Please wait...

<< Back

" ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 2544 "


(น.62) รูป 53 เอานิ้วจิ้มเหล้าแล้วดีดไปข้างหลังในพิธีต้อนรับโดยสตรีทิเบตถิ่นอัมโด ถักเปียยาว 108 เส้น
Welcoming ceremony by dipping the liquor and sprinkling backwards. The ceremonial tray was presented by an Amdo Tibetan girl whose hair was braided into 108 braids.

(น.62) ไปถึงบริเวณทะเลสาบ มีคนต้อนรับ นายอำเภอพาไปที่อนุสาวรีย์หัตถ์พระพุทธเจ้า เปิดเพลงที่ดังคล้ายๆ เพลงลูกทุ่งของไทย มีพิธีต้อนรับคือ เจ้าภาพถือถาดใส่เกลือมา แขกที่มาเยือนจะต้องเอานิ้วนางกับนิ้วโป้งหยิบเกลือ ขว้างไปข้างหลัง 3 ครั้ง และมีถาดใส่ถ้วยเหล้า เป็นเหล้ากลั่นจากชิงเคอ ใส่เนยจามรี แขกต้องเอานิ้วจิ้มเหล้า (กรีดนิ้วนางกับนิ้วโป้งแบบเดิม) แล้วดีดไปข้างหลัง


(น.63) รูป 54 อนุสาวรีย์หัตถ์พระพุทธเจ้าถือวัชระ
Buddha's hand holding the Vajra.

(น.64) แล้วไปรับประทานอาหารกลางวัน รับประทานเสร็จแล้วไปดูที่ทะเลสาบ มีนักท่องเที่ยวไปกันแยะ มีป้ายลายมือปันฉานลามะ เขียนเป็นภาษาทิเบต เจ้าผู่ชู อดีตนายกพุทธสมาคมเขียนภาษาจีน ผู้บรรยายบอกว่า ทะเลสาบมีเนื้อที่ 4,583 ตารางกิโลเมตร สูง 3,195 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ลึก 32.8 เมตร ทะเลสาบตื้นเขินเล็กลงทุกปี ในน้ำมีปลาหลายอย่างที่มีชื่อคือ ปลาหวงหยู เป็นปลาตัวไม่โตนัก น้ำหนักเพิ่มเพียงปีละ 20 กรัม เพราะว่าน้ำในทะเลสาบเย็นมาก พวกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยพวกแพลงตอนเจริญเติบโตไม่ดี ปลาจึงมีอาหารไม่พอ ปริมาณเกลือในน้ำ 13% พูดกันว่ามีแม่น้ำไหลเข้ามาในทะเลสาบ 108 สาย ที่จริงมีแค่ประมาณ 60



(น.65) กว่าสาย และบางสายก็แห้งไป มีคนพูดว่ามีแม่น้ำ 108 สาย เพราะเลข 108 เป็นเลขมงคลทางพุทธศาสนา กลางทะเลสาบมีเกาะที่มีนกอาศัยอยู่ มีนกนางนวล น้ำในทะเลสาบเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว ประมาณเดือนมีนาคม-เมษายน เวลาอากาศเย็น น้ำเป็นน้ำแข็งในชั่วข้ามคืน ถ้าอุ่นขึ้นน้ำแข็งก็ละลายในชั่วข้ามคืนเหมือนกัน มีเกาะกลางน้ำที่มีสำนักชี สมัยก่อนไม่มีเรือยนต์ ข้ามไปถึงเกาะได้ยาก ต้องรอถึงหน้าหนาวจึงเอาของใส่รถ แพะลากไปถึงเกาะได้ มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ ทะเลสาบหดเล็กลง


(น.66) รูป 55 จามรีตัวที่เตรียมไว้ให้ขี่
Yak prepared for my riding.

(น.67) เรื่องทะเลสาบนี้เราพยายามอธิบาย (กันเอง) ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เล่ากันว่าเมื่อ Indian Plate กับ Asian Plate เคลื่อนที่ชนกัน ทำให้เกิดที่ราบสูงชิงไห่ทิเบต และเทือกเขาหิมาลัย ยกตัวขึ้นมาจากทะเล บริเวณทะเลสาบนี้คงจะยุบตัวลง หรือมีรอยเลื่อน น้ำแถวนั้นไหลผ่านพื้นที่ที่มีธาตุเกลือ น้ำจึงเค็ม ที่จริงแถวนั้นมีพิพิธภัณฑ์ทะเลสาบแต่เราไม่ได้ดู ดูทะเลสาบแล้ว เขาจัดให้ทดลองขี่จามรี ขี่อูฐง่ายกว่า เขาจัดแข่งม้าให้ดูด้วย แต่ว่าฝนตกก็เลยขึ้นรถไปโรงละคร มีการแสดงหลายฉาก
1. ระบำจิตใจผูกพันกับต้นกำเนิดแม่น้ำ
2. ขับร้องเพลงต้อนรับแขก เป็นเพลงพื้นเมืองทิเบต เป็นเพลงร้องเวลากินเหล้าก็ได้ ร้องไห้เกิดสิริมงคลก็ได้


(น.67) รูป 56 การแสดงระบำพื้นเมือง
Performance of traditional dances.

