Please wait...

<< Back

เกล็ดหิมะในสายหมอก เล่ม 4 เฮยหลงเจียง วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2537

(น.40)กระเป๋าปักลายสวยงาม มีผ้าห่มหนังกวาง สำหรับห่มเวลาออกไปนอนกลางแจ้ง (กวาง roe deer) มีภาพถ่ายประกอบด้วย
เผ่าเอ้อเหวินเก่อ มีอาชีพจับปลา ใส่เสื้อหนังกวาง Elk มีเสื้อผ้าศาสนาซ่าหม่าน เครื่องใช้เช่น กลอง เข็มขัด มีภาพแสดงการรักษาเด็กที่ป่วย
เผ่าหม่าน
เผ่ามองโกล มีถ้วยชามต่างๆ ตั้งแสดงไว้
เผ่าตาเว่อร์ มีเครื่องปั่นด้าย เสื้อผ้า ด้านศาสนาและความเชื่อเรื่องบรรพบุรุษ ทำรูปคนด้วยหนังเรียกว่า ผีเหริน รถที่พวกโลโลและพวกมองโกลใช้บรรทุกของได้ประมาณ 1 ตัน ที่อาคารต้าเฉิงเตี้ยนจัดเป็นนิทรรศการขงจื้ออีก ทุกคนเร่งให้บรรยายน้อยๆ เพราะว่าก็ซ้ำกับที่จี๋หลินและหนาวเหลือเกิน ของไหว้ที่ตั้งหน้ารูปขงจื้อมีตุ๊กตารูปหมู วัว และแพะ


(น.41) รูป 60 วัดขงจื้อ ใช้เป็นที่จัดนิทรรศการเรื่องชนเผ่าต่างๆ แต่อากาศหนาวมากจนจดบันทึกอะไรก็ไม่ไหว

(น.41) ออกจากต้าเฉิงเตี้ยนมีต้าเฉิงเหมินมีสะพานและประตูใหญ่ แต่ไม่เปิดประตูออกอย่างจี๋หลิน เอาอิ่งปี้ (ฉาก) กั้นไว้ให้เราออกทางประตูข้างๆ ได้ยินเล่าว่าตามธรรมเนียมที่ไหนมีคนสอบจอหงวนได้จะเปิดประตูหน้า ที่เมืองนี้ไม่มีใครสอบได้


(น.42) รูป 61 วัดขงจื้อ ใช้เป็นที่จัดนิทรรศการเรื่องชนเผ่าต่างๆ แต่อากาศหนาวมากจนจดบันทึกอะไรก็ไม่ไหว

(น.42) นั่งรถกลับไปที่พักเพื่อใส่เสื้อผ้าให้หนาไปกว่าเดิม รถผ่านโรงแรมเป่ยฟางต้าซ่า ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าที่สุดในฮาร์บิน รีบเอาเสื้อชุดที่คิดว่าหนาที่สุดใส่ ใส่ถุงมือสองชั้น หมวก 3 ชั้น แล้วไปนั่งรถ แต่งเข้าไปแล้วมีความรู้สึกจะเป็นลมเพราะ


(น.43) รูป 62 วัดขงจื้อ ใช้เป็นที่จัดนิทรรศการเรื่องชนเผ่าต่างๆ แต่อากาศหนาวมากจนจดบันทึกอะไรก็ไม่ไหว

