Please wait...

<< Back

จดหมายใบไม้

จากหนังสือ

ใต้เมฆที่เมฆใต้ หน้า 8,9

(น.8) รูป 7 เรือของเผ่าไต่
(น.8) ภาพพิธีสงกรานต์ของชนชาติไต่ (ไท) มีการสาดน้ำและแข่งเรือในแม่น้ำล้านช้างหรือแม่น้ำโขง มีกระเป๋าใบเล็กๆ เป็นผ้าปักที่พวกผู้หญิงชาวไต่มักทำให้ชายคนรัก สมัยก่อนมักใส่เครื่องหอม ปัจจุบันกลายเป็นของสำหรับขายนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ธรรมเนียมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของเผ่าจิ่งพอซึ่งไม่มีภาษาเขียนคือ การใช้ใบไม้เป็นสัญลักษณ์สื่อความหมายต่างๆ เรียกว่า จดหมายใบไม้ มีหลายอย่างที่เขาอธิบายให้ฟัง แต่ข้าพเจ้าจดไม่ทัน จะขอยกตัวอย่างเฉพาะที่จดได้ รากไม้ชนิดหนึ่ง แปลว่า ฉันรักเธออย่างลึกซึ้ง หญ้าคา แปลว่า คิดถึง ราชาวดีป่า (Buddleja) แปลว่า ชวนคุณมา

(น.9) รูป 8 ตู้แสดงของ

(น.9) ปอหมัน (Cordia) แปลว่า แน่นอน เฉียงพร้านางแอ (Carallia) แปลว่า เห็นด้วยไหม รูปและเรื่องพิธีแต่งงานของเผ่าต่างๆ สิ่งของที่ใช้ในงานแต่งงาน เช่น เครื่องเงิน เทศกาลของเผ่าต่างๆ เช่น เผ่าอี๋ เผ่าไป๋ (มีหั่วป่า หรือบั้งไฟ คล้ายๆ ไต้ ข้าพเจ้าเคยเห็นมีทางภาคเหนือของไทย) เผ่าเย้า เผ่าตู๋หลง

ใต้เมฆที่เมฆใต้ หน้า 182,183,184

(น.182) รูป 194 หนังสือโบราณ

(น.182) จดหมายพฤกษศาสตร์ของชาวจิ่งพอ เหมือนกับที่พิพิธภัณฑ์ยูนนาน แต่อธิบายละเอียดกว่า
1. ใบซีจ๋วย (เฟิร์น) = แต่ก่อนบิดามารดาขัดขวาง เดี๋ยวนี้เห็นด้วยแล้ว
2. ใบไมยราบ = ไม่ต้องอาย
3. ใบเหยียนซวน (กำลังเสือโคร่ง) = อย่ายั่วโมโห
4. ใบขนุน = พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกินข้าวด้วยกันแล้ว
5. ใบชา = สองฝ่ายต้องดูแลกัน
6. ใบยาสูบ, หมาก, เหรียญเงิน, เส้นไม้ไผ่ = เริ่มมีความรู้สึกดี

(น.183) รูป 195 พืชต่างๆ ที่มีความหมาย

(น.183)
7. รากไม้ = คิดถึง
8. พริก = รักร้อนแรง
9. กระดุม = มีบุคคลที่สามเข้าแทรกแซง
10. ใบมะขามป้อม = แค้นมากอยากจับมาสับเป็นท่อนๆ เหมือนบะช่อ
11. มะกล่ำตาช้าง = รักเธอไม่พลัดพรากจากกัน
12. ใบไม้สีแดง = แต่งงานได้, ใบไม้สีขาว = แต่งงานไม่ได้
13. ใบหญ้าไม้กวาด = ฉันรอเธอด้วยความอดทน
14. สนเขา = จะมีโอกาสเจอกันบ่อยๆ
15. ใบไผ่ = หวังว่าเธอจะอยู่ข้างฉันเรื่อยไป

