Please wait...

<< Back

พิพิธภัณฑ์เหมยหยวนซินชุน

จากหนังสือ

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 97-102

(น. 97) วันอังคารที่ 6 เมษายน 2542

เช้าขึ้นเปิดโทรทัศน์ดู มีแต่เรื่อง NATO ทิ้งระเบิดเมืองเบลเกรด ปัญหาในโคโซโวนั้นในช่วงนี้อยู่ที่เรื่องผู้ลี้ภัยเป็นเรื่องใหญ่ เช้าขึ้นไปพิพิธภัณฑ์เหมยหยวนซินชุน เป็นหมู่บ้านที่พรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งมีท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลเป็นหัวหน้า มาพักอาศัยอยู่และพยายามเจรจาหย่าศึกกับพวกก๊กมินตั๋งระหว่างเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1946 – มีนาคม ค.ศ. 1947 ด้านหน้าของหมู่บ้านปัจจุบันทำเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ เมื่อไปถึงลานข้างหน้าพิพิธภัณฑ์ มีรูปหล่อท่านโจวเอินไหล ตอนเดินจากบ้านเลขที่ 30 อันเป็นบ้านพัก ทางเดินปูหินแกรนิตสีแดงเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นถนนแห่งการปฏิวัติต่อสู้ของปวงชน


(น. 97) รูป 75 รูปท่านโจวเอินไหล
Statue of Premier Zhou Enlai.


(น. 98) รูป 76 ภาพนักปฏิวัติที่มีชื่อเสียง
Stone carving of famous revolutionary leaders.


รูป 77 ภาพท่านประธานเหมาและเจียงไคเช็ก
Picture of President Mao and Jiang Jieshi.

(น. 99) ที่ห้องโถงแรก ในอาคารพิพิธภัณฑ์ มีภาพสลักนูนต่ำรูปผู้นำพรรคในสมัยปฏิวัติ มีท่านโจวเอินไหล เติ้งอิ่งเชา ต่งปี้อู่ และผู้นำพรรคคนอื่นๆ อีก 4 คน ทำเป็นรูปตัว S กลับข้าง แสดงว่าการปฏิวัติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่คดเคี้ยวยากลำบาก ข้างหลังมีภาพสีน้ำมันเป็นรูปหมู่บ้านและคำคมของท่านโจวเอินไหลว่า ฟันฝ่าต่อสู้จนถึงที่สุด สัประยุทธ์ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยและสันติภาพ จัดแสดงนิทรรศการเล่าประวัติศาสตร์ตามลำดับดังนี้
ห้องที่ 1 แสดงการเจรจาระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับพรรคก๊กมินตั๋งที่นครฉงชิ่ง เจียงไคเช็กกับเหมาเจ๋อตงถ่ายรูปร่วมกัน เจรจากัน 43 วัน แล้วแถลงสัญญาสันติภาพ มีงานเลี้ยงฉลองชนแก้วกันเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1945 แต่ว่าถึงวันที่ 11 กลับขัดแย้งกันอีก เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1946 ก๊กมินตั๋งย้ายเมืองหลวงมานครนานกิง ฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็มาด้วย (มีรูปอาคารที่ทำงานพรรคในสมัยนั้น และรูปผู้นำพรรค 5 คน)
ห้องที่ 2 มีรูปบ้านเลขที่ 30 ในตู้โชว์แสดงบัตรประจำตัวของสมาชิกพรรค มีรูปถ่ายติดไว้ด้วย นอกจากนั้นแสดงใบสำมะโนครัวของครอบครัวท่านโจวเอินไหล


(น. 99) รูป 78 บัตรประจำตัวสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์
Identity cards of members of the Communist Party.


(น. 100) รูป 79 ภาพโจวเอินไหลและผู้แทนสหรัฐอเมริกา
Zhou Enlai and the United States' representative.

