Please wait...

<< Back

" เจียงหนานแสนงาม วันพุธที่ 7 เมษายน 2542 "


(น. 165) รูป 129 มอบกระดาษที่ตัดเสร็จแล้วให้ข้าพเจ้าเป็นที่ระลึก
The completed work was given as a souvenir.

(น. 165) ชั้นล่างสุดมีของวางขายอีก และแสดงวิธีการทำงานศิลปะต่างๆ แต่แรกคิดว่าเขาจะพาดูว่าเครื่องรักประดับมุกของโรงงานทำอย่างไร แต่ก็ไม่ได้แสดง แสดงแต่การปักผ้า การปั้นแป้ง การตัดกระดาษ การแกะสลักงาเล็กๆ ผลงานชิ้นเยี่ยมของศิลปินคนนี้คือ แผ่นงาสลักเรื่องสามก๊ก อักษร 500,000 ตัว ต้องใช้แว่นขยายอ่าน ใช้เวลา 5 ปีกว่า นอกจากนั้น มีดอกไม้ประดิษฐ์จากกระดาษต้นทังเช่า ดูเสร็จแล้วกลับบ้านพัก


(น. 166) รูป 130 นายกเทศมนตรีเลี้ยงอาหาร
Dinner hosted by the Mayor of Yangzhou.

(น. 166) ตอนค่ำมีการเลี้ยงอาหารในอาคารนั้นเอง มีนายกเทศมนตรีเมืองหยังโจว ซู่เสอซุนเป็นเจ้าภาพ ตอนแรกก็เป็นพิธีการอย่างที่เคยคือ เจ้าภาพกล่าวต้อนรับ เล่าเรื่องว่าหยังโจวเป็นนครอยู่ภาคกลางของเจียงซู มีเนื้อที่ 6,600 ตารางกิโลเมตร ประชาชน 4,500,000 คน ตั้งอยู่บริเวณที่คลองใหญ่จากปักกิ่งมาบรรจบกับแม่น้ำแยงซี มีประวัติเก่าแก่มากว่า 2,480 ปี ในสมัยราชวงศ์ถังหยังโจวเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากฉังอาน เมืองนี้ยังคงรักษาลักษณะดั้งเดิมเอาไว้ได้ เน้นนโยบายอนุรักษ์ด้านผังเมืองและสิ่งแวดล้อม มีโบราณสถานมากมาย

(น. 167) นายกเทศมนตรีภูมิใจที่ได้เห็นบ้านเมืองมีวัฒนธรรมที่เจริญสมัยโบราณมีสำนักจิตรกรสำคัญเรียกว่า แปดประหลาดแห่งเมืองหยังโจว เป็นสำนักที่วาดภาพมีลักษณะพิเศษจนทุกวันนี้ การศึกษาของเมืองหยังโจวก็ก้าวหน้า มีโรงเรียน มหาวิทยาลัย 13 แห่ง โรงเรียนมัธยมตั้งเมื่อ ค.ศ. 1902 นักเรียนที่จบไปปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาวิทยาศาสตร์แห่งจีนถึง 32 ท่าน เคยถามนักธุรกิจว่าประทับใจอะไรในเมืองหยังโจว นักธุรกิจตอบว่าคุณภาพของแรงงาน แรงงานที่นี่มีการศึกษาสูง เรียนรู้ได้เร็ว ทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของมณฑล GDP เมื่อปีที่แล้ว 48,000 ล้านหยวน มีอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ต่อเรือ เครื่องจักร เครื่องเคมี หวังว่าที่ข้าพเจ้ามานี้จะดึงดูดใจนักท่องเที่ยวไทยให้มามากขึ้น ข้าพเจ้าถามถึงแปดประหลาด นายกเทศมนตรีว่าจะต้องให้รองนายกเทศมนตรีเป็นคนเล่า เพราะเขาจบปริญญาเอกทางประวัติศาสตร์และเป็นคนหยังโจว ส่วนนายกเทศมนตรีเป็นคนมณฑลกวางตุ้ง (เมืองจงซาน) รองนายกเทศมนตรีเล่าว่า ในสมัยราชวงศ์ชิง มีจิตรกร 8 คนที่มีชื่อเสียง ที่จริงทั้งกลุ่มไม่ได้มีเฉพาะ 8 คน มีหลายคน แต่มีชื่อเสียงมากแค่ 8 คน ถือเป็นตัวแทนของสำนัก ภาพวาดของพวกเขามีลักษณะพิเศษกว่าที่วาดกันมาก่อน คนจึงว่าประหลาดและมีอิทธิพลถึงภาพวาดของจีนในสมัยต่อมา นอกจากนั้นท่านได้กล่าวเสริมต่อไปว่า โอวหยังซิวและซูตงปัว กวีเอกสมัยราชวงศ์ซ่งล้วนเคยเป็นนายกเทศมนตรีที่นี่


(น. 168) รูป 131 นายาเทศมนตรีให้หนังสือวรรณคดี 4 เรื่อง
The Mayor gave me four books on Chinese literature as gifts.