(น.43)ที่จริงมันก็ไม่ได้หนาวขนาดนั้น ยิ่งในรถมีเครื่องทำความอบอุ่นยิ่งแย่ จางจู่เริ่นบอกว่าหน้าที่เขาคือส่งเสริมการศึกษาสำหรับเด็กลูกชนกลุ่มน้อย เริ่มที่เด็กๆ ทุกคนต้องเข้าโรงเรียน 9 ปี ถือว่าพวกคนหนุ่มสาวต้องรู้หนังสือ ตั้งเป้าว่าคนอายุ 15-45 ปี ต้องอ่านหนังสือได้ ที่เฮยหลงเจียงนี้มีคนไม่รู้หนังสืออยู่ประมาณ 70,000 คน คนที่อายุเกิน 20 ปีประกอบอาชีพแล้ว กลางวันก็ทำนาประกอบอาชีพ กลางคืนเรียน สอนทั้งหนังสือและวิชาชีพ ฝึกหัดใช้เครื่องจักรการเกษตร การอุตสาหกรรม แต่ก่อนนี้การทำนาล้าหลัง มาช่วง 4 ปีนี้มีผลผลิตดี ที่ต้องสอนหนังสือด้วย เพราะคนที่ไม่รู้หนังสือจะไม่สามารถอ่านตำรับตำราการใช้เครื่องจักรเครื่องมือ เครื่องจักรช่วยให้ทำงานไถเพาะหว่านและเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น


(น.44) รูป 63 วัดขงจื้อ ใช้เป็นที่จัดนิทรรศการเรื่องชนเผ่าต่างๆ แต่อากาศหนาวมากจนจดบันทึกอะไรก็ไม่ไหว

(น.44)รัฐบาลลงทุนเรื่องการศึกษานี้มาก แต่ก่อนนี้เด็กที่อยู่ตามชายแดนได้เรียนหนังสือน้อยมาก หน้าหนาวก็ต้องปิดเรียน ปัจจุบันพยายามให้โอกาสพวกเด็กๆ นี้ คนไหนมีความสามารถก็ให้เรียนถึงขั้นมหาวิทยาลัย บางคนก็ไม่อยากเรียน ประกอบอาชีพก็ร่ำรวยดีอยู่แล้ว แถวนี้มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์มาก มีแร่ธาตุมากมาย มีทองด้วย ในบันทึกบอกไว้ว่าสมัยราชวงศ์ชิงเกณฑ์ส่วยทองจากชายแดนเรียกว่า จินเปียน (จิน = ทอง. เปียน = ชายแดน) พูดมาถึงตรงนี้รถขึ้นทางด่วน สองข้างทางเป็นนา แต่เวลานี้เห็นแต่หิมะปกคลุม รถเข้าเขตอำเภออาเฉิง เห็นต้นสนต้นหยางปลูกเป็นแนวเรียกว่า ฝางหู้หลิน เป็นป่ากันลมกันทราย ใช้ต้นหยาง ต้นสนชนิดผลัดใบ (ลั่วเย่) เป็นส่วนมาก นึกถึงโครงการของรัฐบาลจีนที่ศาสตราจารย์เฉินซู่เผิงเคยพาข้าพเจ้าดูนิทรรศการเมื่อ 2 ปีก่อน รัฐบาลส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อป้องกันลมกันทราย กันดิน


(น.45) รูป 64 วัดขงจื้อ ใช้เป็นที่จัดนิทรรศการเรื่องชนเผ่าต่างๆ แต่อากาศหนาวมากจนจดบันทึกอะไรก็ไม่ไหว

(น.45)ถูกกัดเซาะโดยลม (wind erosion) จากนั้นข้าพเจ้าขอต้นหยางไปปลูก นาบริเวณนี้แต่ก่อนเป็นคอมมูน ปัจจุบันไม่มีคอมมูนแล้ว มีแต่ฟาร์มของรัฐบาล รัฐบาลจ่ายเงินจ้างเหมือนจ้างคนงานในโรงงานอุตสาหกรรม ผลิตผลที่ได้ผลดีมากคือถั่วเหลือง ถั่วเหลืองชอบอากาศหนาวที่มีฝนมาก พันธุ์ถั่วที่ปลูกทางภาคเหนือเอาไปปลูกปักษ์ใต้ก็ไม่ได้ จีนเหนือส่งออกถั่วเหลืองมากที่สุด อีกอย่างที่ผลิตได้ดีคือหย่าหมา เป็นป่านชนิดหนึ่ง ปลูกที่อื่นไม่ได้ คนทางเหนือชอบความสนุกสนานร่าเริง ชอบร้องเพลงเต้นรำ มีเทศกาลน้ำแข็ง เทศกาลหิมะ มีการสมรสหมู่บนน้ำแข็ง ฤดูชิวเทียนมีการแสดงดนตรี ประกวดร้องเพลงจีนริมแม่น้ำซงฮัว หน้าร้อนว่ายน้ำเต้นดิสโก้ริมแม่น้ำ จะพิสูจน์ได้ว่าคนฮาร์บินชอบดนตรีกันแค่ไหนก็ต้องไปโรงเรียนอนุบาล

