Please wait...

<< Back

" มุ่งไกลในรอยทราย วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2533 "


รูป 35. พระยืนองค์นี้ทำด้วยไม้จันทน์ขาวทั้งต้น
Standing Buddha carved out of one whole tree.

(น.38) เพราะอยู่ลึกลงไปในดินอีก 8 เมตร กว้าง 8 เมตร เป็นของถวายพระเจ้าเฉียนหลงจากลามะองค์ที่ 7 จากทิเบต ที่ทิเบตเองก็ไม่มีพระพุทธรูปไม้จันทน์ มีแต่ทองสำริด อาคารนี้ต่อไปที่หอคัมภีร์ ห้องพระศากยมุนี จุดเด่นคือมีเสาเป็นมังกร 99 ตัว ใช้ไม้หนานมู่ชนิดหนึ่งเรียกว่า จินซือ (หนานมู่ลายทอง) มาจากยูนนาน ห้องนี้เป็นที่สวดมนต์พระมารดาเฉียนหลง ห้องต่อไปที่เข้าดูเป็นห้องที่ลามะองค์ที่ 6 เคยมาพักอยู่ตอนมาเฝ้าพระเจ้าเฉียนหลง ปัจจุบันเขาจัดให้เป็นพิพิธภัณฑ์ มีของที่ได้จากต่างประเทศ (มีของจากกรมการศาสนาไทยด้วย) ของที่ใช้ประจำวัน ของต่าง ๆ เช่น หรูอี้ ประคำ เครื่องดนตรีในพิธีเช่น ปี่ สังข์ ระฆัง เสื้อผ้าที่กษัตริย์ราชวงศ์ชิงถวายลามะ เป็นเสื้อผ้า 4 ฤดู ฤดูหนาวหมวกมีขนสัตว์ ฤดูร้อนหมวก กันแดดปีกใหญ่ รูปปันชานลามะองค์ที่ 6,9,10 องค์สุดท้ายนี้เพิ่งเสียชีวิตไป เคยเป็นรองประธานสภาผู้แทน มีห้องหนึ่งเป็นห้องพระไภษัชยคุรุ ถือว่าเป็นที่ปรุงยาของวัด (ในสมัยก่อน) ปัจจุบันที่ปักกิ่งไม่มีพระลามะที่ปรุงยาได้แล้ว แต่ที่ชิงไห่และที่ทิเบตยังมี เรามีเวลาดูกันน้อย และข้าพเจ้าก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับนิกายลามะ แต่รู้สึกสงสัยว่าลัทธิลามะที่มาอยู่ในเมืองหลวงของจีน กับที่อยู่ในถิ่นเดิมจะมีความเชื่อต่างกันบ้างไหม จะเป็นไปได้ไหมที่นิกายลามะในจีนได้รับอิทธิพลพุทธมหายานนิกายต่าง ๆ ที่นับถือกันอยู่ทั่วไป จากวัดลามะไปมูลนิธิซ่งชิงหลิง รองประธานมูลนิธิ ชื่ออู๋เฉียนเหิงมาต้อนรับ (ประธานเป็นภรรยานายพลจูเต๋อ อดีตประธานสภา สุขภาพไม่ดีอยู่โรงพยาบาล จึงมาต้อนรับไม่ได้) รองประธานอธิบายว่าตึกหลังนี้


(น.39) รูป 36. ออกจากวัดลามะ
Departing from the Lamaist monastery.

นายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลสร้างให้เป็นที่พักของมาดามซ่งชิงหลิง และมาดามอยู่ที่นี่จนเสียชีวิตไป1 1 มาดามซ่งชิงหลิง (ค.ศ. 1893-1981) เป็นภรรยาของ ดร. ซุนยัดเซ็น ได้ปฏิบัติงานสืบทอดเจตนารมณ์ของซุนยัดเซ็น ในการต่อสู้เพื่อบ้านเมือง กู้ชาติ และได้ช่วยฟื้นฟูสังคมจีนด้วย ภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีกิตติศักดิ์ (น.40) ที่นี่แต่ดั้งเดิมเป็นบ้านเกิดของพระเจ้าปูยี พระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้ายของจีน การสร้างอาคารใหม่จึงพยายามทำให้กลมกลืนกับบรรยากาศเดิม เมื่อมาดามซ่งชิงหลิงเสียชีวิตไปแล้ว จึงตั้งเป็นมูลนิธิเมื่อปี 1982 มีกิจกรรม คือ รักษาบ้านที่มาดามเคยพักอยู่ไว้ในสภาพที่ดีอย่างเดิม ทำพิพิธภัณฑ์ระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน กิจกรรมเพื่อสังคมก็มีหลายอย่าง เช่น
1. สร้างสวนเยาวชนทางวิทยาศาสตร์ที่ปักกิ่ง กำลังก่อสร้างแต่ยังไม่เสร็จ เพราะมีปัญหาเรื่องการเงิน ตามแผนศูนย์นี้จะมีเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ห้องสมุด ห้องฝึกภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ ดนตรี
2. ให้รางวัลเงินทุนสำหรับผู้ที่เขียนวรรณกรรมสำหรับเด็ก ส่งเสริมให้มีการเขียนหนังสือเด็กมากขึ้น
3. ให้รางวัลรายการโทรทัศน์ดีเด่น เรื่องเกี่ยวกับชีวิตนักเรียน
4. สนับสนุนการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์
5. ฝึกอบรมครูอนุบาล เน้นการฝึกครูอนุบาลสำหรับโรงงาน
6. รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ร่วมมือทำรายการเด็กในโทรทัศน์
7. ร่วมมือกับองค์การ UNICEF ให้ทุนช่วยเหลือคนในเขตชนกลุ่มน้อยหรือเขตทุรกันดาร
8. สร้างโรงพยาบาลพักฟื้นขึ้นในมณฑลกานซู
9. ในกุ้ยโจว ที่เจิ้งหนิงเป็นถิ่นกันดารยากจน ทำห้องอ่านหนังสือสำหรับเด็ก
10. ในมณฑลหนิงเซียขาดเคลนน้ำ ก็ได้ขุดบ่อบาดาล และสร้างโรงเรียนประถม
อาจารย์ฟู่ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของมูลนิธิ เป็นผู้นำข้าพเจ้าชมพิพิธภัณฑ์เรื่องราวของมาดาม มีแผนที่แสดงสถานที่ที่มาดามเคยไปในโลก


(น.41) รูป 37. ภายในอาคารจัดเก็บภาพและสิ่งของแสดงประวัติและผลงานของมาดามซ่งชิงหลิง
Inside the building of the Foundation,where pictures and objects showing the life and work of Madame Song were displayed.

ประวัติตั้งแต่เด็ก กิจกรรมต่อต้านญี่ปุ่นในสมัยสงคราม การติดต่อกับบุคคลต่าง ๆ ทั้งในและนอกต่างประเทศ จนเสียชีวิต และพิธีศพ ส่วนใหญ่จะแสดงด้วยรูปภาพ มีสิ่งของเพียงบางอย่างเท่าที่หาได้ อีกห้องเป็นกิจกรรมช่วยเหลือเด็กโดยเฉพาะ


(น.42) รูป 38. ห้องที่มาดามเคยอยู่ก็จัดสิ่งของต่าง ๆ วางไว้เหมือนกับเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่
The ROOM in which Madame Song resided is preserved as when she was alive.

ขึ้นไปบนอาคารที่ยังเก็บห้องนอน โต๊ะเขียนหนังสือ ห้องน้ำ ห้องหนังสือของมาดามไว้ในสภาพเดิม ลงไปดูในสวน เป็นที่ถ่ายภาพยนตร์เรื่อง The Last Emperor มีทับทิมบอนไซอายุประมาณ 200 ปีแล้ว เขาว่าออกลูกทุกปี


(น.43) รูป 39. ต้นทับทิมบอนไซอายุ 200 ปีแล้ว
Bonsai: pommegranate tree, 200 years old.

ไปที่ร้านของที่ระลึกซื้อตุ๊กตาเล็ก ๆ และแสตมป์ ได้คุยกับครูฟู่เล็กน้อย ครูเคยสอนภาษาจีนให้ข้าพเจ้าอยู่ช่วงหนึ่ง อ่านทำนองเสนาะได้ แต่ก่อนเคยอยู่สภากาชาดจีน ถามท่านดูบอกว่างานกาชาดเป็นงานหนัก อายุมากแล้วทำไม่ไหวเลยมาช่วยมูลนิธินี้

