Please wait...

<< Back

" มุ่งไกลในรอยทราย วันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2533 "

(น.57) เตี้ยวหยูวไถเลยมีกับข้าวมาก รับประทานอาหารเสร็จแล้วยังมีเวลาอยู่ เลยอ่านหนังสือพิมพ์ถึงเรื่องจีนส่งจรวดชื่อ Long March3 ซึ่งนำดาวเทียมโทรคมนาคม Asia Sat-1 เข้าสู่วงจร เขายิงจรวดวันที่ 7 เมษายน เวลา 21.30 น. จากฐานปล่อยจรวดซีฉาง ในมณฑลเสฉวน เข้าสู่วงจร 36,000 กม. เหนือระดับน้ำทะเล ใช้เวลา 21.36 นาที ถือเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศครั้งสำคัญ เรื่องเกี่ยวกับการวิจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมพบว่าคนงานโรงงานอุตสาหกรรมจะประสบปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการทำงานน้อยลง เพราะมีการปรับปรุงภาวการณ์ทำงาน แต่เรื่องสภาพอากาศเป็นพิษในเมืองใหญ่ ๆ ยังไม่ดีขึ้น เรื่องการร่างแผน 5 ปีแผนที่ 8 (1991-1995) จะให้มีการลงทุนจากต่างประเทศ และรับเทคโนโลยีต่างประเทศมากขึ้น จะเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ เวลา 13.45 น. ออกจากเตี้ยวหยูวไถ พวกเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ออกมาส่ง พี่อู๋หุ้ยชิงเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบางท่านก็ลาเราที่นี่ ไม่ได้ตามไปต่างจังหวัด ข้าพเจ้าลาทุก ๆ คน นั่งรถไปสนามบิน พวกสถานทูต การบินไทย นักเรียนไทยก็ส่งที่สนามบินนี้เหมือนกัน ท่านรัฐมนตรีกู้ และผู้ช่วยรัฐมนตรีก็มาส่ง เราขึ้นเครื่อง CAAC รู้สึกมีผู้โดยสารเต็ม เครื่องบินกว่าจะออกก็บ่ายสามโมงแล้ว ในเครื่องบินคุยกับครูกู้ว่าจะเขียนเรื่องอย่างไร เรียนภาษาจีนไปพลาง บนเครื่องบินก็มีของขวัญหลายอย่าง เช่น กระเป๋าสตางค์ ย่าม ขนมทำจากขิง มีสรรพคุณที่โฆษณาไว้ที่กล่องหลายอย่าง เช่น แก้


(น.58) รูป 52. ก่อนออกจากปักกิ่ง มอบของที่ระลึกให้คนที่ไม่ได้ตามเราออกไปต่างจังหวัด ในภาพกำลังมอบของที่ระลึกให้พี่อู๋หุ้ยชิง
Before leaving Peking, I presented souvenirs to those who would not come with us on the journey outside Peking. In the picture I was giving a souvenir to Wu Huiqing.


(น.59) รูป 53. สนามบินส่านซี มีรองผู้ว่าราชการมณฑลมารับ
Shaanxi Airport, greeted by the Assistant Governor.

(น.59) เมาเรือ แก้เมาเครื่องบิน บำรุงม้าม แก้เจ็บคอ เมื่อใกล้จะถึงเมืองซีอาน เจ้าหน้าที่เครื่องบินเขาประกาศให้ทราบถึงสถานที่น่าสนใจในซีอาน มองทิวทัศน์ พยายามจะเปรียบเทียบกับเรื่องย่ำแดนมังกรที่เขียนไว้นานแล้ว ไกล ๆ เมืองยังเห็นภูเขาเป็นชั้น ๆ เมื่อเข้าไปใกล้ก็เห็นนาสีเขียว แม่น้ำแยกเป็นสาขา ริมแม่น้ำมีบ่อเลี้ยงปลา เมืองดูจะขยายขึ้น มีตึกสูง ๆ มาก เดิมกำแพงเมืองซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยสังเกตเห็นว่ามี ดูเหมือนว่าจะบูรณะขึ้นใหม่ ที่สนามบินส่านซีอยู่นอกเมือง มีรองผู้ว่าราชการมณฑล (ซุนต๋าเหริน) รองผู้ว่าราชการมณฑลและคุณหลิว (ล่าม) ขึ้นนั่งรถด้วย รองผู้ว่าราชการเล่าว่าตอนนี้มีโรงแรมเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง ข้าพเจ้าคงเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาก อธิบายว่าเมืองฉางอานเก่ามี 3 ชั้น ทางเหนือเป็นพระราชวัง ส่วนกลางเป็นบริเวณหน่วยราชการ ชานเมืองอยู่รอบ ๆ เดี๋ยวนี้ที่เหลือให้