โรงเรียนประถม เรียกเด็กคนไหนออกมาร้องเพลงก็ร้องได้
(น.46) รูป 65 วัดขงจื้อ ใช้เป็นที่จัดนิทรรศการเรื่องชนเผ่าต่างๆ แต่อากาศหนาวมากจนจดบันทึกอะไรก็ไม่ไหว

(น.46) มีป่าใหญ่ 2 แห่ง เรียงกันอยู่เป็นรูปตัวอักษร (ตัวอักษรจีน) (เหริน) คือป่าต้าซิงอันหลิง กับเสี่ยวซิงอันหลิง ในป่ามีสนแดง สนโปร่ง เป็นพื้น ในฤดูร้อนทะเลสาบจิงโป๋หูเป็นทะเลสาบบนปล่องภูเขาไฟที่สวยงาม ส่วนทะเลสาบชิงไจ่หูอยู่ติดรัสเซีย รถข้ามทางรถไฟ ........ จางจู่เริ่นเล่าต่อ ต้นไม้ในมณฑลนี้มี 110 ชนิด การเกษตรมีหลายอย่าง ที่มีชื่อคือถั่วเหลือง ใช้ทำน้ำเต้าหู้และเต้าหู้แห้ง ทำน้ำเต้าหู้ผงชงน้ำ เอามาผสมกับนมส่งออก ทำอาหารก็ได้หลายอย่าง


(น.47) รูป 67 ไปถึงยู่ฉวน


รูป 66 ไปถึงยู่ฉวน

(น.47) ข้างทางมีร้านอาหารมากมาย ข้างหน้าแขวนโคมสีต่างๆ จำนวนโคมมากแปลว่าอาหารมาก โคมสีแดง แปลว่าอยากกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น โคมสีเหลืองแปลว่าขายอาหารเจ เจในที่นี้เป็นอาหารเจจริงๆ ไข่ไก่ นมไม่ได้ทั้งนั้น โคมสีฟ้าอาหารอิสลาม


(น.48) รูป 68 อาหารกลางวัน ตัดน้ำแข็งจากทะเลสาบมาแกะเป็นรูปปลา

(น.48) ผ่านบ้านพักคนชรา รัฐบาลดูแลอย่างดี มีกิจกรรมต่างๆ ทำ ข้าพเจ้าว่ากิจการบ้านพักคนชราก็เป็นสิ่งที่จำเป็น คนชราที่ไม่มีลูกหลานดูแลก็มีเพิ่มขึ้น บางคนก็มี แต่นิยมอยู่กับคนแก่ๆ ด้วยกันก็มี ถึงยู่ฉวน เขาตัดน้ำแข็งมาสลักเป็นรูปต่างๆ ตั้งบนโต๊ะอาหาร เพิ่งแกะเมื่อเช้านี้ดูก็สวยดี แต่มีปัญหาคือบังหน้าคนที่นั่งตรงกันข้าม ทำให้การสนทนามีรสชาติน้อยลง กับอีกอย่างหนึ่งคือมีที่วางอาหารน้อยลง คุณโป๋ซีหรูมาจากการท่องเที่ยวฮาร์บินมาคอยนั่งอธิบายอาหารวันนี้ผู้จัดคือคุณหลิวชิวหลานจาก China Harbin Modern

Next >>