Please wait...

<< Back

มหาวิทยาลัยนานกิง

จากหนังสือ

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 141-145

(น. 141) วันพุธที่ 7 เมษายน 2542
เช้านี้ผู้ว่าราชการมณฑลเจียงซูสั่งขนมชนิดหนึ่งเป็นแป้ง ทำเป็นลูกกลมๆ คลุกงา คุยกันเรื่องเหตุการณ์สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในตอนนี้คือ ท่านนายกรัฐมนตรีจูหรงจีเยือนสหรัฐอเมริกา เยือนตอนนี้ค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากมีเรื่องโคโซโวเป็นจุดสนใจของสหรัฐอเมริกา และยังมีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองประเทศ เช่น เรื่องที่สหรัฐอเมริกาประณามจีนเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และเรื่องที่กล่าวหาว่าจีนจารกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา หลังอาหารเข้า ไปมหาวิทยาลัยนานกิง อธิการบดียืนรับอยู่หน้าอาคารหรูซิงโหลว ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานสมาคมนิสิตเก่า ไปที่ห้องรับแขก อธิการบดีแนะนำผู้ที่มาร่วมต้อนรับ ตัวท่านเองเป็นศาสตราจารย์ทางด้านฟิสิกส์ ส่วนรองอธิบดีเป็นศาสตราจารย์ทางด้านธรณีวิทยา นอกจากนั้น มีผู้อำนวยการฝ่ายจีนของ Hopkins-Nanjing Center ผู้อำนวยการฝ่ายอเมริกันของศูนย์นี้ และฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย อธิการบดีกล่าวต้อนรับ และเล่าว่ามหาวิทยาลัยนี้ตั้งมาแล้ว 97 ปี ใน ค.ศ. 2002 ก็จะครบ 100 ปี ปัจจุบันมีนักศึกษาประจำ 13,000 คน นักศึกษา part-time 6,000 กว่าคน คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ 4,300 กว่าคน


(น. 142) รูป 116 มหาวิทยาลัยหนานจิง
At Nanjing University.