(น.44)
16.30 น. กลับที่พัก ครูติ๋มภรรยาท่านทูตจัดสาคูไส้หมูและพายแอปเปิ้ลมาให้
17.45 น. ไปที่สถานทูต
ก่อนจะมีงานเลี้ยงได้พบกับครูที่เคยสอนภาษาจีนข้าพเจ้า คือ ครูจาง เดี๋ยวนี้เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษอยู่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ครูฉางปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ครูหวางเย่ เดี๋ยวนี้เป็นผู้อำนวยการสถาบันสอนภาษา และครูกู้ ข้าพเจ้าแปลกใจตัวเองที่สามารถเข้าใจคำพูด (ภาษาจีน) ของครูทุกท่าน และพูดโต้ตอบเป็นภาษาจีนได้ คุยกันสักพักหนึ่งแขกผู้ใหญ่เริ่มมา เช่นท่านรัฐมนตรีกู้ ท่านหัน ท่านไฉเจ๋อหมิน จางเหว่ยเสี้ยะ คุณหลี่เม่า ท่านรัฐมนตรีกู้ชวนไปทางคลองสายใหญ่ คลองนี้ผ่านเจียงซู สองฝั่งก็สวยงามมาก ขณะนี้ได้ขุดลอกคลองเพื่อเป็นประโยชน์ในการขนส่งถ่านหิน เลยเรียนถามท่านรัฐมนตรีว่า ท่านดูแลอุตสาหกรรมเคนั้นดูแลอะไร ท่านว่าท่านดูแลพวกผลิตภัณฑ์เคมีทั้งหมด ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปิโตรเลียม สี การผลิตผ้าใยสังเคราะห์ก็สำคัญเพราะจีนมีคนมาก เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มไม่พอ การทำผลิตภัณฑ์จากยางพารา (จีนซื้อจากไทย) การผลิตปุ๋ย มีทั้งปุ๋ยจากถ่านหิน ปุ๋ยจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เมื่ออาหารพร้อมก็ไปรับประทานอาหาร ท่านทูตสั่งอาหารจากโรงแรมแพเลซ และทำเติมเข้าไปบ้าง เช่น กระทงทอง ต้มยำกุ้ง ผลไม้ไทย ลงท้ายด้วยไอศกรีม อาหารมากชนิดเหลือเกิน เขาเลี้ยงเรามาก เวลาเราเลี้ยงตอบเราเลี้ยงน้อยก็ไม่สมกัน ข้าพเจ้าได้เล่าให้ท่านหันเหนียนหลงฟังถึงเรื่องหมูไท้หู ซึ่งข้าพเจ้าขอจากท่านหันเมื่อมาที่จีนครั้งก่อน นักวิชาการได้นำไปผสมกับหมูไทย ได้พันธุ์ใหม่ที่ข้าพเจ้าตั้งชื่อว่าหมูมิตรสัมพันธ์ ได้


(น.45) รูป 40. สนทนากับท่านรัฐมนตรีกู้ และอดีตเอกอัครราชทูตจีนในไทย
Conversation with the Minister Gu and the former Chinese Ambassador to Thailand.

แจกชาวบ้านที่ยากจนไปเป็นจำนวนมาก หมูพันธุ์นี้เหมาะสมกับเขตที่ยากจน เนื่องจากกินอะไรก็กินง่าย โตเร็ว ลูกดก นับว่าท่านได้ช่วยเรามาก


(น.46) รูป 41. ถ่ายภาพกับท่านทูต คุณติ๋ม และน้องยาใจ
Taking picture with the Ambassador, his wife and Yachai, their daughter.

เมื่อรับประทานเสร็จแล้วข้าพเจ้าขึ้นไปชั้นบน เข้าห้องน้ำ ลูกสาวท่านทูตออกมาแนะนำตัวว่าชื่อ ด.ญ.ยาใจ บุนนาค อายุ 5 ปี ข้าพเจ้าเลยขอถ่ายรูปกับหนูยาใจ เป็นเด็กน่ารักและช่างคุยมาก หลังจากนั้นพบข้าราชการสถานทูต เจ้าหน้าที่การบินไทย (เมื่อมาคราวก่อนยังไม่มี) และนักเรียนไทย ทุนรัฐบาลจีนมี 6 คน รวมทั้งตู่ (จินตนา) จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ด้วย กว่าจะเสร็จก็ค่อนข้างจะดึก ว่าจะออกไปวิ่งออกกำลังกายต่อก็เห็นจะไม่ไหว วันนี้รับประทานมากเหลือเกิน เกือบอยากจะเดินกลับบ้านพัก (8 กิโลเมตร)


(น.47) รูป 42. พบกับข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตเจ้าหน้าที่การบินไทย นักเรียนไทยทุนรัฐบาลจีน
Meeting with officials of the Royal Thai Embassy, officials of the Thai International Airlines and Thai students who were sponsored by the Chinese government.