Please wait...

<< Back

เกล็ดหิมะในสายหมอก เล่ม 2 เหลียวหนิง วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2537


รูป 206 ปิงถุงหูหลู – พุทราเชื่อมน้ำตาลเสียบไม้ ขนมที่มีขายแต่ครั้งโบราณ (เห็นในรูปเขียนจีนเก่าๆ)


(น.159) รูป 204 ในทะเลสาบกลายเป็นน้ำแข็งหนา คนเล่นเลื่อนกันอย่างสนุกสนาน

(น.159) ลงไปที่ทะเลสาบ แต่เจ้าหน้าที่เขาไม่ให้เล่นเลื่อนไม้ ไม่เล่นก็ไม่เล่น กลับบ้านรับประทานอาหารตั้งแต่ห้าโมงครึ่ง รับประทานอาหารเสร็จพี่หวานเอาสมุดเซ็นเยี่ยมของบ้านมาให้เซ็น มีลายเซ็นท่านคำไต นายกรัฐมนตรีของลาวเขียนไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นภาษาลาวและมีคนแปลเป็นจีน


(น.160) รูป 207 ออกกำลังยามค่ำ


รูป 208 ออกกำลังยามค่ำ

(น.160) อาจารย์สารสินเอาเทปเพลงคู่กัดมาสอนเต้นแอโรบิกแบบที่เคยเต้นเมื่อกระทรวงฯจัดงานปีใหม่แล้วได้รางวัล เต้นไปดูโพยไป เพราะเต้นไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน ทำให้ข้าพเจ้าเสียอารมณ์ไม่เห็นสนุก เลยชวนกันหลาย ๆคนออกกำลังกายแบบหมอวิไลแนะนำ จะมีประโยชน์กว่า


(น.161) รูป 209 ออกกำลังยามค่ำ

(น.161) วันนี้เป็นวันสุดท้ายในเมืองเสิ่นหยาง มีเรื่องจะเล่าได้อีกมาก แต่เรื่องที่จะเล่าคือ เมื่อปี ค.ศ. 1931 เดือนกันยายน วันที่ 18 ญี่ปุ่นเข้ามายึดครอง เราผ่านอนุสรณ์สถานที่เรียกว่า ฉานลี่ก่วน เป็นอาคารรูปปฏิทินที่เรียกว่า ไถลี่ มีปี เดือน วันเกิดเหตุเขียนไว้ ญี่ปุ่นระเบิดทางรถไฟหนานหม่านซึ่งแต่เดิมเป็นของรัสเซีย แล้วต่อมาญี่ปุ่นควบคุม ญี่ปุ่นจึงใช้เป็นข้ออ้างในการเข้าควบคุมยึดครองเสิ่นหยาง เมื่อญี่ปุ่นแพ้แล้วมีเด็กกำพร้าญี่ปุ่นตกค้างอยู่มากมาย รัฐบาลก็ส่งให้บ้านผู้มีจิตเมตตาเอาไปเลี้ยง กลายเป็นคนจีน


(น.162) รูป 210 ออกกำลังยามค่ำ

(น.162) อีกเรื่องคือนิยายคนรถของพี่หวาน อันที่จริงแล้วเวลาไปไหนๆบ่อยครั้งข้าพเจ้าได้คนรถเป็นไกด์ เป็นครูสอนภาษา ฯลฯ คราวนี้รถอาจารย์สารสินนั่งกันสองคนกับหมอเอกชัย เลยชวนพี่หวานไปนั่งด้วยอีกคน แต่แรกคนรถก็เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ บอกว่าไกด์จริงๆเขาไม่เล่าอย่างนี้หรอก มีเรื่องพิเศษๆอาจารย์สารสินอ่านบทความในหนังสือที่แจกในเครื่องบินเกี่ยวกับคนรถกับ VIP ว่าคนรถจะมีความสำคัญมาก ตอนหลังพี่หวานซักหนักๆอาจารย์สารสินหลับๆตื่นๆหมอเอกชัยหลับ คนรถชักแย่ หันมาเรียก


(น.163) รูป 211 ออกกำลังยามค่ำ


(น.164) รูป 212 ออกกำลังยามค่ำ

(น.164) อู๋เซียนเซิง (อาจารย์สารสิน) ให้ช่วย (เป็นกำลังใจ) คนรถเล่าเรื่องถนนในเมืองที่เราเห็นได้ก็ดูมีผังเป็นระเบียบดี คนรถเล่าว่าถนนเมืองนี้ถ้าลงท้ายด้วยเจียจะแบ่งเป็นแนวเหนือ-ใต้ ถ้าลงท้ายว่าลู่จะอยู่ทิศตะวันออก-ตะวันตก เรื่องที่เล่าว่าแต่ก่อนแม่น้ำสำคัญของเมืองที่เรียกว่า หุนเหอ เดิมชื่อ เซียเหอ แต่ที่เปลี่ยนชื่อมีประวัติว่า กษัตริย์แมนจูสององค์แรกต่อสู้กับพวกหมิง สูญเสียไพร่พลมาก จึงทำอุบายเผาหญ้าผสมขี้ม้าเทลงน้ำ ให้น้ำขุ่น สกปรก ข้าศึกจึงคิดว่ามีคนมากจึงไม่ติดตาม จึงเปลี่ยนชื่อเป็นหุนเหอ แปลว่า น้ำขุ่น แม่น้ำสายนี้อยู่หน้าตงหลิง