(น. 168) ท่านนายกเทศมนตรีให้ของขวัญเป็นหนังสือนวนิยาย พิมพ์โดยใช้เทคนิคการพิมพ์ด้วยแม่พิมพ์ไม้อย่างโบราณ มี 4 เรื่องคือ ซ้องกั๋ง สามก๊ก ไซอิ๋ว และหงโหลวเมิ่ง (ความฝันในหอแดง) ตอนรับประทานอาหาร นายกเทศมนตรีเล่าว่าท่านเคยเป็นนายกเทศมนตรีอยู่ที่จูไห่ ตอนนี้ครอบครัวยังไม่ได้ย้ายตามมา ที่มาทางนี้เพราะมีการแลกเจ้าหน้าที่กันระหว่างมณฑล เพื่อให้มีประสบการณ์ เพิ่งมาได้ 3 เดือน แต่คิดว่าจะอยู่จนเกษียณ ใครๆ เขาต้องมาเมืองหยังโจวในเดือนสาม กลางหมอก ดอกไม้ แต่ท่านนายกเทศมนตรีมาหน้าหนาว ยังไม่ได้เห็นหมอกในท่ามกลางดอกไม้งามสักที ตอนนี้ก็ยังเร็วไป จะให้ดีต้องประมาณอาทิตย์หน้า เมืองหยังโจวเป็นเมืองของกวีและบทกวี มีบทกวีที่กล่าวถึงหยังโจวรวมเล่มเป็นพิเศษ จะหามาให้ข้าพเจ้า

(น. 169) อาหารที่นี่ที่มีชื่อเสียงคือ ข้าวผัดหยังโจว คนจีนและคนต่างชาติรู้จักข้าวผัดหยังโจวมากกว่าเมืองหยังโจวเสียอีก เมืองอื่นก็ทำข้าวผัดหยังโจว ถ้าเป็นที่กวางตุ้งมักนิยมใช้ข้าวไทยทำ แต่ที่นี่มีข้าวของตัวเอง นอกนั้นอาหารที่รับประทานคืนนี้มี ตุ๋นสี่สหาย คือ ตะพาบ เป๋าฮื้อ ไก่ดำ ไข่นกพิราบ มีถั่วปากอ้าบดต้มโรยหมูหยอง ปลากุ้ยอวี๋ทำเป็นรูปดอกเบญจมาศ ที่อำเภอเป่าหลินซึ่งขึ้นกับหยังโจว มีชื่อเสียงในเรื่องรากบัว ทำนารากบัวพื้นที่ถึงแสนโหม่ว พวกที่ทำนารากบัวจะไม่มีเม็ดบัว ถ้าจะเอาเม็ดบัวต้องไปแถวๆ มณฑลซานตง พวกเมืองหยังโจวบ่นมากว่าข้าพเจ้ามาพักที่หยังโจวน้อยเกินไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง คราวหน้าขอให้มาอย่างน้อย 3 วัน จะเล่านิทานให้ฟังสามวันสามคืนไม่นอนเลย รับประทานอาหารเสร็จแล้ว เดินไปอีกอาคารหนึ่งเพื่อดูการแสดง ในห้องการแสดงมีเวที ข้างๆ เวทีมีวงดนตรีประกอบด้วยเจิง ขิม ขลุ่ย ซอ พิณ และมีกีตาร์ไฟฟ้ากับออร์แกนด้วย ผู้ประกาศยังเป็นผู้หญิงพูดเสียงสูง แต่ไม่สูงเท่าสมัยก่อน
การแสดงเป็นชุดสั้นๆ ดังนี้
1.ร้องงิ้วเรื่องผู้หญิงแต่งตัว แต่งหน้า ร้องผลัดกัน 3 คน และมีหางเครื่องด้วย

(น. 170)
2. เชิดหุ่นหยังโจว เป็นหุ่นรำพัด ตัวใหญ่ประมาณเท่าหุ่นอาจารย์สาคร เชิดคนเดียว หุ่นนี้หันหน้าได้ กะพริบตาได้ คนเชิดทำท่าทางเหมือนหุ่นรำตามไปด้วย
3. ระบำหาบรากบัว มีคนรำเป็นคนหาบคนหนึ่ง เป็นรากบัว 2 คน
4. เดี่ยวเจิง เพลงสู้ไต้ฝุ่น
5. ระบำเล่นลูกบอล เป็นระบำแขกซึ่งดูเป็นจีน เขาว่าคนที่แสดงได้รางวัลการแสดง

(น. 170) รูป 132 หลังอาหารมีการแสดง
There were cultural performances after dinner.

(น. 171)
6. ผู้หญิงร้องเพลงเดี่ยวชื่อเพลง ฟังเสียงฝน เขาว่าเป็นเพลงพื้นเมืองของหยังโจว คำร้องมาจากบทกวีสมัยราชวงศ์ซ่ง ฟัง เสียงเหมือนเพลงในหนังจีน ซุป (ศุภรัตน์) อธิบายว่าเพลงในภาพยนตร์และเพลงจีนยอดนิยมหลายเพลงนำแนวทำนองจากแถบมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง ถือว่าแถวนี้เป็นแหล่งอารยธรรมจีนโบราณ คนแถวฮกเกี้ยน ไต้หวันก็ดี คนกวางตุ้งหรือฮ่องกงก็ดี มีความชื่นชมในวัฒนธรรมนี้ จึงศึกษาเลียนแบบ
7. เชิดหุ่น ฉางเอ๋อสะบัดชายเสื้อ คนเชิดหุ่นคนนี้มีชื่อเสียง เคยไปแสดงที่สหรัฐอเมริกามาแล้ว หน้าตาฉางเอ๋อก็เขียนได้สวยมาก ที่เขาชมกันว่าหน้าตาสวยเหมือนหน้าหุ่น คงเป็นหุ่นพวกนี้
8. ระบำเผ่าทิเบต แต่ท่าทางเหมือนเต้นบัลเล่ต์ ชื่อระบำว่า Jolmo Lungma คำนี้ภาษาจีนใช้ว่า จูมู่หลังหม่าเฟิง เป็นชื่อที่ใช้เรียกยอดเขาเอเวอเรสต์ในเทือกเขาหิมาลัย


(น. 171) รูป 132 หลังอาหารมีการแสดง
There were cultural performances after dinner.