<< Back
หมาต้มเค็ม
จากหนังสือ
ย่ำแดนมังกร
ย่ำแดนมังกร หน้า 290-293
(น.290)รายการต่อไปนั้นเขาเขียนในเมนูว่า braised dog meat หรือ หมาต้มเค็ม อาหารจานนี้ก่อให้เกิดความวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ในโต๊ะมีปีจอตั้ง 5 คนคือคุณพูนเพิ่ม ท่านหญิงมณีรัตน์ ท่านประธานกรรมการปฏิวัติ และภรรยา และอาจารย์สารสิน (คนละรอบ) ท่านผู้หญิงมณีรัตน์อ้างว่าเป็นคนปีจอจึงไม่ยอมรับประทานหมา ท่านผู้หญิงสุประภาดาบอกว่าเป็นรักหมา แม้ไม่ใช่คนปีหมาก็ไม่อยากจะกินหมา ส่วนคนอื่นนั้น แม้จะปีหมาแต่ก็เห็นเคี้ยวหมาตุ้ยๆ
(น.291) รูป 132 จับตุ๊กแก (เป็น) ก่อนกินตุ๊กแก (ที่ตายแล้ว)
(น.292)รูป 133 ถืกตุ๊กแก โปรดสังเกตว่าในชามตรงหน้าคือซุปตุ๊กแก
(น.292) ตัวข้าพเจ้าเอง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้กินหมา (อย่างเป็นทางการ) จึงไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร ครั้งแรกนั้นข้าพเจ้ารับประทานตอนที่ไปโครงการชลประทานแถวๆ จังหวัดเชียงราย มีพวกฮ่อเขาไปซื้อหมาของอีก้อ แล้วต้มเค็มกับเครื่องยาจีนซึ่งเขาบอกว่าแพงมากตอนนั้นข้าพเจ้ารับประทานไป 5 ชิ้น รู้สึกว่าไม่อร่อยเป็นพิเศษเพราะเนื้อหมามีลักษณะคล้ายๆ เนื้อหมู มีมันมากกว่า แล้วเหนียวด้วย เนื้อหมาที่จีนอร่อยดีมาก ไม่เหนียว รสกลมกล่อม ข้าพเจ้าจึงรับประทานหมดจาน คนที่ดีใจว่าได้รับประทานหมาอีกคนคือ
(น.293)คุณหมอดนัย คราวที่แล้วรู้สึกเสียเปรียบข้าพเจ้า เพราะไปออกหน่วยแพทย์เสียอีกทางหนึ่ง ผู้ที่ไม่ยอมรับประทานอีกคนคือ ป้าจัน เพราะไปเห็นหมาดำกระดุกกระดิกอยู่เรื่อยๆ ท่านผู้ว่าฯ อธิบายว่า สุนัขที่ใช้ต้องมีอายุ 5-6 เดือน เป็นหมาดำถึงจะดี
จัดหมวดหมู่สารสนเทศ
หมาต้มเค็ม
ลักษณะเนื้อหมา
เนื้อหมามีลักษณะคล้ายๆ เนื้อหมู มีมันมากกว่า แล้วเหนียว[1]
รสชาติหมาต้มเค็ม
braised dog meat หรือ หมาต้มเค็มที่จีนอร่อยดีมาก ไม่เหนียว รสกลมกล่อม ข้าพเจ้าจึงรับประทานหมดจาน[2]
หมาที่สามารถทำหมาต้มเค็มได้
ท่านผู้ว่าฯ อธิบายว่า สุนัขที่ใช้ต้องมีอายุ 5-6 เดือน เป็นหมาดำถึงจะดี[3]
ความรู้สึกการรับประทานหมาต้มเค็ม
หมาต้มเค็ม อาหารจานนี้ก่อให้เกิดความวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ในโต๊ะมีปีจอตั้ง 5 คนคือคุณพูนเพิ่ม ท่านหญิงมณีรัตน์ ท่านประธานกรรมการปฏิวัติ และภรรยา และอาจารย์สารสิน (คนละรอบ) ท่านผู้หญิงมณีรัตน์อ้างว่าเป็นคนปีจอจึงไม่ยอมรับประทานหมา ท่านผู้หญิงสุประภาดาบอกว่าเป็นรักหมา แม้ไม่ใช่คนปีหมาก็ไม่อยากจะกินหมา ส่วนคนอื่นนั้น แม้จะปีหมาแต่ก็เห็นเคี้ยวหมาตุ้ยๆ ตัวข้าพเจ้าเอง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้กินหมา (อย่างเป็นทางการ) จึงไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร ครั้งแรกนั้นข้าพเจ้ารับประทานตอนที่ไปโครงการชลประทานแถวๆ จังหวัดเชียงราย มีพวกฮ่อเขาไปซื้อหมาของอีก้อ แล้วต้มเค็มกับเครื่องยาจีนซึ่งเขาบอกว่าแพงมากตอนนั้นข้าพเจ้ารับประทานไป 5 ชิ้น รู้สึกว่าไม่อร่อยเป็นพิเศษ คนที่ดีใจว่าได้รับประทานหมาอีกคนคือคุณหมอดนัย คราวที่แล้วรู้สึกเสียเปรียบข้าพเจ้า เพราะไปออกหน่วยแพทย์เสียอีกทางหนึ่ง ผู้ที่ไม่ยอมรับประทานอีกคนคือ ป้าจัน เพราะไปเห็นหมาดำกระดุกกระดิกอยู่เรื่อยๆ[4]
อ้างอิง
1. ย่ำแดนมังกร หน้า 292
2. ย่ำแดนมังกร หน้า 290,292
3. ย่ำแดนมังกร หน้า 293
4. ย่ำแดนมังกร หน้า 290,292,293