Please wait...

<< Back

ภาษาไต่

จากหนังสือ

ย่ำแดนมังกร

ย่ำแดนมังกร หน้า 300-303,319

(น.300) วันนี้ตั้งแต่เช้าก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมการอวยพรท่านผู้หญิง ยังให้ของขวัญไม่ได้ เพราะยังเซ็นกันไม่ครบ พี่อู๋เขียนคำอวยพรและชื่อพวกเราเป็นภาษาจีน เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ถึงเวลาที่จะไปชมป่าหิน ซึ่งใครๆ บอกกับข้าพเจ้าว่าสวยนักสวยหนา ผู้ที่มารับจะไปชมป่าหินวันนี้คือท่านท้าวราชวงศ์ ซึ่งเป็นชาวไต่ มาจากแคว้นสิบสองปันนาเดิมท่านเป็นประธานคณะกรรมการปฏิวัติของสิบสองปันนา ตอนที่ญี่ปุ่นบุกถึงสิบสองปันนา ปลาย 1944 ถึงต้น 1945 มีการสู้รบท่านก็ได้สู้ด้วย เมื่อค.ศ. 1977 ย้ายมารับตำแหน่งรองผู้ว่าราชการมณฑลอยู่ที่คุนหมิง ท่านบอกว่าคุนหมิงถึงสิบสองปันนาระยะทาง 700 กว่ากิโลเมตร ท่านเล่าว่า อาชีพของประชาชนที่สิบสองปันนา นอกจากการเกษตรมีการทอผ้า การสาน การแกะสลักและปัก บ้านเรือนราษฎรทำด้วยไม้มีเสาสูง ใช้รถม้า มีงานอีกอย่างคือการทำป่าไม้และมีป่าทึบเขตสงวนพันธุ์พืชของรัฐบาล สองข้างทางมีคนขี่ควายและจูงควายเดินไปเดินมา ถามจากท่านท้าวฯ ท่านบอกว่าที่นี่เวลาทำนาเขาไถนาเสียก่อน ตอนนั้นยังปล่อยน้ำเข้านาไม่มากนัก แล้วจึงปล่อยน้ำเข้าให้มากขึ้นอีกหน่อยแล้วคราดอีก 3 ครั้ง ด้วยวิธี “เล่นสกี” อย่างที่ได้กล่าวแล้วในตอนที่เขียนถึงเมืองเสฉวน ต้นไม้ที่ปลูก 2 ข้างทางส่วนใหญ่จะเป็นต้น อัน หรือต้นยูคาลิปตัส ซึ่งชาวไต่เรียกว่าต้นใบหอม มีการปลูกตามคันนา ทำ

(น.301) รูป 135 อ่างเก็บน้ำอีกแห่ง ถ่ายจากหน้าต่างรถ

(น.301) สวนท้อและข้าวสาลี ก็ปนกันลงไปในบริเวณใกล้ๆ นั้น ส่วนมากข้าวสาลีเขาจะปลูกใต้ต้นท้อนั่นเอง ในนาบางที่ปลูกบัว ซึ่งท่านท้าวฯ ออกเสียงเป็น โบ ซึ่งเขาปลูกขายทั้งดอกทั้งฝัก น้ำแถวนี้ได้จากอ่างเก็บน้ำ ซงหมง ซึ่งสร้างมากว่า 20 ปีแล้ว ที่สูงๆ ตามไหล่เขาก็ปลูกโดยการส่งน้ำขึ้นไป ไกลออกไปอีกมีเขื่อนดินใหญ่และอ่างเก็บน้ำชื่อว่าอ่าง ซุงโหม (ห เป็นอักษรนำ) อ่างนี้เก็บน้ำได้ประมาณล้านกว่าลูกบาศก์เมตรเขาถือว่าเป็นอ่างขนาดเล็ก มีเหมืองส่งน้ำไปเข้าไร่นา (น้ำเหมืองนี้

(น.302) รูป 136 พักผ่อนระหว่างการเดินทางไปป่าหิน แต่อาจารย์สารสิน และท่านทูตอาจจะปรึกษาอะไรอย่างเครางเครียด (ดูจากภาพ)

