<< Back
มหาวิทยาลัยหนานไค่
จากหนังสือ
"ไอรัก" คืออะไร?
"ไอรัก" คืออะไร? หน้า 34-39
(น.34) รูป 31 ถ่ายภาพหมู่หน้ามหาวิทยาลัยหนานไค่ เห็นรูปปั้นท่านโจวเอินไหลอยู่ด้านหลัง
(น.34) เราต่อไปที่มหาวิทยาลัยหนานไค่ อาจารย์หลายท่านมาต้อนรับถ่ายรูปหมู่กันที่หน้ารูปปั้นท่านโจวเอินไหล ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้
(น.35) รูป 32 หนังสืออ้างอิงพงศาวดารจีน
(น.35) ไปอาคารหอสมุดของมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่มาใช้ห้องสมุดส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป แต่ว่านักศึกษาระดับปริญญาตรีก็ได้รับอนุญาตใช้มาใช้ เราไม่มีเวลามากก็เลยเข้าไปดูเฉพาะห้องหนังสืออ้างอิง ซึ่งมีหนังสือประมาณหมื่นกว่าเล่มทั้งภาษาจีนและภาษาต่างประเทศวางไว้ที่ชั้นให้ผู้ใช้หยิบได้เอง รายการหนังสือบันทึกในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เท่าที่เดินดูเห็นมีพจนานุกรมภาษาต่างๆ ภาษาไทยก็มีสารานุกรมชนิดต่างๆ หลายสาขาวิชา หลายภาษา เอกสารอ้างอิงเป็นชุด เช่น จดหมายเหตุพระราชกิจรายวันในสมัยราชวงศ์หมิงและชิงที่ตีพิมพ์แล้ว คุณเจ้าซิ่งหรงถามว่าแบบนี้ไทยมีหรือไม่ ข้าพเจ้าว่ามีแต่ยังพิมพ์ไม่หมด และในตอนต้นๆ บางทีก็หาไม่พบ
(น.36) รูป 33 นิทรรศการวิทยาศาสตร์
(น.36) รูป 34 หน้าหอสมุด
(น.37) มีคนนั่งอยู่ในห้องหลายคน แต่ข้าพเจ้าไม่กล้าเข้าไปรบกวนเขา
จากนั้นไปที่ห้องแสดงนิทรรศการผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ข้าพเจ้าไม่ค่อยเข้าใจเพราะเขาอธิบายเป็นภาษาจีน ล่ามเองก็แปลไม่ออก ไม่มีเวลาซักถาม
ไปที่ห้องแสดงละคร จุคนได้เกือบ 300 คน มีระบบเสียงดี ห้องนิทรรศการมีภาพลอกมาจากภาพดั้งเดิมที่เก็บรักษาไว้ในพระราชวังโบราณที่ปักกิ่ง ข้าพเจ้าได้รับภาพวาดกวีหลี่ชิงเจ้า กวีสตรีมีชื่อสมัยซ้องใต้ ฝีมือของอาจารย์ท่านหนึ่งในภาควิชาศิลปะ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเรียนบทกวีของกวีผู้นี้หลายบทด้วยกัน มีผู้นำประวัติของท่านมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ข้าพเจ้าไม่ได้มีโอกาสดู ทราบแต่เรื่องคร่าวๆ ว่าท่านเกิดในตระกูลนักปราชญ์ ใน ค.ศ. 1084 ที่เมืองจีหนานแต่งงานกับเจ้าหมิงเฉิง บุตรอัครมหาเสนาบดี ได้ร่วมกันทำงานวิชาการที่สำคัญหลายอย่าง เช่น การคัดลอกศิลาจารึก ศึกษาหลักฐานประวัติศาสตร์ ใน ค.ศ. 1127 ชนเผ่าจินรุกรานมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชาวจีนราชวงศ์ซ้องต้องหนีลงใต้ เป็นช่วงที่ชีวิตเขาลำบากมาก หลี่ชิงเจ้าเสียชีวิตในปี 1151 มีผลงานบทกวีนิพนธ์อยู่มาก บทกวีในตอนต้นๆ แสดงชีวิตอิสระที่สบาย งานในช่วงหลังจะเกี่ยวกับความเหงาและแสดงความชาตินิยมรุนแรง
(น.38) รูป 35 โรงละครของมหาวิทยาลัย
(น.39) รูป 36 หอศิลป์ของมหาวิทยาลัย
(น.39) แค่นี้ก็หมดเวลาดูมหาวิทยาลัย ดูในเอกสารแนะนำมหาวิทยาลัย เห็นได้ว่ามีสาขาวิชามากมายทั้งปริญญาตรี โท เอก มีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศ มีอาจารย์จากต่างประเทศมาสอน มีการจัดประชุมนานาชาติหลายครั้ง
ตอนกลางวันเราไปรับประทานอาหารกลางวันที่อำเภอเป่าตี้ นายอำเภอมารับประทานข้าวด้วย เล่าให้เราฟังว่าอำเภอนี้แต่ก่อนมาเป็นเขตที่ยากจนมาก มีขอทาน คนตัดผมเร่ร่อน และผู้ชายที่หาคู่ไม่ได้ ขณะนี้เศรษฐกิจดีขึ้นมาก ผลิตข้าวได้มาก มีโรงงานผลิตเต็นท์ใหญ่ที่สุด โรงงานผลิตไวน์รวมทุนกับฝรั่งเศส แก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเขาเล่าว่าที่นี่สุนัขก็เป็นอาหารที่นิยมกันมาก