<< Back
กวางโจว
(น.83) รูป 82 ประตูสลัก ภาพไก่ลูกดก กล้วยใบใหญ่
(น.83) เมื่อก๊กมินตั๋งเข้ามาปกครองประเทศ ใช้สถานที่นี้เป็นที่ฝึกหัดนักกีฬาของมณฑลกวางตุ้ง จนถึง ค.ศ. 1957 จึงประกาศเป็นโบราณสถาน ใน ค.ศ. 1957 จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นเมืองของกวางตุ้ง เก็บของต่างๆ ถึง 20,000 ชนิด
การก่อสร้างเป็นศาลเจ้าจีนตามแบบสถาปัตยกรรมแบบจีนตอนใต้ ประกอบด้วยอาคารน้อยใหญ่ 19 อาคาร การก่อสร้างใช้ไม้เชื่อมต่อกันโดยไม่ใช้ตะปู มีเนื้อที่ใช้สอยทั้งหมดราว 15,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 3 ส่วน คือส่วนหน้า ส่วนกลาง และส่วนหลัง เครื่องประดับตกแต่งอาคารทั้งหมดถือได้ว่าเป็นการรวบรวมแบบอย่างศิลปกรรมมณฑลกวางตุ้ง คือ มีทั้งการสลักอิฐ สลักไม้ ประดับกระเบื้องและเครื่องปั้นดินเผา
อาคารประธานมีประตูไม้สลักบานใหญ่ๆสลักเป็นรูปภาพตามภาษิตโบราณของจีน เช่น ให้กิจการยิ่งใหญ่(ภาพต้นกล้วยใบใหญ่) ให้มีลูกมีหลานเจริญรุ่งเรือง(ภาพไก่ลูกดก)
(น.83) รูป 83 ประตูสลัก รูปลำไม้ไผ่ ตัดเป็นรูปฮกกลับแสดงว่านำความรุ่งเรืองสู่เรือน
(น.84) รูป 84 รูปปั้นแสดงสถานที่สำคัญๆ รูปบ้านเรือนอยู่บนหลังคา
(น.84) เสาเป็นไม้หุ้มปูนทำด้วยหินตำ ทำเป็นรูปลำไม้ไผ่มีความหมายว่าให้เด็กในตระกูลเรียนหนังสือต่อสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
รูปสลักอื่นๆ เช่น เรื่อง ลำบากไปก่อนแล้วจึงจะสบาย งานใหญ่ต้องสำเร็จภายหลัง รูปไม้ไผ่ดัดเป็นรูปฮก (福) กลับข้าง หมายถึงนำความมั่งคั่งเข้าสู่บ้านเรือน
อาคารประธานอยู่บนยกพื้นมีกำแพงแก้วล้อมลายในช่องกำแพงเป็นเหล็กดัด หัวเสาทำเป็นถาดใส่ผลไม้ที่มีในมณฑล ถือว่าเป็นการไหว้เจ้าทุกวัน ส่วนประกอบหลังคา และขื่อประดับด้วยเครื่องปั้นดินเผา และรูปสลักหินตำ มีรูปอาคารบ้านเรือน มีปลามังกร (อ๋าวหยู)ประดับ หมายถึงให้เรียนหนังสือได้ดี อักษรจีนคำว่า เรียนหนังสือดี มีเสียงเหมือนกับชื่อปลานี้ และตัวอักษรก็มีส่วนเหมือนกัน
บนขื่อมีรูปปั้นนูนสูง แสดงสถานที่สำคัญ 8 แห่งของกวางโจว หนึ่งในแปดนั้นคือพิพิธภัณฑ์กวางโจว
อาคารอื่นๆ เป็นที่แสดงศิลปหัตถกรรมที่สำคัญของเมืองกวางโจว
(น.84) รูป 85 รูปปั้นเคลือบแสดงสถานที่สำคัญ 8 แห่งของกวางโจว