(น. 100) ต่อจากการเจรจาที่ฉงชิ่ง พรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์เปิดการเจรจากันอีกที่นานกิง มีแผนที่แสดงว่าฝ่ายก๊กมินตั๋งเข้าแทรกแซงกองทัพแดงที่หลี่เซียนเนี่ยนเป็นผู้บัญชาการก๊กมินตั๋งส่งกองทัพมา 3 แสนคน และมาแบ่งกองทัพแดงเป็น 4 ส่วน เกิดรบกัน มีการกวาดล้างหมู่บ้านของคอมมิวนิสต์เป็นพันครั้ง มีรูปคณะผู้แทนพรรค ขณะเดินทางไปกองบัญชาการที่ซวนฮวาเตี้ยน ฝนตกหนัก ต้องเดินท่องแม่น้ำไป รูปหนังสือพิมพ์ลงข่าวเจรจาที่ซวนฮวาเตี้ยน
ห้องที่ 3 มีรูปของท่านโจวเอินไหลและผู้แทนของสหรัฐอเมริกาที่ซวนฮวาเตี้ยน รูปท่านโจวท่องน้ำที่ดูเมื่อสักครู่นี้เป็นฝีมือถ่ายภาพของผู้แทนสหรัฐอเมริกาท่านนี้ หนังสือพิมพ์ลงเรื่องการสงบศึกที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน แต่ล้มเหลวเพราะพรรคคอมมิวนิสต์รู้สึกว่าก๊กมินตั๋งมีข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผล ภาพแสดงเสื้อของท่านโจวเอินไหล


(น. 101) รูป 80 ภาพโจวเอินไหลและผู้แทนสหรัฐอเมริกา
Zhou Enlai and the United States' representative.

(น. 101) ภาพแสดงลุ่มแม่น้ำฉังเจียงกับแม่น้ำหวงเหอเมื่อต่อต้านญี่ปุ่น มีการระเบิดเขื่อน ผันน้ำลงแม่น้ำฉังเจียง พอสงครามสงบจะผันน้ำกลับไปอย่างเดิม ภาพโจวเอินไหลไปดูงานที่เมืองไคเฟิง เพื่อดูงานอุดเขื่อนที่พัง มีภาพตอนไปดูงาน การช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาถูกก๊กมินตั๋งเอาไปก่อน ต่งปี้อู่พยายามเจรจาให้แบ่งสิ่งของอย่างเป็นธรรม
ห้องที่ 4 เล่าถึงการไกล่เกลี่ยของนายพลมาร์แชลล์ (General George Marshall) และสจ๊วต เลตัน (Stuart Leighton) เจียงไคเช็กอ้างว่าไปพักร้อนที่ภูเขาหลูซาน แต่ที่จริงไปเจรจากับบุคคลทั้ง 2 อย่างลับๆ และไปวางแผนทำสงครามกลางเมือง การเจรจาไม่สำเร็จ มีหนังสือพิมพ์ลงว่า ทั้ง 2 คนกล่าวว่าการไกล่เกลี่ยล้มเหลว
ห้องที่ 5 การไกล่เกลี่ยของพรรคที่ 3 ไม่ทราบว่าเป็นพรรคอะไร แต่เขาอธิบายว่าเป็นพวกรณรงค์ประชาธิปไตย ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1946 พรรคที่ 3 พยายามให้ทั้ง 2 พรรคเจรจากันอีกครั้งที่นครเซี่ยงไฮ้
ห้องที่ 6 มีหุ่นจำลองสภาพหมู่บ้านเหมยหยวนในเวลานั้น แสดงให้เห็นถึงสภาพที่พวกคอมมิวนิสต์ถูกล้อมกรอบ มีสายลับอยู่รอบข้าง


(น. 102) รูป 81 บ้านเลขที่ 30 ซึ่งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์อาศัยอยู่
House No. 30 where Communist leaders used to live.

(น. 102) ภาพบ้านเลขที่ 31 เป็นบ้านที่พวกก๊กมินตั๋งใช้ดักฟัง เรียกช่วงเวลานี้ว่า ตาหมาเฝ้าดู พรรคคอมมิวนิสต์พยายามเปิดเพลงกลบเสียง เพื่อไม่ให้ดักฟังได้ พวกสายลัยปลอมตัวเป็นคนอาชีพต่างๆ เช่น คนลากรถ คนซ่อมรองเท้า ขอทาน คนขายหนังสือพิมพ์ คนลับมีด พอถึงกลางคืนพวกคอมมิวนิสต์จะไปไหนก็มีรถตามไป สถานการณ์เป็นอยู่อย่างนี้ 300 วัน หุ่นจำลองนี้มีการฉายหนังประกอบหุ่น มีภาพเคลื่อนไหวได้ด้วยแสงพิเศษคล้ายๆ hologram เป็นสามมิติ
ห้องที่ 7 เป็นเรื่องพรรคก๊กมินตั๋งปิดประตูเจรจา ค.ศ. 1946 พรรคก๊กมินตั๋งเรียกประชุมสมัชชาแห่งชาติโดยลำพังฝ่ายเดียว คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ตกลงเรียกโจวเอินไหล เติ้งอิ่งเชา และคนอื่นๆ กลับเหยียนอาน แสดงเสื้อของโจวเอินไหล