Please wait...

<< Back

เปาบุ้นจิ้น

จากหนังสือ

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงามหน้า65

(น. 65) มีคนออกมาประกาศการแสดง มีเพลงฝนต้องใบกล้วยยามเช้าที่ปักกิ่ง เครื่องดนตรีเป็นแบบจีนโบราณจำพวก ขิม ผีผา ซอหูฉิน ฯลฯ มีระฆังชุดแบบโบราณ มีงิ้วปักกิ่งสั้นๆ จากเรื่อง ซ้องกั๋ง ตอนหลี่ขุยเยี่ยมมารดา และเปาบุ้นจิ้นโกรธ ร้องประกอบการแสดงงิ้วแบบเหล่าเซิงหรือพระเอกแก่ ต่อไปเป็นงิ้วปักกิ่งตอนฌ้อปาอ๋องลามเหสี ผู้จัดการบอกว่าตัวเขาเคยแสดงบทบาทนี้ ในเรื่องมเหสีฆ่าตัวตาย ต่อด้วยกายกรรมหมุนร่ม ที่น่าสนุกคือ การแสดงที่เรียกว่าหยังโข่วลิ่ง คือ นักแสดงจะออกมาพูดพลางขยับกรับพลาง เพื่อให้เป็นจังหวะ คำพูดจะมีเสียงคล้องจอง กลับไปกลับมา ถ้าไม่ชำนาญลิ้นจะพันกัน

เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก
เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก หน้า101,102,103

(น.101) เรื่องปลาหลีฮื้อเทวดาในอ่างหยก เป็นเรื่องงิ้วที่แต่งขึ้นมาไม่นานนัก (ประมาณเกือบ 30 ปี) แต่สมมติว่าเกิดในสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ.960-1279) บัณฑิตจังเจินเดินทางไปเมืองไคเฟิง (เปี้ยนเหลียง) เพื่อไปแต่งงาน แต่ก่อนจังเจินเคยร่ำรวย แต่ภายหลังยากจนลง เมื่อไปถึง จิงฉง บิดาของโบตั๋นคู่หมั้น ไม่ให้พบลูกสาว ให้ไปอยู่ที่บ้านสำหรับอ่านหนังสือของครอบครัวที่อยู่ริมอ่างหยก มีคนใช้มาส่งอาหาร
(น.102) กล่าวถึงปลาหลีฮื้อ เป็นศิษย์ของเจ้าแม่กวนอิม บำเพ็ญตบะมา 3,000 ปี จนมีฤทธิ์ ลาเจ้าแม่กวนอิมเพื่อแสวงหาความรักในโลกมนุษย์ เจ้าแม่กวนอิมเตือนว่าชีวิตในโลกมนุษย์ยากลำบาก ไม่ได้หวานชื่นอะไรเลย แต่เมื่ออยากจะไปก็ไป เมื่อเจอของจริงเข้า ก็จะหนีกลับมาหาเจ้าแม่กวนอิมเอง (มาบำเพ็ญตบะต่อ) เมื่อมาโลกมนุษย์ปลาหลีฮื้อก็มาอยู่ในอ่างหยก ได้ทราบความในใจของจังเจิน จึงแปลงกายเป็นโบตั๋นมาอยู่กินเป็นสามีภรรยากับจังเจิน เมื่อถึงเทศกาลหยวนเซียว มีการประดับตกแต่งโคมไฟ ทั้ง 2 สามีภรรยาก็ไปเที่ยวงานเจอจินฉงกับลูกสาว ไม่มีใครบอกได้ว่าคนไหนเป็นตัวจริงคนไหนเป็นตัวปลอม จินฉงจึงตัดสินใจไปให้เปาบุ้นจิ้นตัดสิน เต่าวิเศษที่เป็นเพื่อนปลาหลีฮื้อ กลัวปลาหลีฮื้อผิดหวังในความรัก จึงแปลงกายเป็นท่านเปา ชวนปูวิเศษกับกุ้งวิเศษแปลงตัวเป็นผู้ช่วย เมื่อไปถึงศาลทุกคนก็งงกันไปหมดว่าใครเป็นตัวจริงตัวปลอม ในที่สุดช่วยกันตัดสิน จับได้ว่าใครเป็นตัวจริงตัวปลอม โบตั๋นตัวจริงไม่ได้รักจังเจิน ใครๆ เห็นใจในความรักของ
(น.103) ปลา จะให้แต่งงานกัน แต่ปีศาจเอ้อหลัง คือ ปีศาจหมาป่ามาขัดขวางว่า เป็นอมนุษย์ไม่ควรแต่งงานกับมนุษย์ กวนอิมมาบอกว่า ถ้าเด็ดเอาเกล็ด 3 เกล็ดออก จะกลายเป็นคน แต่ต้องเจ็บปวดมาก ให้คิดให้ดีว่าจะละความเพียรซึ่งทำมา 3,000 ปี เสียความเป็นอมตะ ปลาหลีฮื้อบอกว่าเป็นอมตะ โดนปราศจากความรักก็ไม่มีประโยชน์ ในที่สุดก็ไปอยู่กับคนรัก happy ending

เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล
เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล หน้า212,213

