี้ยงไฮ้ เครื่องจักสานไม้ไผ่ คล้ายๆ กับที่เราทำที่พนัสนิคม ทำเป็นรูปต่างๆ เช่นกบ ราคา 20 เหรียญ นกฮูก 80 เหรียญ ช้าง 200 เหรียญ ควาย 140 เหรียญ เฟอร์นิเจอร์ไม้เขาบอกว่าวัสดุมาจากประเทศไทย ทำที่กวางตุ้ง ดอกไม้ผ้าสีแจ๋นๆ ไม่เหมือนของจริง ทำที่เซี่ยงไฮ้ ราคา 5-10 เหรียญ ผ้าชนิดต่างๆ จากเซี่ยงไฮ้และหังโจว มีผ้าบางชนิดทำเลียนแบบผ้าไหมไทย แต่ไม่เหมือนทีเดียว นอกจากนั้นยังมีอีกเยอะแยะจำไม่หวาดไหวแต่ก็พอจะสรุปได้ว่า มาดูร้านนี้ก็มีประโยชน์ในการศึกษาว่าจีนมีอะไรบ้าง ที่เราไปเมืองจีนจริงๆ ก็ได้ดูแต่ว่าแต่ละเมืองที่เราไปมีอะไรบ้าง อย่างนี้ได้เห็นรวมหมด และข้าพเจ้าตั้งข้อสังเกตว่าของที่ชาติเขาผลิตได้ดีๆ นั้น เขาส่งออกขายนอกเพื่อเอาเงินตราต่างประเทศอย่างที่อิสราเอลก็เหมือนกัน ส้มจั๊ฟฟ่าที่อร่อยนักหนานั้นในประเทศก็ไม่ค่อยจะมี นอกจากร้านขายของจีนแล้ว เราได้เดินดูศูนย์การค้า มีร้านขายเสื้อผ้า ขายของเล่น ขายหนังสือ แต่ไม่ได้ซื้ออะไร ก่อนกลับบ้านข้าพเจ้าอยากลองข้ามทะเลด้วยเรือข้ามฟาก เราจึงพากันไปที่ท่าข้าม Star Ferry ที่ท่าข้ามมีป้ายปะเตือนไว้ว่า “No litter no spitting”. เรือข้ามฟากนี้แล่นข้ามไปข้ามมาได้โดยไม่ต้องหันหน้าเลี้ยวเรือ ผู้โดยสารเพียงแต่กลับพนักเก้าอี้ไปมาเท่านั้นในเรือเขียนว่า Please do not spit. รู้สึกว่าเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เรือจะจอด 5 นาที การข้ามก็ใช้เวลา 5 นาทีเหมือนกันเขามีเรือเช่นนี้หลายลำ อัตราค่าโดยสาร 30 เซนต์ ในทะเลตรง


(น.353) รูป 162 นั่งเรือข้ามฟากที่ฮ่องกง

(น.353) ช่องแคบนี้มีเรือหลายลำ ท่านผู้หญิงบอกว่าเป็นเรือบ้านซึ่งคงจะใช่เพราะมีผ้าตากเต็มไปหมด ทางฝั่งฮ่องกงมีตึกระฟ้าขึ้นเต็ม คุณดำรงบอกว่าเป็น “ป่าหิน” สมัยใหม่ เมื่อเรือจอดเราขึ้น และเดินกลับโฮเต็ล ระหว่างทางเจอขอทาน 2-3 คน คนหนึ่งเล่นดนตรีเพลงจีนเพราะดีมาก เราก็ให้เงินขอทานทุกคน


(น.354) รูป 163 คุณโอวหยังเลี้ยงโต๊ะจีน

(น.354) ตอนกลางคืนเราไปรับประทานอาหารค่ำที่ภัตตาคาร โกลเด้น คราวน์ วันนี้ครอบครัว โอวหยัง เป็นเจ้าภาพ ไปถึง Mrs. Owyang แนะนำให้รู้จักกับลูกชาย 2 คน คนโตชื่อ Alvin คนเล็กชื่อ Ivan สำหรับคนเล็กนี้ เมื่อแรกพบก็ถูกชะตากันเลย เขาเอาเกมส์ที่เป็นเครื่องเล่นไฟฟ้าชนิดที่กดแล้วเดินเครื่องจะมีเครื่องมือต่างๆ หล่นลงมาตีหัวคนที่เดิน เราจะต้องหลบเข้าบ้านให้ได้ และได้คะแนน Ivan ทำเก่งมาก แต่ข้าพเจ้าถูกตีหัวตายเสมอๆ ข้าพเจ้าไม่ได้จดรายชื่ออาหาร แต่คุณหญิงทูตจีนอุตส่าห์จดให้ว่ามีหมูหัน หูฉลาม ปลาบู่ แอสคาลอป ผักและหมูหัน แกงฟักใส่ดอกขจร เป็ดฮ่องกง ไก่ และแฮมสับยัดไส้ หอยสังข์ ข้าวอบไก่ บะหมี่น้ำ ขนมเปี๊ยะต่างๆ ซาลาเปาทอดชุบงา พุดดิ้งสาคู ส้ม แอปเปิ้ล

