Please wait...

<< Back

" ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2544 "


(น.246) รูป 185 ทักทายกับคณะครูมหาวิทยาลัยปักกิ่งที่เคยสอนข้าพเจ้า
Greeting my teachers who taught me while I was studying at Peking University.

(น.246) วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม 2544
ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ไปมหาวิทยาลัยปักกิ่ง รองอธิการบดีหมินเว่ยฟง และคณะครูที่เคยสอนข้าพเจ้ามาครบทุกคน เว้นครูจังสอนพู่กันจีนไปสอนที่อื่น ตอนนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งยังไม่เปิด อีกอาทิตย์หนึ่งจึงจะเปิด

(น.247) รองอธิการบดีบอกว่าได้ไปร่วมสัมมนาระหว่างมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้พบอธิการบดีจุฬาฯ คิดว่าจะร่วมมือกันทางวิชาการ ปลายเดือนมีนาคมปีหน้าจะไปสิงคโปร์ ตอนบ่ายนี้จะให้ข้าพเจ้าไปดูงานที่คณะจิตวิทยา อดีตอธิการบดีไช่หยวนเผยจบวิชาจิตวิทยามาจากเยอรมนี ฉลอง 100 ปีของคณะไปแล้ว ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม Chinese Academy of Sciences เลิกวิชาจิตวิทยา บอกว่าไม่มีสาระ แต่ขณะนี้สภาพเปลี่ยนไปคนหันมาสนใจ มหาวิทยาลัยมีห้อง lab จิตวิทยาด้วย ขณะนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีโครงการบัณฑิตอาสาคือ บัณฑิตที่จบใหม่ๆ ยังไม่เริ่มเรียนปริญญาโท ส่งไปชนบทเพราะว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักความลำบากเหมือนคนสมัยก่อน ปีที่แล้วส่งไปชิงไห่


(น.247) รูป 186 รองอธิการบดีหมินเว่ยฟงแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งมอบหนังสือให้ข้าพเจ้า
Deputy President Min Weifeng of Peking University presenting me a book on my studying at Peking University.


(น.248) รูป 187 ไปเยี่ยมศาสตราจารย์จี้เซี่ยนหลินที่บ้านพักในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
Visiting Professor Ji Xianlin at his residence in Peking University.


รูป 188 ไปเยี่ยมศาสตราจารย์จี้เซี่ยนหลินที่บ้านพักในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
Visiting Professor Ji Xianlin at his residence in Peking University.

(น.248) ถ่ายรูปหมู่กันแล้ว ไปที่เรือนพักที่เคยอยู่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เด็กที่ช่วยดูแลข้าพเจ้าก็อยู่กันหมด ต้นไม้ที่ข้าพเจ้าปลูกไว้ก็งามดี ขึ้นไปที่ห้องก็เหมือนเดิม ไปบ้านศาสตราจารย์จี้เซี่ยนหลิน เที่ยวนี้อาจารย์ให้หนังสือที่ระลึกอายุ 90 ปี และเข้าห้องสมุดดูหนังสือต่างๆ ศาสตราจารย์จี้เป็นบรรณาธิการหนังสือ กำลังเขียนประวัติพุทธศาสนาในซินเกียง ตอนนี้น่าเสียดายที่ดอกบัวไม่มีแล้ว เหลือแต่ใบ พอถึงเวลาไปเรือนรับรองเตี้ยวอวี๋ไถที่จะจัดเลี้ยง รออยู่พักหนึ่ง มาดามเฉียนเจิ้งอิงมา ให้รูปแผนที่ประเทศจีนเป็นทอง พูดว่าถ้าอยากดูแม่น้ำสามสายนั้นไปดูที่ชิงไห่ดูลำบากอยู่ไกลกัน แต่ว่าที่ยูนนานอยู่ใกล้กัน ที่ชิงไห่อย่าว่าแต่คนไปท่องเที่ยวเลย นักสำรวจเดินทางไปก็แย่แล้ว

(น.249) ข้าพเจ้าถามถึงทะเลสาบชิงไห่ว่าน้ำลดลงไปทำอย่างไร มีคนบอกให้ย้ายน้ำจากแม่น้ำหวงเหอเข้าไป มาดามบอกว่าเมื่อ 100 ปีมาแล้ว มีชาวรัสเซียวัดระดับน้ำและบันทึกไว้ เป็นฉบับเดียวที่รู้สึกว่าน้ำลดแยะ ใน 50 ปีนี้น้ำไม่ได้ลดมากอย่างที่เข้าใจกัน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการย้ายน้ำ เพราะทุกคนหวงน้ำ เช่น แม่น้ำต้าทงเหออยู่ระหว่างชิงไห่กับกานซู่ 2 มณฑลนี้ก็แย่งน้ำกัน มาดามต้องเป็นผู้เสนอรายงานผลการศึกษาเรื่องการใช้น้ำในภาคตะวันตกของจีน บริเวณที่ต้องแบ่งน้ำกันระหว่างกานซู่กับมองโกเลียใน กระทรวงชลประทานต้องส่งคนไปนครหลานโจวคอยควบคุมการใช้น้ำ สมัยราชวงศ์ชิง จักรพรรดิต้องไปควบคุมการแบ่งน้ำเอง


(น.249) รูป 189 สนทนากับมาดามเฉียนเจิ้งอิงก่อนรับประทานอาหารกลางวัน
Talking with Madame Qian Zhengying before lunch.


(น.250) รูป 190 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในช่วงรับประทานอาหาร
Exchanging experiences and thoughts during lunch.