(น.302) ภาษาไต่ออกเสียงว่าน้ำ เหมิง) สังเกตเห็นว่าแถวนี้เป็นเขตหินปูนทั้งนั้น ถนนที่เราแล่นอยู่นี้ เป็นถนนยางมะตอย ซึ่งเรียบดีมาก ข้างถนนมีทรายกองอยู่สำหรับซ่อมถนนที่ชำรุด เห็นคนเดินมาข้างทางหาบกระบุงด้วยไม้คาน ข้างหนึ่งเอาลูกใส่ไว้กระบุงอีกข้างใส่ของ

(น.303) ท่านท้าวฯ เล่าว่าควายเป็นของคอมมูนแต่คอมมูนจะให้ชาวนาเลี้ยงตามบ้านควายที่เป็นของ ชาวนาเองก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกลุ่มน้อย ส่วนมากจะเลี้ยงของตนเอง รถไถเป็นของคอมมูนก็มี ของส่วนตัวก็มี ถ้าเป็นของชาวนา ถ้าคอมมูนจะขอยืมก็ต้องให้ค่าเช่า ผู้ที่มีรถไถเองมักจะต้องซื้อน้ำมัน ซึ่งไม่ใช่คอมมูน แต่เป็นของรัฐบาล คอมมูนเองก็ต้องซื้อน้ำมันรัฐบาล โรงสีจะเป็นของกองการผลิต (เซิง ฉาน ตุ้ย) บางโรงก็เป็นของรัฐบาล โรงสีขนาดเล็กมีตามหมู่บ้าน เช่น เขตสิบสองปันนามี่ทั้งครกกระเดื่องที่ใช้เท้าเหยียบและแบบใช้มือตำ นั่งรถตั้งนานแล้วไม่มีทีท่าว่าจะถึงได้ ชักไม่มีเรื่องจะคุยแล้วท่านท้าวราชวงศ์ไม่ได้ช่างคุยเท่าไร จึงให้ท่านสอนภาษาไต่ ถามว่าคำนั้นแปลว่าอะไร คำนี้แปลว่าอะไร เช่น ม้า ไต่ว่า หม่า วัว ว่า โว ไก่ ว่า ไก่ ไข่ ว่า ไข่ ช้าง ว่า จ๊าง เสือ ว่า เสือ คำว่าช่วยกัน ภาษาไต่ว่า เติบจ้วย เติบเลื่อน หรือเติบหัน ทางไกลว่า ตางไก่ พอดีรถเลี้ยวเข้าที่จอดรถ ซึ่งเขาบอกว่ายังไม่ถึงที่เราจะไป แต่เป็นครึ่งทางพอดี เขาพาเข้าที่นั่งพักกินผลไม้ตามธรรมเนียม ที่ตรงนี้เป็นทะเลสาบ หยางจงไห่ เป็นทะเลสาบธรรมชาติ ท่านท้าวฯ รีบอธิบายว่าเป็นน้ำสมุทร ศัพท์คล้ายๆ กันนี้พอจะพูดกันเข้าจริงกลับไม่รู้เรื่อง ต้องใช้ล่ามจนได้ ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกคนคงจะเซ็นชื่อใน “ของขวัญ” ท่านผู้หญิงสุประภาดาครบทุกคนแล้ว จึงทำพิธีมอบพร้อมทั้งกล่าวอวยพรว่า “เซิง รื่อ ไคว่ เรื่อ” แปลว่า สุขสันต์วันเกิด

