<< Back
ทิเบต
ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 235-236,238,241,245
(น. 336) รูป 225 กลอง
A drum.
(น. 336) อุปกรณ์ดนตรีและเครื่องประกอบการแสดงของเผ่าต่างๆ เช่น อุปกรณ์สำหรับเล่นสิงโต กลองเพลในวัดของพวกไต่ ระนาดเหล็กของพวกไต่เอวลาย แคนของพวกแม้ว กลองชุดเป็นแถว 5 ใบของพวกว้า
ขึ้นไปชั้นบน มีระฆังชุดและกลองมโหระทึกสำริดของพวกจ้วงและพวกไต่
เครื่องเป่า เช่น ขลุ่ยชนิดต่างๆ เครื่องเป่าทำด้วยน้ำเต้า โหวดดินเผาทำเป็นรูปสัตว์เป่าได้ (โหวดเป็นเครื่องดนตรีที่คล้ายแคนในในอีสานของไทยก็มี) ปี่ มีปี่ที่ลิ้นทำด้วยทองแดง ปี่ของทิเบต แคนแบบต่างๆ
(น. 337) เครื่องสี มีสะล้อหรือซอที่กะโหลกทำด้วยเขาวัว น้ำเต้า และกะลามะพร้าว ซอซึ่งมีลักษณะเหมือนซอด้วงทำด้วยกระดูกม้า ซอหน้าขึงด้วยเปลือกไม้ ซอกระบอกไม้ไผ่ ซอด้วงสามสาย ซอด้วงสี่สาย หน้าซอขึงด้วยหนังงู เครื่องดนตรีประเภทพิณ
กลองชนิดต่างๆ และเครื่องประกอบจังหวะ เช่น กลองรูปปลาของพวกจ้วง ฆ้อง ฉาบ ระฆังทิเบต ฉิ่งต่างๆ
ภาพการแสดงการเป่าใบไม้ของพวกลีซอ
ห้องแสดงตัวอักษรของพวกไต่ อาจารย์เกาลี่ นักวิชาการชาวไป๋มาอ่านหนังสือของพวกไต่ให้ฟัง ภาษาไต่สิบสองปันนาและที่เต๋อหงไม่เหมือนกัน เอกสารที่อ่านเป็นคำสั่งของเจ้าหม่อมคำลือ เจ้าผู้ครองสิบสองปันนาคนสุดท้าย เกี่ยวกับการขุดเหมืองฝายกักเก็บน้ำ มีบางคำที่เราฟังเข้าใจ
(น. 337) รูป 226 ผู้เชี่ยวชาญอ่านเอกสารชนเผ่า
The expert deciphering tribal documents.
(น. 338) มีเรื่องภาษาใบไม้ ซึ่งจะแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่น พริก แปลว่า เกลียด เม็ดพริก แปลว่า เกลียดมาก ถ่าน แปลว่า ข่าวฉุกเฉินหรือหมู่บ้านถูกเผา ข้าพเจ้าเขียนรายละเอียดเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ [[ใต้เมฆที่เมฆใต้]] หนังสือรูปภาพพวกผูหมี่ จารึกของพวกไต่
ไปที่ร้านหนังสือ ซื้อหนังสือเกี่ยวกับชนเผ่าต่างๆ
ไปนั่งสนทนากัน มีคุณเผิง คุณเก๋อซาง (เป็นคนทิเบต) อธิการบดีสถาบันชนกลุ่มน้อย และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยชนกลุ่มน้อย ข้าพเจ้าถามถึงเรื่องการบริการการศึกษาและการรักษาพยาบาลของพวกชนกลุ่มน้อยในยูนนานในเขตทุรกันดาร คุณเผิงอธิบายว่ามีหมอดูแล ส่วนการศึกษาก็เป็นไปตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการจีน ชนกลุ่มน้อยเรียนในโรงเรียนระดับประถมและมัธยม รัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางครึ่งหนึ่ง ต้องเรียนภาษาของตนและภาษาจีน ขณะนี้ที่สถาบันชนกลุ่มน้อยมีการสอนภาษาไทยด้วย
อาจารย์เจ้าเจียเหวิน อธิการบดีสถาบันชนกลุ่มน้อยกล่าวว่าเขาต้อนรับข้าพเจ้าสามครั้งแล้ว และเล่างานของสถาบันว่าพยายามอนุรักษ์วัฒนธรรมของชนเผ่าต่างๆ ไว้ บุตรหลานของชนกลุ่มน้อยได้เรียนประถมมัธยมและระดับสูงกว่านั้น แต่ยังเข้ามหาวิทยาลัยน้อย ที่สถาบันมีการสอนระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี สอนเรื่องประวัติศาสตร์ชนกลุ่มน้อยและอีกหลายสาขาวิชา พยายามสร้างความสัมพันธ์กับประเทศที่มีชนกลุ่มน้อยเหมือนกัน เช่น ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ มีการเปิดสอนวิชาเกี่ยวกับเอเชียตะวันออก สถานกงสุลไทยในคุนหมิงได้มีส่วนช่วย
คืนถิ่นจีนใหญ่
คืนถิ่นจีนใหญ่ หน้า 238
(น.238) มณฑลหูหนาน ให้ฉากปัก รูปฤดูใบไม้ผลิที่ทะเลสาบตงถิง
มณฑลกวางตุ้ง ให้หยกสลัก รูปการเดินเรือที่ราบรื่น
ภูมิภาคการปกครองตนเองกว่างซี จ้วง ให้ไม้สลัก รูปสะพานแห่งความสามัคคี
มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ให้หอยสลัก รูปทั้งโลกร่วมกันเบิกบาน
มณฑลเสฉวน ให้ไม้แดงสลัก รูปเสฉวนร่วมกันฉลองกับชาวฮ่องกง
มหานครฉงชิ่ง ให้รูปปั้นริบบิ้นสีอันเป็นมงคล
มณฑลกุ้ยโจว ให้ฉากไม้แดงประดับด้วยผ้าไหมและบาติกทำเป็นรูปภูเขาร้องเพลงในการฉลองฮ่องกงด้วยความเบิกบาน
มณฑลหยุนหนาน (ยูนนาน) ให้แจกันสำริด รูปนกมงคล
ภูมิภาคปกครองตนเองทิเบต ให้พรมแขวนผนัง รูปภูเขาสูงและแม่น้ำแยงซี
มณฑลส่านซี ให้รูปปั้น เป็นเรื่องชาวส่านซีฉลองการกลับคืนของฮ่องกง
มณฑลกานซู ให้หินฝนนหมึกจากแม่น้ำเถา เป็นเรื่องมังกรเกิดมาจากรากฐานเดียวกัน และทั้งหมดพุ่งขึ้นบนฟ้า
มณฑลชิงไห่ ให้พรมแขวนผนัง รูปคลื่นในทะเลสาบชิงไห่ร่วมต้อนรับการกลับคืนของฮ่องกง
ภูมิภาคปกครนองตนเองหนิงเซี่ย หุย ให้หินเหอหลานสลักรูปกลับจากการต้อนปศุสัตว์