(น.87) ระหว่างนั่งรถกลับไปโรงแรม ท่านรองนายกเทศมนตรีเล่าว่าได้มีการเลือกจุดท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในเมืองกวางโจวเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่แรกจะเลือกสุสาน เพราะเป็นที่สำคัญมากทางประวัติศาสตร์และมีนักท่องเที่ยวสนใจมาก แต่คณะกรรมการส่วนมากคัดค้านว่าเรื่องสุสานเป็นเรื่องที่อัปมงคล ไม่น่าจะอยู่ใน 10 ที่น่าเที่ยว ที่ประชุมจึงเลือกถนนที่ให้นักท่องเที่ยวเดินชมตลาดแทน ท่านรองนายกเทศมนตรีมีหน้าที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยว เรื่องเด็ก เยาวชน และสตรี บอกว่าคราวหน้ามีเวลาอยากพาไปคุยกับกลุ่มสตรีที่เขารับผิดชอบ
กลับโรงแรมรับประทานอาหารกลางวันแล้วไปดูสถานกงสุลซึ่งอยู่ในโรงแรมนี้เอง
(น.87) รูป 90 ผู้นำชมแสดงการเขียนตัวอักษร
(น.88) รูป 91 ที่วัดจู่เมี่ยว มีหินสลักแสดงงานมีชื่อเสียงของเมืองนี้
รูป 92 ที่วัดจู่เมี่ยว มีหินสลักแสดงงานมีชื่อเสียงของเมืองนี้
(น.88) ภาคบ่ายเดินทางไปโฝซานใช้เวลาเกือบชั่วโมง คุณเฉาเจินเหวยซึ่งเป็นรองเลขาธิการมณฑลกวางตุ้งนั่งไปด้วยท่านผู้นี้เป็นวิศวกรไฟฟ้า เป็นคนซาโจวอยู่ใกล้ๆ หนานจิง แต่ไปเติบโตที่เซี่ยงไฮ้ตอนที่ทำงานโรงงานเมื่อประมาณ 20 ปีมาแล้ว ได้แปลหนังสือตำราอิเล็กทรอนิกส์จากภาษารัสเซียมาเป็นภาษาจีนเล่มหนึ่ง จึงนำมาให้ข้าพเจ้าไว้เป็นที่ระลึก
เส้นทางเดินทางผ่านเมืองกวางโจวเก่า แต่ก็มีอาคารใหม่ๆ เช่น หอแสดงสินค้าจีน มีงานแสดงสินค้าปีละสองครั้ง สถานีรถไฟ บริเวณข้างทางด่วนมีอาคารที่อยู่อาศัยที่ให้คนซื้อได้
เมืองโฝซาน เป็นเมืองใหญ่ถนนหนทางกว้างขวางและสะอาดเคยได้รางวัลเมืองสะอาด คนมีฐานะดีกว่าคนกวางโจวเสียด้วยซ้ำ ตั้งแต่สมัยโบราณก็ถือว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว มีชื่อเสียงด้านการประมง การทำเครื่องเซรามิก เครื่องปั้นดินเผา ใน ค.ศ. 1951 จัดตั้งเป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดกลางมีชื่อเสียงในด้านเซรามิก การทอผ้า อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก อุตสาหกรรมผลิตอาหาร ยา เครื่องจักร ศิลปะ เช่น การวาดภาพ นอกจากนั้นยังมีความพร้อมในด้านการคมนาคมขนส่ง มีท่าเรือถึง 24 ท่า มีสนามบินรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเมือง
(น.106) อาจารย์เจียให้ข้อมูลว่า ชาวกวางตุ้งนิยมกินแมวเป็นอาหารบำรุง ภัตตาคารใหญ่ๆ ที่นครกวางโจวมีอาหารพิเศษที่เอาแมวและงู หรือแมว งู และไก่ มาปรุงเป็นซุป ตั้งชื่อว่า “หลงหู่โต้ว” แปลว่า “มังกรสู้เสือ” หรือ “หลงหู่เฟิ่ง” แปลว่า “มังกรเสือหงส์” ซุปที่ปรุงแบบนี้มีที่ภัตตาคารใหญ่ๆ ในฮ่องกงด้วย
คืนถิ่นจีนใหญ่ หน้า 112,117,122,123,126,139