(น.68)
3. ระบำที่เล่นงานวัด เทวดา 9 เศียร ไม่ทราบว่าเป็นพวกฮู่ฝ่าหรือธรรมปาลหรือเปล่า คนอธิบายบอกว่าความหมายคือ ให้คนรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ฆ่าสิงสาราสัตว์ ขจัดสิ่งเลวร้าย
4. ร้องเพลงที่ราบสูงทิเบต เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุดเพลงหนึ่งในจีน
5. ผู้ชาย 4 คน ร้องเพลงรัก เล่นดนตรีเอง
6. แสดงพิธีการแต่งงานแบบหนึ่งของทิเบต ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง เจ้าสาวถักเปียเล็กๆ หลายอัน มีขบวนแห่มารับเจ้าสาว พ่อแม่เจ้าสาวออกมาเพื่อนเจ้าสาวซ่อนเจ้าสาวไว้ ฝ่ายหญิงเรียกร้องสิ่งตอบแทน ฝ่ายชายต้องยอมรับเงื่อนไข ก่อนออกจากบ้าน เจ้าสาวเดินรอบบ้าน 3 รอบ แสดงความอาลัยอาวรณ์


(น.68) รูป 57 หนุ่มทิเบตถิ่นอัมโดร้องเพลงรัก
Amdo Tibetan lads singing love songs.


(น.69) รูป 58 ผู้ว่าราชการมณฑลชิงไห่เลี้ยงต้อนรับ
Qinghai Governor hosting the welcome dinner.

(น.69) ห้าโมงครึ่งกลับถึงซีหนิงรู้สึกว่าเร็วกว่าขาไป หกโมงครึ่งไปพบผู้ว่าราชการมณฑลที่อาคารหมายเลข 9 ผู้ว่าฯ กล่าวถึงประชาชนชาวชิงไห่ 5,180,000 คน มีชาวจีน ชาวคาซัค ชาวหุย ชาวซาร์ลา ชาวถู่ ชาวทิเบต และชาวมองโกล มีศาสนาพุทธและอิสลาม มณฑลชิงไห่เป็นต้นแม่น้ำสำคัญ 3 สาย คือ แม่น้ำฉังเจียง แม่น้ำหวงเหอ และแม่น้ำโขง มีเหมืองแร่ ดินอุดมสมบูรณ์ มีเหมืองเกลือ แร่ธาตุธรรมชาติ เช่น ถ่านหิน ทองคำ ทองแดง ตะกั่ว ฯลฯ และแร่อื่นๆ กว่า 100 ชนิด มี 10 ชนิดที่เป็นอันดับแรกของจีน ชิงไห่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ชนชาติต่างๆ อยู่กันอย่างปรองดอง เรื่องเจ้าหญิงเหวินเฉิงไปทิเบตเป็นตัวอย่างที่ดีของความปรองดองนี้ ภูเขาสุริยันจันทรา (Riyue Shan) เป็นจุดผ่านที่สำคัญ

(น.70) ถึงมณฑลชิงไห่จะพัฒนาไปมากแต่ยังห่างจากมณฑลที่อยู่ริมฝั่งทะเลมาก โครงการพัฒนาภาคตะวันตกของรัฐบาลกลางเป็นโอกาสดีที่จะพัฒนา 12 มณฑลและภูมิภาคปกครองตนเอง การพัฒนาที่เริ่มดำเนินการมี 5 ประการ
1. เร่งรัดสร้างโครงสร้างทางด้านคมนาคม ได้แก่ ทางหลวง ทางรถไฟ และเครื่องบิน ด้านการเกษตร สาธารณูปโภค เช่น การสร้างเขื่อน ตอนนี้กำลังดำเนินการสร้างทางรถไฟชิงไห่-ลาซา โครงการเหล่านี้ได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาลกลางมาก
2. ต้องอนุรักษ์สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศน์ ได้แก่ การอนุรักษ์ทุ่งหญ้า การปลูกป่า การแก้ไขปัญหาดินตะกอน การปราบทราย โครงการใหม่ๆ ทำให้ระบบนิเวศน์ดีขึ้น แบ่งเขตที่ควรปลูกพืช ทำสวน บางส่วนควรคืนที่สู่ป่า ปลูกต้นไม้ ปลูกหญ้า ตั้งแต่ ค.ศ. 1999 จนถึงปัจจุบันนี้ คืนพื้นที่สู่ป่าได้ 520,000 โหม่ว (ประมาณ 216,667 ไร่) มณฑลชิงไห่มีนโยบายปลูกต้นไม้ และหญ้าบนเขาทุรกันดาร พยายามรักษาระบบนิเวศน์ของต้นแม่น้ำสามสายให้ดี ต่อไปจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีนโยบายอนุรักษ์สัตว์หายากที่เป็นสัตว์อนุรักษ์ระดับชาติ และพืชพิเศษบางชนิด สรุปแล้วการพัฒนาเศรษฐกิจต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