(น.184) นอกจากนั้นยังมีการผสมกันระหว่างของต่างๆ กลายเป็นความหมายใหม่ เช่น พ่อแม่ไม่ให้แต่งงาน อีกสามวันจะหนีตาม ที่เราแอบอยู่ด้วยกันนี้ปิดความลับไม่อยู่แล้ว
จดหมายทิเบตทำด้วยไม้ไผ่มีเครื่องหมายใช้ธนูยิงบอกกันเวลาคับขัน
นอกจากนั้นมีหนังสือต่างๆ อีกหลายเล่ม
เครื่องดนตรีมีเครื่องเป่า ขลุ่ยต่างๆ ฉาบ กลองยาว กลองมโหระทึก
เผลอดูเพลินไปหน่อย เลยเวลาไปแล้วต้องรีบกลับ มาดามเฉินบอกว่าแถวนี้เป็นเขตการศึกษา นอกจากสถานศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่รับนักเรียนชั้นมัธยมปลาย สอบเข้าตามปกติแล้ว ยังมีที่รับคนที่ทำงานอยู่แล้วมาเรียน พวกครูที่สอนนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร สอนนักเรียนมัธยมปลายที่สอบได้คะแนนไม่พอที่จะเข้ามหาวิทยาลัยให้เรียนซ้ำ
กลับมานัดวิศวกรมาเล่าเรื่องไฟฟ้าพลังน้ำ ในแม่น้ำล้านช้าง (แม่น้ำโขง) ไปโรงแรมคิงเวิลด์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานกงสุล พบกับคนไทยคือข้าราชการจากสถานทูตปักกิ่ง ข้าราชการและครอบครัวสถานกงสุลที่คุนหมิง คนไทยในเขตการดูแลของสถานกงสุล (ยูนนาน เสฉวน หูหนาน แต่หูหนานไม่มีคนไทย) มีพวกนักเรียน 7 คนที่เรียนอยู่ที่สถาบันชนชาติมณฑลยูนนาน เจ้าหน้าที่ของธนาคาร และบริษัทต่างๆ ที่มาลงทุนในยูนนานและเสฉวน จากนั้นรับประทานอาหารค่ำ ขอให้เขาลองสั่งสุนัขมา คราวนี้เป็นสุนัขน้ำแดง (คราวก่อนเป็นพะโล้) ได้คุยกันเรื่องโอกาสการลงทุนในจีน


จัดหมวดหมู่สารสนเทศ

จดหมายใบไม้

ธรรมเนียมที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของเผ่าจิ่งพอซึ่งไม่มีภาษาเขียนคือ การใช้ใบไม้เป็นสัญลักษณ์สื่อความหมายต่างๆ เรียกว่า จดหมายใบไม้

ข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์มณฑลยูนนาน

ข้าพเจ้าจดไม่ทัน จะขอยกตัวอย่างเฉพาะที่จดได้
รากไม้ชนิดหนึ่ง แปลว่า ฉันรักเธออย่างลึกซึ้ง
หญ้าคา แปลว่า คิดถึง
ราชาวดีป่า (Buddleja) แปลว่า ชวนคุณมา
ปอหมัน (Cordia) แปลว่า แน่นอน
เฉียงพร้านางแอ (Carallia) แปลว่า เห็นด้วยไหม[1]
ข้อมูลจากพิพิธภัณฑ์สถาบันชนชาติมณฑลยูนนาน


1.ใบซีจ๋วย (เฟิร์น) = แต่ก่อนบิดามารดาขัดขวาง เดี๋ยวนี้เห็นด้วยแล้ว
2. ใบไมยราบ = ไม่ต้องอาย
3. ใบเหยียนซวน (กำลังเสือโคร่ง) = อย่ายั่วโมโห
4. ใบขนุน = พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายกินข้าวด้วยกันแล้ว
5. ใบชา = สองฝ่ายต้องดูแลกัน
6. ใบยาสูบ, หมาก, เหรียญเงิน, เส้นไม้ไผ่ = เริ่มมีความรู้สึกดี

(น.183) รูป 195 พืชต่างๆ ที่มีความหมาย
7. รากไม้ = คิดถึง
8. พริก = รักร้อนแรง
9. กระดุม = มีบุคคลที่สามเข้าแทรกแซง
10. ใบมะขามป้อม = แค้นมากอยากจับมาสับเป็นท่อนๆ เหมือนบะช่อ
11. มะกล่ำตาช้าง = รักเธอไม่พลัดพรากจากกัน
12. ใบไม้สีแดง = แต่งงานได้, ใบไม้สีขาว = แต่งงานไม่ได้
13. ใบหญ้าไม้กวาด = ฉันรอเธอด้วยความอดทน
14. สนเขา = จะมีโอกาสเจอกันบ่อยๆ
15. ใบไผ่ = หวังว่าเธอจะอยู่ข้างฉันเรื่อยไป นอกจากนั้นยังมีการผสมกันระหว่างของต่างๆ กลายเป็นความหมายใหม่ เช่น พ่อแม่ไม่ให้แต่งงาน อีกสามวันจะหนีตาม ที่เราแอบอยู่ด้วยกันนี้ปิดความลับไม่อยู่แล้ว [2]


อ้างอิง

1. ใต้เมฆที่เมฆใต้ หน้า 8-9
2. ใต้เมฆที่เมฆใต้ หน้า 182-184