(น.112) วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2540
เช้านี้ต้องต้องเก็บของไปหมดเพราะว่าเราจะไปอยู่ฮ่องกงแล้ว เวลา 08.00 น. เดินทางออกจากโรงแรมไปตำบลหู่เหมิน (แปลว่าประตูเสือ) เมืองตงก่วน ระยะทาง 126 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงสิบห้านาที
เมืองตงก่วนตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของที่ราบลุ่มแม่น้ำจูเจียง อยู่ห่างจากกวางโจว 50 กิโลเมตร ห่างจากฮ่องกง 90 กิโลเมตร มีพื้นที่ 2,462 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองโบราณมีอายุประมาณ 1,700 ปี ตั้งแต่สมัยสามก๊ก
(น.117) มองดูเหมือนพิพิธภัณฑ์ การปลูกฝิ่น การตรวจคุณภาพฝิ่น รูปเมืองกวางโจวใน ค.ศ. 1730 รูปอ่าวหวงผู่ก่อนสงคราม รูปเรือขนฝิ่น
(น.122) เมื่อทำลายฝิ่นแล้วนายพลหลินทราบว่าจะต้องรบกันแน่ๆ จึงหาวิธีป้องกันเมือง มีการตั้งด่านดักเรือ 3 ชั้น โดยใช้ซุงทำเป็นแพ และใช้โซ่กั้นแม่น้ำ มีป้อม 3 จุด แต่ละฝั่งของปากแม่น้ำจูเจียง มีรูปจำลองให้ดูว่าภูมิประเทศจริงเป็นอย่างไร
ตอนที่ 2 การบุกของอังกฤษและการตั้งรับของจีนในกวางตุ้ง
อังกฤษนำเรือรบเข้ามาเดือนเมษายน ค.ศ. 1840 มีเรือรบ 48 ลำ ปืนใหญ่ 500 กระบอก ทหาร 4,000 นาย มาถึงจีนในเดือนมิถุนายนถือเป็นการเริ่มสงคราม
แสดงแผนที่การเดินทัพของอังกฤษและสมรภูมิในสงครามฝิ่นครั้งแรก เดิมอังกฤษไปกวางโจว จะเข้าแม่น้ำจูเจียง แต่จีนป้องกันไว้อย่างดีจึงเปลี่ยนเส้นทางไปเอ้หมึง ก็เข้าไม่ได้อีก จึงไปทางติ้งไห่ใกล้เมืองเซี่ยงไฮ้ได้ชัยชนะแล้วขึ้นไปถึงเมืองเทียนสินซึ่งอยู่ใกล้กับปักกิ่งจักรพรรดิเกรงภัยจึงให้หย่าทัพ
รูปเขียนสีน้ำมันที่แสดงการรบที่ซาเจี่ยว อยู่ปากแม่น้ำจูเจียง ในภาพมีทหารแขกซีปอยร่วมรบด้วย
(น.122) รูป 118 ภาพแสดงการรบที่หู่เหมิน
(น.123) การรบที่ชวนปี่ หลังจากจีนแตกพ่ายที่ซาเจี่ยวแล้ว มีรูปป้ายศิลาที่ทำสรรเสริญม้าของแม่ทัพ แม่ทัพตาย ม้าถูกจับ แต่ศัตรูก็ไม่สามารถบังคับม้าได้ ต้องเอาไปปล่อยบนภูเขา ม้าตายไปเองเพราะคิดถึงเจ้าของ ชาวจีนจึงเขียนป้ายสรรเสริญม้าตัวนั้น
รูปแม่ทัพเรือจีน และกล้องส่องทางไกลที่แม่ทัพผู้นี้ใช้ รูปป้อมที่เขาถูกฆ่าใน ค.ศ. 1841
การรบที่หู่เหมิน ของที่แสดงให้ดูเห็นได้ว่า ทหารจีนยังใช้เกราะแบบโบราณ อาวุธโบราณต่างๆ เช่น ดาบ หอก ง้าว โตมร ขณะที่อังกฤษใช้อาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า
