<< Back
" หวงเหออู่อารยธรรม วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2543 "
(น.220)
รูป 163 ท่านเจียงเจ๋อหมินร้องเพลง
A song by President Jiang Zemin.
รูป 164 ท่านเจียงเล่นเปียโน
President Jiang playing piano.
รูป 165 ท่านประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินรำวงลอยกระทงกับคุณทรรศนีย์
Loy Kratong dance by President Jiang and Mrs. Tasanee.
(น.221)
รูป 166 เล่นเพลงรำวง
Playing Loy Kratong song.
(น.221) จากนั้นไปรับประทานอาหารกลางวัน ระหว่างอาหารได้คุยกันต่อ แต่แรกประธานาธิบดีให้เด็กที่เสิร์ฟโต๊ะร้องเพลง ทีหลังท่านก็ร้องเสียเองและเล่นเปียโนด้วย ท่านให้ฉันเล่นเปียโน ฉันเล่นไม่เป็น แต่ท่านให้เล่น ก็เลยเล่นเพลง รำวงลอยกระทง และ งามแสงเดือน ท่านประธานาธิบดีก็เลยลุกขึ้นรำวง
(น.222) กลับไปที่เตี้ยวอวี๋ไถ แล้วไปสถานทูตเพื่อพบกับคณะราชการและคนไทยในปักกิ่ง มีนักเรียนและนักธุรกิจจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้คุยกันมากเหมือนคราวก่อน
เพราะมีจำนวนมากด้วย กลับเตี้ยวอวี๋ไถอีกครั้ง รับประทานอาหารค่ำ แล้วไปสนามบิน โดยสารเครื่องบิน China Eastern Airlines MU 7102 เดินทางไปนครไท่หยวน มณฑลซานซี ในเครื่องบินคุยกับมาดามฉงจวินอีก พักที่โรงแรมอิ๋งเจ๋อ
คุณเสริมเล่าว่า ในรถคนขับรถจีนเปิดวิทยุ ก็เลยได้ฟังเสียงฉันตอนกล่าวสุนทรพจน์ มาถึงที่นี่มีอธิการบดีมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียส่ง email มาแสดงความยินดี การข่าวเร็วมาก
ดูบทกวีที่ท่านประธานาธิบดีให้มาสองบท บทแรกเป็นของฟั่นจังเยียนชื่อ ซูมู่เจอ กวีมีความรู้สึกเศร้าสร้อย ทิวทัศน์ฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เขารู้สึกคิดถึงบ้านจนน้ำตาไหลขณะที่ดื่มสุรา
ฉันจะยังไม่แปล แต่จะตีความตามความเข้าใจของตัวเอง ดังนี้
ท้องฟ้าสีน้ำเงินมีเมฆ
แผ่นดินปกคลุมด้วยใบไม้เหลือง
คลื่นแห่งสีของชิวเทียน หมอกหนาวเย็นเป็นสีเขียว
อาทิตย์สาดแสงยามค่ำเหนือภูเขา ท้องฟ้าเชื่อมต่อน้ำ
หญ้าหอมผู้ไร้ความรู้สึก (คนรัก?) ทอดเลยทิวทัศน์ยามอาทิตย์อัสดง
มีเพียงในฝันดียามราตรีเท่านั้นที่ฉันไม่รู้สึกความคิดถึงบ้านที่ติดตามฉันตลอดการเดินทาง
ยามจันทร์กระจ่างอย่าอยู่คนเดียวบนตึกสูง (คงไม่ใช่บนคอนโด แต่เขาอาจจะหมายถึงอยู่ไกลบ้านและคนรัก ธรรมดาก็ทุกข์อยู่แล้ว มองดวงจันทร์ยิ่งจะทำให้ทุกข์ยิ่งขึ้น)
ดื่มสุรา ในห้อง กลับกลายเป็นน้ำตา (เวลาเศร้า ฝรั่งเจ็บปวดหัวใจ แต่ของจีนเขาเจ็บลำไส้ หรือจะเป็นความหมายเดียวกับที่เราพูดว่า อกไหม้ไส้ขม เจ็บท้องข้องใจ พรั่นไส้)
(น.223) บทที่ 2 ชื่อว่า ฮ่วนซีซา เป็นของเยี่ยนซู (ค.ศ. 991-1055) สอบเข้ารับราชการได้ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น และได้เป็นอัครมหาเสนาบดีในสมัยจักรพรรดิซ่งเหรินจง
(ครองราชย์ ค.ศ. 1022-1063) บทกวีนี้เขียนให้นักร้องผู้เลอโฉมที่เขาเคยเขียนบทกวีให้ก่อนหน้านี้ปีหนึ่ง บทนี้ฉันเคยแปลแล้วและลงพิมพ์ในหนังสือ หยกใสร่ายค
ไม่ทราบว่าทำไมท่านประธานาธิบดีจึงเลือกบทกวีที่กล่าวถึงความทุกข์เพราะการพลัดพรากทั้งสองบท