Please wait...

<< Back

เกล็ดหิมะในสายหมอก เล่ม 3 จี๋หลิน วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2537


รูป 87 ทำหุ่นขี้ผึ้งเอาไว้

(น.49) ขึ้นบันไดไปดูห้องที่ปูยีเคยพักและจัดไว้อย่างเดิม มีห้องบรรทม ต้องห่มผ้าตลอดปี เพราะทางเหนือนี้อากาศหนาวมาก ผ้าห่มธรรมดาก็ไม่ชอบ ชอบห่มผ้าขนหนู ห้องหนังสือทำรูปหุ่นปูยีกำลังนั่งพูดกับชาวญี่ปุ่นที่มาควบคุม ห้องตัดผม ต้องให้ชาว


(น.50) รูป 88 ห้องพระ

(น.50) ญี่ปุ่นตัด ห้องพระ ตั้งแต่เล็ก ๆ นับถือศาสนาพุทธ มีปัญหาชีวิตใด ๆ ก็จะมาสวดมนต์อธิษฐาน ที่แปลกอย่างหนึ่งคือชอบเสี่ยงเซียมซี ถ้าเสี่ยงออกมาไม่ดีก็จะเสี่ยงไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลจะออกมาเป็นที่พอใจ ห้องสรง ห้องยา ปูยีมีความรู้เรื่องแพทย์จึงมีห้องเก็บตัวยามีค่าของจีน ผสมยาเสวยเองทุกวันเพื่อรักษาสุขภาพ ห้องยานี้ดูก็เหมือนร้ายขายยาจีนที่เคยเห็น ๆ กันคือมีลิ้นชักไม้ เขียนชื่อตัวยาแต่ละลิ้นชัก


(น.51) รูป 89 ห้องมเหสี

(น.51) ห้องพระมเหสีหว่านหรง ถึงจะอยู่ในตำหนักเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยอยู่ห้องเดียวกันและไม่ยอมมองหน้ากันเสียด้วยซ้ำไป เนื่องจากหว่านหรงทำสิ่งที่ปูยียอมให้อภัยไม่ได้คือเป็นชู้กับองครักษ์และมีลูกด้วยกัน บริเวณที่อยู่ของหว่านหรงจึงเรียกว่าตำหนักเย็น แปลว่า ถูกแช่เย็น มีห้องนอน ห้องเขียนหนังสือ หว่านหรงเป็นผู้มีความสามารถในด้านกวีนิพนธ์และเขียนภาพ แต่จิตใจฟุ้งซ่าน ภายหลังติดฝิ่น ต้องมีห้องสูบฝิ่น ในห้องทำรูปหว่านหรงนอนสูบฝิ่นอยู่บนโซฟา สูบวันละ 8 กระบอก ฝิ่น 2 ตำลึง แถมด้วยบุหรี่อีก 85 มวน นอนสูบจนเคลิ้ม เกิดวิปลาสฟั่นเฟือน ผมไม่สระ หน้าไม่ล้าง เดินเพ่นพ่าน และป่วยตายปี ค.ศ. 1946 ที่เมืองเหมียนจี๋ อายุ 46 ปี ตอนนั้นญี่ปุ่นหมดอำนาจไปแล้วรัฐบาลจีนเอาไปรักษาที่นั่น


(น.52) รูป 90 ห้องมเหสี


รูป 91 หุ่นขี้ผึ้งรูปพระสนมหว่านหรงตอนติดฝิ่น


(น.53) รูป 92 หุ่นขี้ผึ้งรูปพระสนมหว่านหรงตอนติดฝิ่น


รูป 93 หุ่นขี้ผึ้งรูปพระสนมหว่านหรงตอนติดฝิ่น

(น.53) ห้องของถานยู่หลิง เป็นสนมองค์ที่ 3 ซึ่งปูยีโปรดมาก เมื่อหว่านหรงฟั่นเฟือนไปแล้ว ปูยีแต่งงานกับคนที่ 3 นี้ ขณะนั้นเป็นเพียงนักเรียนมัธยมปักกิ่งอายุ 17 ปี เป็นคนอ่อนโยน เป็นภรรยาที่เอาใจสามี ทำรูปหุ่นกำลังถักเสื้อหนาวให้ปูยี ถานยู่หลิงอยู่ในวัง 5 ปี ค.ศ. 1942 ป่วยเป็นปอดบวม เสียชีวิตในห้องนี้เมื่ออายุ 22 ปี (สนมคนที่ 2 ไม่ได้อยู่ที่วังนี้ หย่ากันที่เทียนสิน) เมื่อถานยู่หลิงตายจึงได้สนมที่ 4


(น.54) รูป 94 พระสนมอีกคน

Next >>