(น.319) คุยไปมาท่านท้าวฯ ก็สอนภาษาไต่ว่า ลูกท้อ เรียกว่า หมากของ สาลี่ เรียกว่า หมากก่อ เรากินแอปเปิ้ลทุกวันเลยถามแกว่า แล้วแอปเปิ้ลนี่ภาษาจีนจะว่าอย่างไร ท่านท้าวฯหัวเราะบอกว่าเห็นจะเรียกว่า หมากผิงกว่อ (ภาษาจีน) เป็นอันว่าไม่มีชื่อเรียกในภาษาไต่ คำว่า อะไร ภาษาไต่ว่า ว่า บอสัง กระบุงข้าวว่า บุงข้าว ยุ้งข้าวว่า เยข้าว เมื่อรถไปถึงทะเลสาบก็หยุดพักกินแอปเปิ้ล และเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย มองดูที่ทะเลสาบเห็นเขาทำนาไปจนติดน้ำ คุณหวังไปเก็บดอกไม้มาจากไหนก็ไม่ทราบช่อเบ้อเริ่มมาให้ หมอดนัยถ่ายรูปไม่ทันก็เลยบอกให้ข้าพเจ้าคืนคุณหวัง แล้วให้คุณหวังให้ใหม่จึงถ่ายรูปสำเร็จ เมื่อถึงเวลาไปขึ้นรถใหม่ ท่านท้าวฯ เล่าให้ฟังว่ามีการปลูกป่าสนเพื่อกรีดยางสน ยูนนานทำไม้ได้เป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ อันดับหนึ่งนั้นอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอันดับสองเป็นมณฑลเสฉวน ในยูนนานมีโรงงานบ้างแต่ทำไม่มาก ข้าพเจ้าเห็นว่ามีทั้งข้าวเจ้าและข้าวสาลีอยู่ในเวลาเดียวกัน เลยสงสัยว่าฟางข้าวเจ้าและข้าวสาลีนี่เหมือนกันหรือเปล่า ท่านท้าวฯ บอกว่าไม่เหมือนกัน ฟางข้าวสาลีเอามาม้วนทำเป็นอะไรต่อมิอะไรได้และมุงหลังคาได้เพราะแข็ง ส่วนฟางข้าวเจ้าเอาไว้ให้สัตว์กิน ข้อสังเกตคือเตี่ยเมืองนี้เก่งมาก เวลาถามอะไรที่ท่านท้าวฯ ไม่ทราบจะตอบว่าอะไร ท่านหันไปถามเตี่ย เตี่ยตอบได้ทุกที


จัดหมวดหมู่สารสนเทศ

ภาษาไต่

ตัวอย่างภาษาไต่

พืชพันธุ์

ต้นยูคาลิปตัส ชาวไต่เรียกว่าต้นใบหอม[1]
บัว ออกเสียงเป็น โบ[2]
ลูกท้อ เรียกว่า หมากของ
สาลี่ เรียกว่า หมากก่อ[3]

สัตว์

ม้า ไต่ว่า หม่า
วัว ว่า โว
ไก่ ว่า ไก่
ไข่ ว่า ไข่
ช้าง ว่า จ๊าง
เสือ ว่า เสือ[4]

คำอื่นๆ

น้ำ ออกเสียงว่า เหมิง[5]
ทางไกล ว่า ตางไก่
คำว่าช่วยกัน ภาษาไต่ว่า เติบจ้วย เติบเลื่อน หรือเติบหัน[6]
คำว่า อะไร ภาษาไต่ว่า ว่า บอสัง
กระบุงข้าว ว่า บุงข้าว
ยุ้งข้าว ว่า เยข้าว[7]
คำที่ไม่มีในภาษาไต๋
เรากินแอปเปิ้ลทุกวันเลยถามแกว่า แล้วแอปเปิ้ลนี่ภาษาจีนจะว่าอย่างไร ท่านท้าวฯหัวเราะบอกว่าเห็นจะเรียกว่า หมากผิงกว่อ (ภาษาจีน) เป็นอันว่าไม่มีชื่อเรียกในภาษาไต่[8]


อ้างอิง

1. ย่ำแดนมังกร หน้า 300
2. ย่ำแดนมังกร หน้า 301
3. ย่ำแดนมังกร หน้า 319
4. ย่ำแดนมังกร หน้า 303
5. ย่ำแดนมังกร หน้า 302
6. ย่ำแดนมังกร หน้า 303
7. ย่ำแดนมังกร หน้า 319
8. ย่ำแดนมังกร หน้า 319