(น.355) ข้าพเจ้านั่งกับ Mr. & Mrs. Owyang รู้สึกว่าท่านทั้งสองจะเป็นคนที่สนใจศิลปวัฒนธรรมไทยมาก เป็นเจ้าภาพที่ดี สามารถทำให้แขกสนุกสนานอยู่เสมอ Mrs. Owyang บอกว่า Alvin อายุ 14 แล้ว ปีหน้าจะส่งไปเรียนที่อังกฤษ ส่วน Ivan อายุ 11 ปี ยังอยู่กับพ่อแม่และไปไหนๆ กับพ่อแม่ทุกแห่ง จนมีความสามารถพูดอังกฤษได้คล่อง Ivan เป็นช่างภาพด้วย ไม่ค่อยนั่งอยู่กับที่เดินไปเดินมา ถามปัญหาต่างๆ ข้าพเจ้าตลอดเวลา ข้าพเจ้าตอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง สนุกดี ปัญหาไหนที่ Ivan ถามแล้วฟังไม่ชัด Mrs. Owyang จะช่วยอธิบายให้ เช่น Ivan ให้ข้าพเจ้าใช้ส้อม 2 คัน ไม้ขีด 1 ให้วางบนถ้วยแก้ว โดยไม่ให้ส้อมถูกถ้วยแก้วข้าพเจ้าลองทำได้วิธีหนึ่ง Mrs. Owyang บอกว่าได้เหมือนกันแต่ไม่ถูกนัก และแสดงวิธีทำโดยการเอาส้อม 2 คันขัดกันเป็นหน้าจั่วและยันไว้ด้วยไม้ขีด ส้อมจะทรงตัวอยู่พอดีไม่ล้ม Mrs. Owyang ว่าเป็นวิธีหลักเดียวกับที่ช่างจีนสร้างบ้าน เมื่อกินข้าวเสร็จ Mr. & Mrs. Owyang พาเราไปรับประทานไอศกรีมและชมวิวต่อที่ร้านบนพีค พ่อ Ivan หรือที่เราเรียกกันว่าโอวหยังน้อยยังถามปัญหาข้าพเจ้าไม่จบ เลยขึ้นมานั่งบนรถเดียวกันคุยกันถูกคอดี ดูแกจะมีความรู้มาก และช่างอธิบายเรื่องต่างๆ เช่น เรื่องเครื่องเทปแบบต่างๆ ไปจนกระทั่งถึงเรื่อง Rubik’s cube หรือก้อน 4 เหลี่ยมสีต่างๆ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ทุกวันนี้ Ivan อวดว่าทำได้ภายใน 2 นาที จะเอาสูตรมาอธิบายพรุ่งนี้ ที่ร้าน นั้นเรารับประทานไอศกรีมไปพลาง ทายปัญหากันไปพลาง Ivan ถูกอาจารย์สารสินถามปัญหาเอาบ้างชักจะหัวฟัดฟัวเหวี่ยงเหมือนกัน เมื่อเห็นชักดึกเราจะต้องกลับที่พักกันเสียที เราเดินทางกลับด้วยรถใต้ดิน แล้วเดินต่ออีกหน่อยก็ถึงโฮเต็ล คืนนั้นเราจัดการของขวัญที่ระลึกสำหรับข้าราชการสถานกงสุลผู้สำเร็จราชการอังกฤษและครอบครัวโอว- หยัง พร้อมกันนั้นเราก็เตรียมการทำการ์ดสำหรับขอบคุณอาจารย์สารสิน ที่ได้ช่วยเหลือในกิจการต่างๆ ในเมืองจีน การ์ดของอาจารย์สารสินก็มีมังกรแต่เขียนไปเขียนมามังกรมี 3 เล็บเท่านั้น กว่าจะเสร็จทั้งขบวนการก็ถึงตีสามพอดี