(น.60) เห็นกำแพงเมืองเป็นส่วนหน่วยราชการ มีถนนสายหนึ่งยาวประมาณ 300 เมตรอยู่กลางเมือง สองข้างถนนเห็นมีผลไม้ใส่รถเข็นขาย มีส้ม กล้วย มันเทศ ไปถึงโรงแรมถังเฉิง เป็นโรงแรมใหญ่ทันสมัย เจ้าหน้าที่โรงแรมมารับพาขึ้นไปที่ห้องพักอยู่ชั้นที่ 11 มีทั้งห้องนอน ห้องหนังสือ ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร บนโต๊ะมีพู่กัน จานฝนหมึก เอาไว้ให้ เขาเข้าใจตั้งชื่อโรงแรมว่าถังเฉิงคือเมืองราชวงศ์ถัง เมืองฉางอานหรือซีอานมีชื่อเสียงมากที่สุดในราชวงศ์ถัง ประมาณทุ่มหนึ่งรองผู้ว่าราชการมณฑลเลี้ยงอาหารค่ำ ข้าพเจ้าถามว่าบัตรเชิญรับประทานอาหารที่มีรูปกวางนั้นหมายความว่าอะไร ท่านรองบอกว่าเป็นลายโบราณจากกระเบื้องเชิงชาย กวางนั้นภาษาจีนอ่านว่าลู่ เสียงพ้องกับลู่ (ลก) ที่แปลว่าความมั่งคั่ง บุญวาสนา จึงถือว่าเป็นมงคล รองผู้ว่าแนะนำบุคคลในคณะของท่าน ที่นั่งที่โต๊ะมีอธิบดีกรมวิเทศสัมพันธ์ อธิบดีอุตสาหกรรมเบา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องการขุดค้นต่าง ๆ ก่อนอาหารท่านรองลุกขึ้นกล่าวต้อนรับ มีคุณหลิวยืนแปลคู่กันอย่างสมัยก่อน บอกว่าต้อนรับในนามของผู้ว่าราชการซึ่งติดตามภารกิจมารับไม่ได้ เมืองซีอานเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแพรไหม การเลือกที่จะเริ่มต้นเดินทางที่นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง อวยพรให้ประสบความสำเร็จ ข้าพเจ้ากล่าวตอบ เริ่มรับประทานอาหาร เขาเลี้ยงเหล้าข้าวหมักที่เป็นของพิเศษของมณฑล (อาจจะเป็นเหล้าที่หลี่ไป๋ดื่ม แต่ข้าพเจ้าว่าไม่ใช่หลี่ไป๋พูดถึงเหล้าองุ่น) เหล้าข้าวเหนียวแดง อาหารมี ออร์เดิร์ฟ พริกของเขาใส่น้ำร้อนลงไป


(น.61) รูป 54. ตอนค่ำ รองผู้ว่าราชการมณฑลเลี้ยงอาหาร
Dinner party hosted by the Assistant Governor.

คนอื่นเขาก็ไม่ใส่พริก มีข้าพเจ้าคนเดียวที่ใส่พริกทุกอย่าง (มาคราวนี้เขาเอาพริกมาใส่ให้เกือบทุกมื้อ) ซุปไก่ ปลิงทะเล เห็ดและเต้าหู้ กุ้ง เป็ดชุบแป้งทอด ผักต่าง ๆ ผัด เปาะเปี๊ยะ เส้นหมี่ เกี๊ยว เผือกชุบแป้งทอดกับคาราเมล ธรรมดาต้องทำใหม่ ๆ ถึงจะดึงให้ยืดได้ แต่จานนี้แข็งไปแล้ว ของหวานมีข้าวเหนียวดำ (เขาเล่าว่าแต่ก่อนถือเป็นของถวายเจ้านายเพราะหายาก) ผลไม้มีแตงโม


(น.62) รูป 55. กล่าวตอบท่านรองผู้ว่าราชการมณฑล
Speech in reply to the Assistant Governor.