(น.71)
3. ต้องใช้ที่ราบสูงชิงไห่ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจ แก้ปัญหาความยากจน เช่น ใช้ประโยชน์จากเหมืองแร่ การผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ พัฒนาการใช้น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ การพัฒนาสมุนไพรจีนและทิเบต ปศุสัตว์ในที่ราบสูง และส่งเสริมการท่องเที่ยว
4. การพัฒนาต้องให้สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม การศึกษา การสาธารณสุข การกีฬา ด้านวัฒนธรรม โทรทัศน์ วิทยุ หอสมุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาการศึกษา และสุขภาพอนามัยของเกษตรกรและประชาชนในเขตเลี้ยงปศุสัตว์
5. การปฏิรูปเปิดกว้างสู่ภายนอก ต้องเตรียมการรับมือกับเศรษฐกิจอย่างใหม่ เช่น การที่จีนจะเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือเศรษฐกิจสมัยใหม่ที่ใช้ระบบ hi-tech นอกจากจะต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว ต้องประดิษฐ์ คิดสร้างระบบต่างๆ เช่น ระบบการปกครอง ระบบบริหารงาน เป็นต้น พูดถึงกลยุทธ์การพัฒนาภาคตะวันตกของจีน มีความมุ่งหมายให้ชาวชิงไห่ทุกชนชาติได้ร่วมกันสร้างชาติและมีความเป็นอยู่ดี อยากเชิญคนไทยมาท่องเที่ยวและมาลงทุน ขณะนี้ก็มีชาวต่างชาติมาลงทุนบ้างแล้ว แต่มูลค่าการลงทุนยังไม่มาก ประเทศที่มามากมี แคนาดา สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ฮ่องกงก็มีมา มีโครงการร่วมทุนหลายโครงการ (ประมาณ 120 โครงการ แต่ขนาดของ

(น.72) โครงการไม่ใหญ่มาก เช่น มีพวกมาทำเหมืองแร่ ทำโครงการกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ แปรรูปผลิตผล ประดิษฐ์ดอกไม้ ค้าขาย ฯลฯ) ถามเรื่องทะเลสาบชิงไห่มีขนาดเล็กลง ผู้ว่าฯ ตอบว่าปัญหานี้มีอยู่จริง 50 ปีที่ผ่านมาขนาดของทะเลสาบมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ รัฐบาลกลางก็สนใจปัญหานี้ ได้เสนอแนะวิธีแก้ปัญหาอย่างละเอียด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวปฏิบัติ 3 ประการ คือ รอบๆ ทะเลสาบชิงไห่ใน 5-10 ปีนี้จะต้องเปลี่ยนที่นาเป็นป่าและทุ่งหญ้า แก้ไขการกลายเป็นทะเลทราย ฟื้นฟูปริมาณน้ำในแม่น้ำลำธารให้มีเหมือนเดิม ห้ามกักน้ำไว้ใช้โดยไม่ปล่อยลงทะเลสาบ มองในอนาคตอาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องย้ายน้ำจากที่อื่นเข้ามา บางคนกล่าวว่าดินฟ้าอากาศของโลกในเวลานี้ร้อนขึ้นทุกปี ปริมาณฝนลดลงเรื่อยๆ หลายปีข้างหน้าอาจจะกลับตรงข้าม การแก้ปัญหาเรื่องคน รัฐบาลรับผิดชอบในการทำมาหากิน เช่น หาพันธุ์ข้าว หากล้าไม้ ให้ชาวนาชาวไร่ ช่วยให้คนเหล่านี้ประกอบอาชีพได้ เรื่องพันธุ์สัตว์ กำลังพยายามพันธุ์แพะทิเบต มีนโยบายคุ้มครอง ปราบปรามการล่าสัตว์ พัฒนาพันธุ์จามรี (เหมาหนิว) ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาพันธุ์ทำให้

(น.73) โตเร็วขึ้นและแข็งแรง ผู้ว่าฯ อวดว่า ในโลกมีจามรีประมาณ 10 ล้านตัว มีในชิงไห่ประมาณ 5 ล้านตัว ไปรับประทานอาหาร ถามผู้ว่าฯ เรื่องการศึกษาของเด็กลูกคนเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน รองผู้ว่าฯ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการศึกษาบอกว่า สร้างโรงเรียนประจำเอาเด็กมาอยู่โรงเรียนไม่ไกลจากบริเวณที่พ่อแม่ทำมาหากินมากนัก พ่อแม่มาเยี่ยมได้ ในมณฑลชิงไห่มีโรงเรียน 120 โรงเรียน อยู่ในโครงการความหวัง มีมูลนิธิจากไต้หวันมาบริจาคเงินช่วยในด้านการศึกษา ผู้ว่าฯ คนนี้เป็นคนซีอาน เรียนจบจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งในด้านปรัชญาแล้วมาทำงานที่ชิงไห่ อายุ 45 ปี อ่อนกว่าข้าพเจ้าปีหนึ่ง นับเป็นผู้ว่าราชการมณฑลที่มีอายุน้อยที่สุดในจีน