(น.250) มาดามจะต้องไปตรวจเรื่องน้ำที่มองโกเลียในวันพรุ่งนี้ มองโกเลียในกว้างขวางมาก พื้นที่ราบดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องความสูง ทางตะวันตกเป็นทะเลทราย ตะวันออกอุดมสมบูรณ์ สร้างถนนยากแต่ยังไม่ยากเท่าการทำทางรถไฟชิงไห่-ลาซา มาดามเล่าว่าเนื้อที่รับประทานกันที่เตี้ยวอวี๋ไถเป็นเนื้อที่สั่งจากมณฑลหนิงเซี่ย เป็นวัวที่กินแต่หญ้าธรรมชาติและพืชสมุนไพร ไม่ได้กินอาหารที่ทำจากเนื้อ สัตว์จึงไม่มีโรควัวบ้า

(น.251) ที่ทิเบตมีเขื่อนกระแสไฟฟ้า กั้นน้ำในทะเลสาบซึ่งสูงกว่าแม่น้ำทำไฟฟ้า กลางคืนใช้ไฟฟ้ามาก ปล่อยน้ำลงมาใช้ กลางวันสูบน้ำขึ้นไปเทบนทะเลสาบ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วกลับเรือนรับรองเตี้ยวอวี๋ไถ เก็บข้าวของ ช่วงบ่ายกลับไปมหาวิทยาลัยปักกิ่งอีก พบคณะอาจารย์ที่สอนภาษาจีนข้าพเจ้า และอาจารย์ภาษาไทย อาจารย์ที่ทำงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมา 20 กว่าปีแล้ว ชื่อ ศาสตราจารย์ฟั่น ท่านว่าท่านมีเชื้อสายไทย


(น.252) รูป 191 ศาสตราจารย์ฟั่นให้ดูเอกสารที่อาจารย์รวบรวมขึ้นจากการศึกษาเรื่องหมีแพนด้าใหญ่
Professor Fan showing documents compiled from his researches on the giant Panda bears.

(น.252) เกิดเมืองไทย แต่พูดภาษาไทยไม่ได้ ศาสตราจารย์ฟั่นศึกษาหมีแพนด้าใหญ่ ต้องไปสังเกตพฤติกรรมของหมีแต่ละตัว ครอบครัวของหมีเหล่านี้เป็นอย่างไร เท่าที่สังเกตดูหมีที่อยู่ในป่าขยายพันธุ์สูงกว่าที่จับเอามา ปัญหาความอยู่รอดของหมีแพนด้าอยู่ที่ป่าไม้ด้วย รัฐบาลห้ามตัดต้นไม้ในเขตที่มีหมีแพนด้า 5 ปีมาแล้ว ศาสตราจารย์ฟั่นเริ่มศึกษาลิงหัวขาวกินใบไม้ ลิงชนิดนี้อยู่ทางตอนใต้ของจีนและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลิงพวกนี้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเศรษฐกิจ นักวิชาการพยายามหาวิธีแก้ไขปัญหา ให้ชาวบ้านใช้ biogas ดีขึ้นแยะ ในเขต 8 ตารางกิโลเมตรที่ไปศึกษาใน ค.ศ. 1998 มีลิง 147 ตัว เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มี 213 ตัว แต่ละครอบครัว (มีภรรยาหลายตัว) อยู่ในถ้ำที่หน้าผา ตอนค่ำก็จะลงมา

(น.253) ศาสตราจารย์ฟั่นฉายสไลด์ให้ดูว่าหมีแพนด้าอาศัยอยู่ในที่สูง 1,350 เมตรขึ้นไป ในป่าไผ่ที่ไม่มีคนอยู่อาศัย นอกจากศึกษาขั้นตอนการดำรงชีวิตและพฤติกรรมแล้ว ยังศึกษา DNA finger print DNA Diversity ลิงหัวขาวชอบอาศัยอยู่ในภูมิประเทศแบบ Karst ล้อมรอบด้วยที่นาปลูกอ้อย ต้องแก้ปัญหาชาวบ้านตัดไม้ไปทำฟืน ปัญหาในครอบครัวลิงก็มี บางทีหัวหน้าครอบครัวแก่หรือมีแรงน้อย ตัวอื่นเข้ามาแย่งรัง ไล่ลิงแก่ไป ครอบครองพวกภรรยา ฆ่าลูกลิงเล็กๆ มองดูพวกลิงเลี้ยงลูกแล้วเหมือนคน มีลิงตัวเมียป่วย ลูกลิงมาช่วยกันพยาบาลดูแลเอาใจใส่ จากนั้นไปที่คณะจิตวิทยา ศึกษาจิตใจของลิง ซึ่งจะช่วยให้ศึกษาคนได้ง่ายขึ้น เช่น ในครอบครัว ลิงดูแลลูกตนเองแล้วยังดูแลลูกกำพร้าด้วย ลิงมีความจำและเรียนได้พอสมควร เหมือนกับลิงเก็บมะพร้าวที่เราฝึก สอนให้ลิงสังเกตปฏิกิริยาคนด้วย ลิงนับเลขได้ ที่เขาทดลองได้ถึง 7 ที่จริงเป็นการจำ pattern ไม่ได้นับ ลิงที่เขาทดลองนี้เป็นลิงธรรมดา ในต่างประเทศใช้ลิงชิมแปนซีซึ่งฝึกได้ดีกว่าแต่แพง มีห้อง lab สำหรับศึกษาระบบสมองของคน อาจารย์ที่ค้นคว้าศึกษาเรื่องลิงจบจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและมหาวิทยาลัยนาโงยาที่ญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยนั่งรถตรงไปสนามบินกลับเมืองไทย