<< Back
เกล็ดหิมะในสายหมอก เล่ม 3 จี๋หลิน วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2537
(น.42) รูป 78 พระตำหนักที่เคยประทับ
(น.42) ปี ค.ศ. 1924 ถูกขุนศึกเฝิงยู่เสียงไล่ออกจากวัง ได้ไปญี่ปุ่น และไปเทียนสินโดยมีญี่ปุ่นสนับสนุนให้ไปอยู่ในเขตเช่าญี่ปุ่น
ปี ค.ศ. 1931 เข้ามาทางภาคอีสานของจีน มีคนญี่ปุ่นสนับสนุน มาสร้างวังแห่งนี้เสร็จเมื่อ ค.ศ. 1932 ค.ศ. 1934 บรมราชาภิเษกครั้งที่ 2
มีภาพแต่งชุดมังกรอันเป็นชุดเดียวกันกับจักรพรรดิกวงซู่เคยแต่ง และอีกภาพหนึ่งแต่งชุดที่ญี่ปุ่นตัดให้ เป็นชุดสำหรับจอมทัพคุมกำลังทั้ง 3 ทัพ
อีกภาพไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิฮิโรฮิโต ภาพสถานีรถไฟ รูปหนังสือพิมพ์สมัยนั้น ปี ค.ศ. 1941 เกิดสงครามแปซิฟิก ยุทโธปกรณ์ขาดแคลน ปูยีต้องส่งปัจจัยสงครามไปให้ญี่ปุ่น ถึงเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1945
(น.43) รูป 79 ปูยีแต่งชุดที่ญี่ปุ่นตัดให้
(น.43) จักรพรรดิฮิโรฮิโตทรงประกาศยอมแพ้สงคราม 19 สิงหาคม ปูยีถูกจับ ทหารโซเวียตเป็นผู้จับที่สนามบินเสิ่นหยาง แต่แรกว่าจะหนีไปญี่ปุ่นแต่ไปไม่ทัน ปูยีเป็นเชลยศึกที่รัสเซียอยู่ 5 ปี
(น.44) รูป 80 รูปจากหนังสือพิมพ์
(น.45) รูป 81 เป็นพยานในศาลโลก
(น.45) ภาพตอนเป็นพยานให้ศาลโลกเรื่องญี่ปุ่นรุกรานจีนที่โตเกียว
ภาพกลับจากโซเวียต ไปอบรมที่จีนอีก 10 ปี ที่เมืองฟูซุ่น
(น.46) รูป 82 ภาพแสดงชีวประวัติของปูยีส่วนหนึ่ง
รูป 83 ภาพแสดงชีวประวัติของปูยีส่วนหนึ่ง
(น.47) รูป 84 ภาพแสดงชีวประวัติของปูยีส่วนหนึ่ง
(น.47) ภาพตอนที่โซเวียตส่งตัวมาที่จีน ฝ่ายจีนมารับก็ยอมให้ใส่กุญแจมือโดยดี และไปอยู่ที่สถานอบรม
เป็นคนที่หวาดกลัว อยู่สถานอบรม 10 ปี ต้องทำงานแบบนักโทษ ศึกษาแนวคิดสังคมนิยม ภาพไปดูงานเรื่องเครื่องจักรกลต่าง ๆ เขียนคำสารภาพผิดว่า “ข้าพเจ้ายอมรับผิด”
ช่วงที่มีการพิจารณาอาชญากรสงคราม ผู้นำจีนไปเยี่ยมจอมพลเห่อหลงไปกับผู่เจี๋ย ได้รับการอบรมทางการแพทย์เพิ่มเติมและช่วยตรวจรักษาผู้ป่วย ภาพญาติมาเยี่ยม
ปี ค.ศ. 1959 ได้รับอภัยโทษเป็นพิเศษ ปูยีซาบซึ้งจนร้องไห้ และแถลงว่าจะใช้ชีวิตบั้นปลายให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
9 พฤศจิกายน 1959 กลับไปอยู่กับครอบครัวที่ปักกิ่ง
ภาพโจวเอินไหลถ่ายกับครอบครัวปูยีเมื่อ ค.ศ. 1961
ปี ค.ศ. 1960 ไปอยู่หน่วยที่ 2 มีหน้าที่ทำสวนที่สวนพฤกษศาสตร์กรุงปักกิ่ง
(น.48) รูป 85 ภาพแสดงชีวประวัติของปูยีส่วนหนึ่ง
(น.48) ปูยีแต่งงาน จดทะเบียนสมรสกับหลี่ซูเสียน โดยที่รัฐบาลสนับสนุน นับเป็นภรรยาคนที่ 5 ขณะนั้นปูยีอายุ 56 หลี่ซูเซียนอายุ 37 มีภาพใบทะเบียนสมรสของทั้งสอง
ภาพตอนไปเยี่ยมครอบครัวน้องชาย
ภาพถ่ายกับเพื่อนฝูง
ปี ค.ศ. 1964 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ไปดูงานตามที่ต่าง ๆ ของจีน
เอาตู้มากั้นเป็นห้องเขียนหนังสือของปูยี มีบทนิพนธ์อัตชีวประวัติ ฉบับภาษาเยอรมัน Der letzte Kaiser von China และฉบับภาษาอังกฤษ From Emperor to Citizen
ภาพก่อนเสียชีวิต ปี ค.ศ. 1967 เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งไต เมื่ออายุ 61 ปี ถึงปี ค.ศ. 1980 รัฐบาลจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ
ก่อนหน้านั้นทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม อัฐิเก็บไว้ที่สุสานปาเป่าซาน ชานกรุงปักกิ่ง และมีการประเมินคุณค่าผลงานของท่านอย่างเป็นธรรม
(น.49) รูป 86 ในบริเวณตำหนักที่ประทับจัดเป็นห้องบรรทม
Next >>