พูดกันถึงเรื่องเส้นทางแพรไหม ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์บอกว่าท่านรองผู้ว่าราชการเป็นนักประวัติศาสตร์มีชื่อคนหนึ่งของจีน ได้เขียนบทความต่าง ๆ เอาไว้มาก มิน่าเล่าท่านถึงได้อธิบายได้ละเอียดลึกซึ้ง ท่านว่าในประวัติศาสตร์ก่อนและหลังคริสตกาล 1,000 ปี รวม 2,000 ปี เมืองซีอานเป็นนครหลวงกว่าครึ่ง ที่สำคัญ คือ ราชวงศ์โจว ฮั่น และราชวงศ์อื่น ๆ อีกหลายราชวงศ์ รวม 11 ราชวงศ์ ข้าพเจ้าจะได้ไปชมสุสานเม่าหลิง ราชวงศ์ฮั่น มีศิลาจารึกที่มีชื่อเสียง จะได้ดูสุสานเฉียนหลิงของบูเช็กเทียน จักรพรรดินีองค์เดียวที่ครองราชย์อยู่นาน 21 ปี (ค.ศ.684-705)

(น.63) มีวัดแห่งหนึ่งชื่อฝ่าเหมินซื่อ เพิ่งค้นพบเมื่อ 2 ปีก่อน เปิดนิทรรศการปีที่แล้ว พบพระธาตุนิ้วพระหัตถ์พระพุทธเจ้า มีประวัติว่าเคยนำไปบูชาในวัง 7 ครั้ง มีของล้ำค่าจากราชวงศ์ถังมากมาย เป็นของถวายเป็นพุทธบูชา ถ้วยชามของถังซีจง ปลายราชวงศ์ถัง มีแพรไหมที่ใช้ในวัง แพรไหมที่พบมีจำนวนมากมายกว่าที่เคยพบมา การรักษาแพรไหมเป็นงานที่ละเอียดมาก แพรไหมที่รักษาไว้ได้ดีที่สุดคือแพรไหมที่ทอกับเส้นทอง นอกจากนั้นมีเครื่องแก้ว บางส่วนมาจากอาหรับ ท่านรองบอกว่าจะหาข้อมูลไว้ให้ทั้งภาพถ่าย หนังสือ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์บอกว่าจะถ่ายเอกสารเรื่องสุสานเฉียนหลิง และจุดเริ่มต้นเส้นทางแพรไหมมาให้ สำหรับหลุมที่พบกองทหารม้าของจิ๋นซีฮ่องเต้มี 3 หลุม เปิดใหม่ 2 หลุม จะได้ไปดูรถม้าสมัยนั้น ท่านรองจะไปด้วย เพราะท่านเคยเรียนประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติศาสตร์ในช่วงนั้น ข้าพเจ้าถามว่าตอนนี้มีวิธีเก็บรักษาดีขึ้นหรือยัง ข้าพเจ้าเคยถามเจ้าหน้าที่จีนเมื่อเดินทางมาในคราวก่อนว่าทำไมไม่ขุดขึ้นมาดูอีก เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ขุดเพราะยังไม่ทราบวิธีรักษา (โดยเฉพาะอย่ายิ่งเรื่องการรักษาสี) ขุดขึ้นเกรงว่าของจะเสีย ท่านรองอธิบายว่าหลุมที่ 1 ที่ข้าพเจ้าเห็นเป็นหลุมที่ถูกไฟไหม้ถูกทำลายไปบ้างแล้ว หลุม 3 มีสภาพดีกว่า เราขุดมาบางส่วน ส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ใต้ดิน เทคนิคการเก็บรักษานั้นยากมาก การขุดค้นต้องทำอย่างช้า ๆ เราเองก็ไม่ค่อยได้ขุดขึ้นมาโดยตั้งใจ ที่พบมักเป็นการพบโดยบังเอิญ เช่นขุดเพื่อก่อสร้างอะไร ๆ แต่ที่คิดว่าน่าจะขุดค้นต่อไป คือสุสานพระเจ้าจิ๋นซี ข้าพเจ้าถามว่าที่เคยได้ยินมาว่าสุสานถูกฌ้อปาอ๋องปล้นหมดแล้วท่านว่าจริงหรือเปล่า ท่านรองบอกว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์บอกไว้อย่างนั้น เมื่อไปสำรวจจริง ๆ ไม่พบร่องรอยว่ากำแพงถูกทำลายหรือว่ามีการขโมย ปรอทที่มีในหลุมก็ยังอยู่ ข้าพเจ้าสงสัยว่าเมื่อยังไม่ได้