(น. 142) ก่อน ค.ศ. 1994 มหาวิทยาลัยแบ่งเป็นสองส่วนคือ มหาวิทยาลัยส่วนกลาง และมหาวิทยาลัยจินหลิง ทั้งสองส่วนมีพื้นฐานทางวิชาการที่มั่นคง มารวมกันเป็นมหาวิทยาลัยนานกิงทุกวันนี้ ปัจจุบันมีสถาบัน 14 แห่ง คณะวิชา 36 คณะครอบคลุมวิชาการสาขาต่างๆ ตั้งแต่เกษตรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และอื่นๆ ส่วนที่ได้เปรียบ คือ มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู ซึ่งมีทรัพยากรมนุษย์ดี ระดับการศึกษาจึงสูงกว่าที่อื่นๆ ในประเทศจีน ทำให้มหาวิทยาลัยนี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ มหาวิทยาลัยยังมี
(น. 143) อาจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับชาติ และมีห้องทดลองระดับชาติอีก 10 ห้องด้วย ห้องทดลองเหล่านี้มีประโยชน์ในการค้นคว้าวิจัยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิจัยพื้นฐานที่นี่ก้าวหน้ามาก มีชื่อเสียงติดอันดับของประเทศต่อเนื่องกันถึง 6 ปีแล้ว มีการพิมพ์วิทยานิพนธ์และรายงานการวิจัยเผยแพร่ทั้งในและนอกประเทศ จึงมีบทบาทด้านการอุดมศึกษาระหว่างประเทศด้วย อนึ่ง รายงานและวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยนั้นใช้อ้างอิงในวงวิชาการททั้งในและนอกประเทศจนติดอันดับหนึ่งต่อกัน 4 ปี มหาวิทยาลัยมีหน่วยงานพิเศษ เช่น Hopkins-Nanjing Center เป็นการร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ของสหรัฐอเมริกา ตั้งมา 13 ปีแล้ว รับนักศึกษาปีละ 100 คน ผลิตบัณฑิตแล้วกว่า 1,000 คน ออกไปทำงานตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งในสหรัฐอเมริกา จีน ไต้หวัน และฮ่องกง อดีตอธิการบดีได้เริ่มโครงการทำหนังสือประวัตินักคิดจีน หนังสือชุดนี้ถ้าทำเสร็จจะมี 200 เล่ม แต่ละเล่มจะแนะนำนักคิดแต่ละคน เริ่มตั้งแต่ขงจื๊อไปจนถึงซุนยัดเซ็น ดำเนินการไปแล้วได้ครึ่งหนึ่งคือประมาณ 100 เล่ม เดือนพฤษภาคมจะแถลงข่าวเรื่องนี้ที่ฮ่องกง มหาวิทยาลัยมีบทบาทสำคัญทางด้านการวิจัย จึงเป็นที่น่าสนใจของวงการศึกษาต่างประเทศ มีการติดต่อกับหน่วยงานในมหาวิทยาลัยต่างประเทศทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง ยังมีวิทยาเขตใหม่อยู่ทางเหนือของแม่น้ำแยงซี มีนักศึกษา 5,000 คน
(น. 144) ข้าพเจ้าขอบคุณอธิการบดีและคณะที่มาต้อนรับ การมาครั้งนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักมหาวิทยาลัยในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอีกแห่ง หนึ่ง มหาวิทยาลัยทั้งของไทยและของจีนต้องพัฒนาอย่างมากเพื่อเป็นแกนนำการพัฒนาบ้านเมืองต่อไป เมื่อคืนท่านผู้ว่าราชการมณฑลเล่าความเป็นมาของมณฑลว่า มีความเจริญรวดเร็ว ผู้คนมีฐานะดีแต่ก็ยังมีบางส่วนที่เป็นปัญหา การแก้ไขก็ต้องให้มหาวิทยาลัยช่วยคิดแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพของพื้นที่ เพื่อให้สามารถช่วยตนเองได้ มีความเจริญก้าวหน้า มหาวิทยาลัยทำหน้าที่ติดต่อกับประชาชนผู้อยู่ในวัฒนธรรมเดิม และติดต่อกับประเทศต่างๆ ในโลก เพื่อเรียนรู้ถึงมาตรฐาน ความเป็นไปในประชาคมระหว่างประเทศ และการเรียนรู้เทคโนโลยีนานา แล้วประสานกันเพื่อให้เกิดความสุขความเจริญก้าวหน้าไปพร้อมๆ กัน อธิการบดีกล่าวว่า ที่กล่าวมานี้นับว่าสำคัญมาก แม้ว่ามหาวิทยาลัยนี้ขึ้นตรงกับรัฐบาลกลาง แต่ก็ตระหนักว่าจำเป็นต้องถือการพัฒนาท้องถิ่นเป็นสำคัญ รัฐบาลท้องถิ่นช่วยสนับสนุนมหาวิทยาลัยมาตลอด นอกจากต้องผลิตนักศึกษาให้มีคุณภาพแล้ว ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์จะต้องช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลเจียงซูด้วย มหาวิทยาลัยร่วมมือกับมณฑลจัดตั้งวิสาหกิจที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงหลายแห่ง นักศึกษาที่รับเข้ามาเป็นชาวมณฑลนี้ร้อยละ 65 จะพยายามผลิตบัณฑิตให้มีคุณภาพมากขึ้น และหวังว่าผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์จะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑล มหาวิทยาลัยยังมีสถาบันการศึกษาโพ้นทะเลด้วย สถาบันนี้ต่างจาก Hopkins-Nanjing Center เพราะรับนักศึกษา
(น. 145) ต่างประเทศเข้าเรียนด้านกฎหมาย ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม รัฐศาสตร์ ปรัชญา และศาสนา มีส่วนน้อยที่เรียนทางวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยจะยินดีถ้าประเทศไทยส่งนักศึกษามาเรียนที่นี่บ้าง จะได้มีส่วนทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้น ข้าพเจ้าถามว่า มหาวิทยาลัยมีความสัมพันธ์กับฝ่ายอุตสาหกรรมอย่างไรบ้าง อธิการบดีกล่าวว่าเป็นคำถามที่ดี และเล่าว่าแต่ก่อนมหาวิทยาลัยเน้นแต่เรื่องการวิจัยพื้นฐาน ภายหลังเห็นว่าจะต้องผลิตบุคลากรสำหรับเข้าทำงานได้จริง จึงทำวิจัยประยุกต์มากขึ้น ความสัมพันธ์กับฝ่ายอุตสาหกรรมมีหลายแบบ คือ
1. รับโครงการวิจัยมาทำ ทางฝ่ายอุตสาหกรรมให้ทุนค้นคว้าวิจัย
2. ถ่ายโอนผลงานค้นคว้าของมหาวิทยาลัยเองให้ฝ่ายอุตสาหกรรม
3. ผลิตบุคลากรให้ฝ่ายอุตสาหกรรมตามที่ขอมา
4. ร่วมมือกับฝ่ายอุตสาหกรรมตั้งวิสาหกิจที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง เมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมมือกับหน่วยงานของมณฑลตั้งบริษัท SOFT ขึ้น เพื่อช่วยพัฒนา software ของมณฑล หวังว่าจะเป็นวิสาหกิจที่สำคัญทางด้านสารสนเทศของมณฑลต่อไป
ที่จริงถ้าจะสนทนาต่อไปก็คงจะได้ แต่จะเสียกำหนดการไปหมด ข้าพเจ้าจึงบอกว่าไม่มีเรื่องอะไรพูดแล้ว ท่านอธิการบดีบอกว่าพอดีท่านติดงาน จะให้ท่านรองอธิการบดีเป็นผู้ตามข้าพเจ้าไป Hopkins-Nanjing Center