เรื่องการต่อต้านของประชาชนในหมู่บ้านซานหยวนหลี่ อยู่ใกล้กวางโจว ถือเป็นชัยชนะของฝ่ายจีนครั้งแรก เพราะฝ่ายอังกฤษชนะแล้วก็เข้าปล้นสะดม ประชาชนจึงร่วมกันต่อต้าน ล้อมทหารได้อาวุธไว้เป็นจำนวนมาก
ตอนที่ 3 สงครามฝิ่นสิ้นสุด
ในขณะรบมีแม่ทัพจีนถูกฆ่าตายที่ติ้งไห่ 3 คนคือ เกอหยวนฟา หวังซีเผิง และเจิ้งกั๋วหง ที่อู่ซงก็มีนายพลถูกฆ่า
อังกฤษให้ไปเจรจาและลงนามที่นานกิงในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1842 ผลของสัญญาทำให้จีนต้องเปิดเมืองท่า 5 เมือง คือ กวางโจว เอ้หมึง ฝูโจว หนิงโป เซี่ยงไฮ้ ยกเกาะฮ่องกงให้อังกฤษ ยกเลิกการค้าผูกขาดระบบหัง (行) ในมณฑลกวางตุ้ง และให้มีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต เสียเงินชดใช้ให้อังกฤษเป็นค่าฝิ่นที่ทำลายไป
(น.126) วันนี้คนมากจริงๆ เพราะเป็นวันอาทิตย์ จนกระทั่งรถยนต์ของคนอื่นในขบวนติดฝูงผู้คนตามมาไม่ทัน ข้ามสะพานเวยหย่วนเข้าไปเป็นเกาะ ชาวบ้านปลูกข้าวและปลูกผักหลายอย่าง ผลไม้ที่นี่ก็มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิ้นจี่ เขาว่าลิ้นจี่ที่มีในตำนานว่าเป็นที่ชื่นชอบของพระชายาหยังกุ้ยเฟย ในสมัยราชวงศ์ถังก็มาจากที่นี่
ข้ามสะพานใหญ่เรียกว่า สะพานหู่เหมิน เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนนี่เอง เป็นฝีมือช่างจีนเอง สร้างเชื่อมระหว่างทางด่วนกวางโจวไปเสิ่นเจิ้น กับอีกสายจากกวางโจวไปจูไห่ สะพานนี้ยาว 15.76 กิโลเมตร ข้ามทะเล 4.8 กิโลเมตร สูง 60 เมตร เรือระวางแสนตันรอดได้
(น.139) ดูสนามบินใหม่ ตอนแรกไม่เห็นเพราะว่าฝนลง เมฆมาก สักประเดี๋ยวลมพัดออกไป จึงบินไปดูได้ วิธีสร้างสนามบินใช้วิธีเกลี่ยทรายถมเกาะสองเกาะ มีทางรถไฟและท่าเรือ คมนาคมสะดวกทุกทาง ลงจากเรือ รถไฟ รถยนต์ก็ไปถึง terminals ขึ้นเครื่องบินได้เลย มีการจัดทัวร์ให้คนฮ่องกงมาดูสนามบินได้ฟรี นอกจากตึกสนามบินแล้ว ยังมีตึกสำนักงานใหญ่สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิกด้วย
เลยสนามบินออกไปที่เกาะลันตามีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เขาว่าโครงทำด้วยเหล็ก หุ้มด้วยสำริด องค์พระทำเป็นชิ้นๆ มาจากนานกิง จำนวน 202 ชิ้น นำมาประกอบที่ฮ่องกง ผู้จะมานมัสการพระนี้จะต้องมาทางเรือเฟอร์รี่ แล้วมาต่อรถอีก ใช้เวลาอย่างละชั่วโมงหนึ่ง เกาะลันตานี้ตอนแรกก็คิดว่าจะใช้เป็น park แต่ว่าไม่มีที่พอก่อสร้างที่พักอาศัย จึงเริ่มใช้พื้นที่ในเกาะนี้
ต่อไปจะสร้างสะพานเชื่อมฮ่องกงกับเสิ่นเจิ้น ต่อทางหลวงไปกวางโจวได้
Next >>