(น.64) ขุดดูจะทราบได้อย่างไรว่ามีปรอท ท่านรองบอกว่าใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ คนที่สนใจศึกษาชื่อ ดร. หยางเจิ้งหนิง เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน กับลูกศิษย์ของเขา นักวิชาการกลุ่มนี้อยากขุดตรวจปฏิกิริยาใต้ดิน แต่การสำรวจลงทุนสูง และความคิดเห็นของนักวิชาการกลุ่มต่าง ๆ ยังไม่ตรงกัน รัฐบาลของมณฑลจึงกำลังพิจารณาโครงการพวกนี้ เรื่องของถูกขโมยหรือไม่เป็นข้อโต้แย้งสำคัญ ขโมยสมัยก่อนจะขโมยเฉพาะอาวุธเหล็ก ซึ่งเขาคิดว่าเป็นของมีค่าเอาไปใช้ได้ แต่พวกตุ๊กตาหุ่นซึ่งเป็นของสำคัญจริง ๆ ไม่ได้โดนขโมย วังโบราณที่เรียกว่าอาฝังกงกว้างใหญ่มาก ส่วนสำคัญอยู่ทางตะวันตกของซีอาน ห่างประมาณ 10 กิโลเมตร แต่เราไม่ทราบเรื่องอะไรมาก เนื่องจากสมัยราชวงศ์ฉินสั้นมาก และการรักษาโบราณวัตถุที่แล้วมาทำได้ดีมาก ความหวังของเราอยู่ที่การขุดสุสานฉินซื่อหวงตี้ (จิ๋นซีฮ่องเต้) มากกว่าการขุดพระราชวัง เนื่องจากตามธรรมเนียมเวลามีชีวิตอยู่ใช้ของอะไรเขาก็จะเอาของอย่างนั้นใส่ไว้ในสุสานเหมือนกัน ฉินซื่อหวงตี้อยู่ที่เสียนหยางนานที่สุด ที่เมืองเสียนหยางซึ่งก็ถูกทำลายไปมาก ถ้าดูในสุสานคงได้เห็นภาพฝาผนัง มีเอกสารประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าใต้สุสานมีสระน้ำ มีรูปสัตว์ทำด้วยทองคำ ถ้าขโมยจะขโมยก็คงเอาไปได้แต่ของทองคำ เอาภาพฝาผนังไปไม่ได้ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์เล่าว่า พิพิธภัณฑ์จะเปิดแสดงนิทรรศการพิเศษเรื่องเส้นทางแพรไหม จัดร่วมกับมณฑลกานซูและมณฑลซินเกียง นิทรรศการแบ่งเป็น 7 ภาค

(น.65)
ภาค 1 จางเซียนเดินทางไปตะวันตก
ภาค 2 เส้นทางสายตะวันตกเฉียงเหนือ
ภาค 3 อูฐและม้าทำด้วยเครื่องเคลือบ
ภาค 4 ประเพณีของสังคม
ภาค 5 อาหารในราชวงศ์ถัง
ภาค 6 พุทธศาสนา
ภาค 7 ดนตรีและฟ้อนรำ
ข้าพเจ้าถามว่านอกจากศาสนาพุทธแล้วได้ยินว่ามีอีกหลายศาสนามีร่องรอยทางโบราณคดีเหลืออยู่บ้างไหม ผู้อำนวยการอธิบายว่า ศาสนาพุทธมีอิทธิพลมากที่สุด นอกนั้นมีคริสต์นิกายเนสโตเรียน อิสลาม มานีเคียน (Manichaeanism) ลัทธิโซโรอาสเตอร์ (Zoroastrianism - ไหว้ไฟ) และลัทธิเต๋าของจีน มีจารึกเหลืออยู่ เมื่อพูดถึงเรื่องศาสนามานีเคียนนี้หลาย ๆ หน ก็เพิ่งจะนึกออกว่าตอนที่ไปฝรั่งเศสไปเที่ยวทางเขตภูเขาปิเรเน่ส์ มาดามบอนเนอวาลที่พาไปเล่าว่ามีลัทธิศาสนาคริสต์แบบนอกรีตนอกรอย เป็นความเชื่อที่ผสมกันระหว่างคริสต์กับลัทธิมานีเคียน ลัทธินี้มาปรากฏที่จีนอีก และมีผู้กล่าวถึงหลายครั้ง กลับมาจากจีนข้าพเจ้าจึงมาเปิดดูใน The Encyclopedia of Religion มีคำอธิบายยืดยาวพอจะสรุปได้ดังนี้ ศาสดาเจ้าลัทธินี้เกิดประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 3 ในเมโสโปเตเมีย มีคำสอนว่าโลกนี้ถูกครอบงำโดยวิญญาณที่ชั่วร้าย จะต้องเอาชนะความชั่วอันดำมืดนี้ด้วยแสงสว่าง ความเชื่อแบบนี้พบมากในศาสนาของเปอร์เซีย คัมภีร์ศาสนานี้พบมากแถวเมืองทู่หลู่ฟันในซินเกียง และที่ถ้ำตุนหวงเขียนเป็นภาษาเปอร์เซียสมัยกลาง ภาษาปาเถียน ภาษาจีน และภาษา