(น.212) ช่วงบ่ายไปสุสานไห่รุ่ย ขุนนางซื่อตรง สุสานนี้ถูกทำลายไปเกือบหมดในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม แต่ว่าได้ซ่อมสร้างขึ้นใหม่ใน ค.ศ. 1982 ไห่รุ่ยอยู่ในสมัยปลายราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1514-1587) เป็นคนเมืองฉงโจว ในไหหลำเป็นข้าราชการที่มีเมตตาสุจริตยุติธรรมเหมือนกับเปาบุ้นจิ้นที่เรารู้จักกันดี
(น.213) ค.ศ. 1558 ได้รับแต่งตั้งเป็นนายอำเภอฉุนอาน ในมณฑลเจ้อเจียง ก่อนไปรับราชการพวกขุนนางที่นั่นกินสินบน ไม่เคารพกฎหมาย ตัดสินคดีอย่างไม่ระมัดระวัง พอไห่รุ่ยไปถึง เขาทำงานอย่างตั้งใจ แก้ไขคดีความต่างๆ จนเรียบร้อย ชาวบ้านจึงเคารพเขามาก

หวงเหออู่อารยธรรม
หวงเหออู่อารยธรรม หน้า183,184

(น.183) จุดที่ 4 เปากงฉือ หรือศาลเจ้าเปาบุ้นจิ้น ท่านเปาเป็นสัญลักษณ์ของความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ตัดสินตามกฎหมาย จนมีฉายาอีกอย่างหนึ่งว่า เปาชิงเทียน หรือ เปาฟ้าโปร่งใส เคยเป็นผู้ว่าราชการไคเฟิง ข้างๆ ศาลเป็นทะเลสาบ ไกด์บอกว่าสมัยก่อนตรงที่เป็นทะเลสาบนี้เป็นศาลไคเฟิง มีสำเนาจารึกภาพท่านเปาที่สลักจากบ้านเกิด หน้าตาคล้ายท่านเปามากที่สุด (ทราบได้อย่างไร) คนทั่วไปคิดว่าท่านเปาหน้าแดงออกดำ หนวดยาวไปตามงิ้ว ที่จริงหน้าตาไม่ใช่แบบนั้น
(น.184) มีศิลาจารึกรายชื่อผู้ว่าราชการไคเฟิงสมัยราชวงศ์ซ่ง มีผู้ว่าราชการมา 168 ปี ผู้ว่า 183 ท่าน เรียงตามเวลา ท่านเปาเป็นผู้ว่าท่านที่ 93 รับตำแหน่งยาวที่สุด แต่ก็เพียงปีกว่า ชื่อท่านเปาในจารึกนั้นมองไม่เห็น เพราะมีคนเอานิ้วไปจับจนกระทั่งสึกเว้าลงไป จารึกหลักที่เห็นเป็นหลักจำลอง (แต่ก็ทำรอยเว้าไว้ด้วย) ของจริงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ มีโมเดลรูปศาลาว่าการสมัยนั้น มีเรื่องเล่ากันว่าก่อนที่ท่านเปาจะเสียชีวิต จักรพรรดิอยากจะมอบเมืองเหอเฟย (ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงของมณฑลอานฮุย) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านให้ท่าน ท่านบอกว่าตอนนี้ก็ชราแล้ว อาจจะไม่มีชีวิตอยู่ และไม่ทราบว่าลูกหลานจะปกครองดี ดูแลประชาชนให้มีความสุขได้หรือไม่ ถ้าจะพระราชทานก็ขอแค่คูรอบเมือง ถ้าลูกหลานยังมีอยู่ก็จะต้องมาลอกคูทำประโยชน์แก่แผ่นดิน ทำผลเสียแก่ประชาชนไม่ได้ จักรพรรดิก็พระราชทานตามที่ต้องการ ขณะนี้คูเมืองนี้ก็ยังอยู่ ราษฎรเรียกกันว่า แม่น้ำเปา เขาว่ารากบัวแม่น้ำเปาอร่อย ที่ต่างจากรากบัวอื่นอีกอย่างคือ รากบัวแม่น้ำเปานี้หักแล้วไม่มีใยติดกัน หมายความถึงไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัว มีรูปปั้นท่านเปา มีภาพฝาผนัง เล่าเรื่องท่านเปาเอาใจใส่ทุกข์สุขของราษฎร ในใจคิดแต่เรื่องประชาชน เขาทำกิโยตีนจีนโบราณ มีลายเป็นรูปหัวเสือ หัวมังกร และหัวหมา ใช้ประหารฉินซือเหม่ยซึ่งเป็นจอหงวน แต่งงานแล้ว แต่พอมารับราชการถูกพระทัยจักรพรรดิก็เลยยกธิดาให้ จอหงวนผู้นี้ปิดบังเรื่องตนมีลูกเมียแล้ว แถมส่งคนให้ไปฆ่าลูกเมีย แต่ลูกเมียรอดมาฟ้องได้ ท่านเปาว่าบัณฑิตต้องดูแลครอบครัวได้จึงจะปกครองแผ่นดินได้ อักษรคำว่า กฎหมายที่เขียนสมัยนั้นประกอบด้วยหลายส่วน คือ น้ำ หมายถึง เป็นธรรมกับทุกคน อีกสองส่วนหมายถึง ขจัดสิ่งไม่เป็นธรรม ต้องใช้กฎหมายเที่ยงธรรมเหมือนภูเขา