Please wait...

<< Back

พิพิธภัณฑ์นครคุนหมิง

จากหนังสือ

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย
ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 4,6

(น.4) บ่ายสามโมงเดินไปที่สถานกงสุลไทย ซึ่งเช่าที่ของโรงแรมคุนหมิง เพิ่งจัดเสร็จใหม่ๆ ด้านพาณิชย์ก็อยู่ด้วยกันที่นี่ รองผู้อำนวยการวิเทศสัมพันธ์ชมว่าทั้งกงสุลและรองกงสุลพูดภาษาจีนได้ดี ทำให้ติดต่อง่าย ดีทุกด้าน แล้วไปที่พิพิธภัณฑ์นครคุนหมิง สร้างเมื่อไรก็ไม่ทราบต้องกลับไปดูหนังสือนำเที่ยวอาจจะมีบอกไว้ แต่เรายังไม่เคยดู เมื่อมาคราวที่แล้วได้ไปแต่พิพิธภัณฑ์ชนเผ่า ที่ไปเพราะปีเตอร์บอกว่ามีเสา Dharani Pillar น่าสนใจ เสานี้สูง 6.6 เมตร มีบทความของ Louis Finot ที่ลงใน Bulletin EFEO อธิบายไว้ ดูรูปร่างคล้ายๆ เจดีย์จีน มี 9 ชั้น มีรูปจตุโลกบาล พระโพธิสัตว์ มีจารึกจีน และจารึกภาษาสันสกฤต ประพจน์ว่าเป็นคาถา ข้างบนเป็นหยดน้ำ ผู้อธิบายย้ำว่าไม่มีอิทธิพลนิกายทิเบต เป็นพุทธศาสนาแบบจีน แต่ดูๆ ก็เหมือนกับมีอิทธิพล เป็นสมบัติของเจ้าแห่งแคว้นต้าลี่ สร้างราวสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 937-1253) ดูเหมือนว่าเสาหินตั้งอยู่ตรงนี้นานแล้ว นครคุนหมิงสร้างพิพิธภัณฑ์คลุมทับเพื่อรักษาเสานี้ ในพิพิธภัณฑ์ยังมีแผนกต่างๆ อีก ที่เราไปดูเป็นแผนกเครื่องสำริด มีของแปลกๆ สมัยจ้านกว๋อที่ไม่เคยเห็นที่อื่น ดูเหมือนว่าจะเป็นลักษณะพิเศษของท้องที่นี้ เช่น ปลอกดาบมีลวดลายคล้ายๆ กับศิลปะ Précolumbien ทางอเมริกากลางและอเมริกาใต้ หีบใส่เงินเบี้ยมีฝาเป็นรูปควาย คนขี่ม้า เป็นของที่ได้มาจากสุสาน เครื่องอาวุธต่างๆ เครื่องมือเครื่องใช้ เช่น กระสวยทอผ้า เคียวเกี่ยวข้าว ระฆัง ตะเกียงนกยูง 3 ขา และอื่นๆ
(น.4) รูป 3 เสาธรณีที่มีชื่อเสียงของคุนหมิง
(น.6) พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีแผนกประวัติของเมือง แผนกธรรมชาติวิทยา (ไดโนเสาร์)



จัดหมวดหมู่สารสนเทศ



พิพิธภัณฑ์นครคุนหมิง

สร้างเมื่อไรก็ไม่ทราบต้องกลับไปดูหนังสือนำเที่ยวอาจจะมีบอกไว้[1]

ภายในพิพิธภัณฑ์



เสา Dharani Pillar

มีเสา Dharani Pillar น่าสนใจ เสานี้สูง 6.6 เมตร มีบทความของ Louis Finot ที่ลงใน Bulletin EFEO อธิบายไว้ ดูรูปร่างคล้ายๆ เจดีย์จีน มี 9 ชั้น มีรูปจตุโลกบาล พระโพธิสัตว์ มีจารึกจีน และจารึกภาษาสันสกฤต ประพจน์ว่าเป็นคาถา ข้างบนเป็นหยดน้ำ ผู้อธิบายย้ำว่าไม่มีอิทธิพลนิกายทิเบต เป็นพุทธศาสนาแบบจีน แต่ดูๆ ก็เหมือนกับมีอิทธิพล เป็นสมบัติของเจ้าแห่งแคว้นต้าลี่ สร้างราวสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 937-1253) ดูเหมือนว่าเสาหินตั้งอยู่ตรงนี้นานแล้ว นครคุนหมิงสร้างพิพิธภัณฑ์คลุมทับเพื่อรักษาเสานี้[2]

แผนกเครื่องสำริด

ในพิพิธภัณฑ์ยังมีแผนกต่างๆ อีก ที่เราไปดูเป็นแผนกเครื่องสำริด มีของแปลกๆ สมัยจ้านกว๋อที่ไม่เคยเห็นที่อื่น ดูเหมือนว่าจะเป็นลักษณะพิเศษของท้องที่นี้ เช่น ปลอกดาบมีลวดลายคล้ายๆ กับศิลปะ Précolumbien ทางอเมริกากลางและอเมริกาใต้ หีบใส่เงินเบี้ยมีฝาเป็นรูปควาย คนขี่ม้า เป็นของที่ได้มาจากสุสาน เครื่องอาวุธต่างๆ เครื่องมือเครื่องใช้ เช่น กระสวยทอผ้า เคียวเกี่ยวข้าว ระฆัง ตะเกียงนกยูง 3 ขา และอื่นๆ[3]

แผนกอื่นๆ

พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีแผนกประวัติของเมือง แผนกธรรมชาติวิทยา (ไดโนเสาร์)[4]

อ้างอิง

1. ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 4
2. ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 4
3. ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 4
4. ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 5