(น.66) เววูเอ๋อร์ มีประวัติกล่าวว่า เจ้าลัทธิได้เดินทางท่องเที่ยวไปไกลเพื่อเผยแพร่ศาสนาเข้าไปในอินเดีย เข้าในเขตที่พุทธศาสนาเผยแพร่อยู่แล้ว เข้าอิหร่านได้รับความเชื่อถือมาก ในคริสต์ศตวรรษที่ 3 และ 4 ได้แพร่ไปทางตะวันตกถึงจักรวรรดิโรมัน ไปทางอิยิปต์ แอฟริกาเหนือ ปาเลสไตน์ ซีเรีย เอเชียไมเนอร์ ตาลมาเชีย โรม ไปถึงตอนใต้ของฝรั่งเศสและสเปน ถูกผู้นับถือคริสต์ศาสนาต่อต้านมาก แต่แรกศาสนาอิสลามก็ไม่ได้ต่อต้านมาก เพิ่งมาต่อต้านทีหลัง จนต้องหนีไปตั้งศูนย์กลางศาสนาอยู่ที่ซามาร์คาน ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 7 ได้ไปถึงจีน โดยผ่านเมืองกาชการ์ คูเซอ เข้าไปในเอเชียกลาง มองโกเลีย และดินแดนที่เป็นของพวกอุยกูร์หรือเววูเอ๋อร์ จนถือได้ว่าเป็นศาสนาประจำรัฐเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 8 เมื่ออาณาจักรของพวกอุยกูร์ล่ม ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ลัทธินี้ไม่เป็นใหญ่อีกต่อไป และถูกต่อต้านมากในจีน ถึงอย่างนั้นก็คงมีอยู่จนคริสต์ศตวรรษที่ 14 ผู้นับถือเป็นพวกสมาคมลับ โดยนับถือไปพร้อม ๆ กับศาสนาพุทธ และเต๋า ที่เขียนมาอย่างยืดยาวนี้มิใช่ว่าข้าพเจ้าสนใจลัทธินี้เป็นพิเศษ แต่เห็นว่าเป็นตัวอย่างของการเดินทาง การถ่ายทอดลัทธิความเชื่อต่าง ๆ เข้ามาสู่จีน วิธีการนับถือศาสนา หรือความเชื่อในดินแดนแถบนี้ที่ถือปน ๆ กันหลายอย่าง ที่พิพิธภัณฑ์มีรูปม้าบินได้ทำด้วยทองสำริด ฉินซื่อหวงตี้ชอบขี่ม้าที่เรียกว่าเหอชูว (แปลว่าแม่น้ำคดเคี้ยว) ม้าพันธุ์นี้ดีมาก หายาก วิ่งไม่เร็วนัก แต่มีกำลังดี คนละพันธุ์กับม้าจากภาคตะวันตกที่เรียกว่าม้าสวรรค์ซึ่งวิ่งเร็วมาก ท่านรองบอกว่าเคยรับแขกมาหลายรายแล้วไม่เคยเห็นใครสนใจเท่าข้าพเจ้าเลย ที่ว่าจะเขียนหนังสือก็ดีมาก ท่านชักอิจฉา แต่ก่อนก็เขียน

(น.67) บทความ แต่ตอนนี้มีราชการมากเลยเขียนไม่ดี ผู้อำนวยการแนะนำว่าถ้าจะเขียนเรื่องซีอานควรจะต้องศึกษาบทกวีสมัยราชวงศ์ถัง และนำมาประกอบด้วยเรื่องจึงจะมีชีวิตชีวา เพราะกวีจะบรรยายได้ละเอียดเห็นภาพชัด เช่น อูฐเดินอย่างไร จะได้บรรยากาศดี เมืองทู่หลู่ฟัน มณฑลซินเกียง จะได้เห็นเมืองเก่าเกาชางกับเจียวเหอรักษาไว้ดีมาก ประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาล ท่านรองเองเพิ่งไปตุนหวงปีที่แล้วนี้เอง ถึงแม้ท่านจะไม่สันทัดในเรื่องศิลปะ แต่ดูแล้วก็ซาบซึ้งในความสามารถของบรรพบุรุษจีน ท่านรองเล่าให้ฟังว่าส่านซีมีสัตว์ที่ล้ำค่าของโลก มีหมีแพนด้าชนิดที่สีออกเหลือง หมีแพนด้าเล็ก ปีที่แล้วโรคระบาดทางการเลยเอาจากในป่ามารักษาที่สวนสัตว์ ปีก่อนออกลูกมา บริเวณที่เจอหมีอยู่ใกล้ ๆ ที่เกิดของจางเชียน อยู่อำเภอหนิงกู้ ที่ปรึกษากรมเอเชียที่มาด้วยจากปักกิ่ง มีความรู้เรื่องเส้นทางแพรไหมเช่นเดียวกัน เพราะท่านดูแลไปถึงปากีสถาน เล่าว่าสุสานเม่าหลิงที่จะไปดูเป็นของพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ สำคัญเพราะเป็นผู้ส่งจางเชียนไปตะวันตกสองครั้งในปี 139 ก่อนคริสตกาล และ 119 ก่อนคริสตกาล จางเชียนไปอิหร่าน แต่คนที่ไปภายหลังจางเชียนได้ไปถึงซาอุดิอาระเบีย ตามเส้นทางแพรไหมนั้น จีนได้แตงโม มะเขือเทศ มาจากตะวันตก ส่งดินประสิว เข็มทิศ การพิมพ์ เครื่องถ้วยชามไปตะวันตก การเอาแพรไหมไปตะวันตกไม่เสียหายอะไร เครื่องถ้วย (เซรามิก) มีการเสียหายมาก แต่ในการขุดค้นพบแพรไหมน้อย พบแต่เครื่องถ้วย


(น.68) รูป 56. ที่โรงแรมมีคนแสดงการวาดภาพต่าง ๆ ลงในเสื้อยืด
At the HOTEL: demonstration of the technique of painting on a T-shirt.

ที่มณฑลฮกเกี้ยนพบเรือโบราณมีเครื่องเคลือบมาก ที่กวางตุ้งก็พบเรือของราชวงศ์หยวน ข้อมูลต่างประเทศก็มีของที่พบในอ่าวไทย แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเครื่องถ้วยจีนจากฮกเกี้ยน กังไส เจ้อเจียง เสียเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนั้น (เปลี่ยนเรื่องพูด) ตามเส้นทางแพรไหมมีเหรียญทองเงิน มีเหรียญโรมันรูปซีซาร์ เหรียญเปอร์เซีย


(น.69) รูป 57. ดูของที่ร้านขายของที่ระลึก แต่ไม่ได้ซื้ออะไร
Shopping at the souvenir shop, I did not buy anything.

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วเดินออกไปข้างนอก ที่หน้าห้องอาหารมีช่างเขียนเสื้อยืดคนหนึ่ง เขาจะเขียนเป็นลายต่าง ๆ ตามที่เขามีตัวอย่างเอาไว้แก่ผู้ซื้อได้ทันที ขายตัวละ 20 หยวน เขาเขียนให้ข้าพเจ้า 2 ตัว เลยเดินดูของต่ออีกครู่หนึ่ง (ส่วนใหญ่ก็สำหรับเป็นของฝาก) Rubbing จารึกก็มีขาย แต่ไม่ได้ซื้อ