<< Back
" คืนถิ่นจีนใหญ่ วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน 2540 "
(น.65) รูป 59 กระดูกที่ยังเหลือ
(น.66) รูป 60 ไข่มุกที่ใช้ยัดไส้หมอน
รูป 61 แผนที่บริเวณที่พบศพ
(น.66) เครื่องประดับหยก ฝีมือประณีตมาก นอกจากนั้นมีเครื่องประดับทำด้วยวัสดุหลายอย่าง เช่น หยก ทอง black amber
ไม่ทราบว่าเป็นอะไรเหมือนกับถ่านหินสันนิษฐานว่าเป็นหินแอนทราไซต์ กระจกเห็นจะเป็นกระจกเก่าแก่ที่สุดในจีน แต่เขาว่าเก่าที่สุดในโลก แผงเครื่องประดับนี้ยาวประมาณ 60 เซนติเมตร
แผ่นหยกมีรูตรงกลาง ทำฝีมือประณีตสีเขียวไข่กาเสื้อลูกปัด ลูกปัดกระจกทำเป็นรูปหอย หมอนมุก ปลอกหมอนเป็นผ้าไหมข้างในยัดไส้ไข่มุกน้ำจืดหนัก 470 กรัม ดาบขนาดใหญ่ยาวกว่าเมตรคงจะใช้เป็นเครื่องยศไม่ใช่รบจริงๆ
(น.67) รูป 62 ยาอายุวัฒนะ5 อย่าง
รูป 63 ตามสุสานมักจะมีระฆังชุดแบบนี้
(น.67) กล่องเงินว่ามาจากเปอร์เซีย คงจะมาตามเส้นทางสายแพรไหมทางทะเล ผู้นำชมบอกเราว่าแต่ก่อนไทยเป็นจุดกลางแลกเปลี่ยนสินค้า กล่องนี้ขาเป็นบรอนซ์
ฝามีอักษรสองตัวเขียนว่าซือก่วน มียาบรรจุอยู่ข้างใน ยากลายเป็นถ่านไปหมดแล้ว พยายามส่งไปวิเคราะห์ตามที่ต่างๆ หลายแห่ง ส่งไปปักกิ่งถึง 4 ครั้ง ก็ไม่ได้คำตอบว่าเป็นอะไร
(คำว่าถ่านนี้ ภาษาจีนกลางอ่านว่า ทั่น ฟังเสียงคล้ายภาษาไทย จีนแต้จิ๋วว่า ถั่ว)
ลับแลจำลอง เครื่องประดับกรอบเป็นรูปหน้ากาล ขาตั้งเป็นงู (ไม่ใช่มังกร) สมกับตำนานญวนที่ว่าบรรพบุรุษเป็นงู
ผนังวาดรูปแผนผังสุสาน
(น.68) ตราของพระมเหสี ใช้ทองทำเหมือนของจักรพรรดิ (แต่ของคนอื่นเป็นหยก) เขียนว่า โย่ว ฟู่ เหริน สี่ แปลว่า มเหสีฝ่ายขวาผู้มีฐานะเป็นผู้ใหญ่ แสดงว่าวัฒนธรรมนี้ถือข้างขวาเป็นใหญ่ ข้างบนตรานี้เป็นรูปเต่า
ตรารูปเสือ สำหรับสั่งทหารเคลื่อนพล
กระจกส่องหน้าเล็กๆ ทุ่นของแห อวนทำด้วยดินเผา
เม็ดหมึก เป็นเม็ดๆ เวลาจะใช้ต้องบดแล้วผสมน้ำ ภาษาอังกฤษเรียกว่า inkstone
ยาอายุวัฒนะมี 5 สี มี อเมทิสต์ (amethyst) กำมะถัน หรดาล (realgear) หินสีแดง ไข่นกการเวก (turquoise)
เครื่องสำริดชิ้นโตๆ มีหม้อ เตาย่างบาบิคิว ใช้แขวนไว้เหนือไฟมีถาดแบนๆ รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีตะแกรงข้างบน เครื่องสำริดรูปช้างพบหลายใบ
เครื่องดนตรี กังสดาลหิน ระฆังสำริดเป็นชุด ลูกแซ็กรูปปลา และตลับสำหรับเขย่าเป็นจังหวะ
ข้างหน้ามีร้านขายของประจำพิพิธภัณฑ์ ไม่มีเวลาซื้ออะไร เห็นช่างกำลังเขียนภาพในขวด
ที่หมายที่ 2 พิพิธภัณฑ์กวางโจว ตึกพิพิธภัณฑ์นี้เป็นตึกโบราณชื่อว่า เจิ้งไห่โหลว แปลตามศัพท์ว่า ตึกหันสู่ทะเล มีความหมายว่า ตึกชมทะเล
อยู่บนเนินเขาเยว่ซิ่ว เป็นอาคาร 5 ชั้นแบบจีน สูง 28 เมตร สร้างเมื่อ ค.ศ. 1380 สมัยราชวงศ์หมิง ผู้สร้างคือนายพลจูเลี่ยงลู่ ซึ่งมาปกครองดินแดนกวางตุ้ง
(น.69) รูป 64 พิพิธภัณฑ์กวางโจว
(น.69) ในช่วง ค.ศ. 1552-1567 มีโจรสลัดญี่ปุ่นชุกชุม เมื่อบูรณะอาคารเสร็จจึงให้ชื่อว่า ตึกปราบปรามทางทะเล
ค.ศ. 1840-1842 เกิดสงครามฝิ่นครั้งที่ 1 ตึกนี้ถูกทหารอังกฤษยิงด้วยปืนใหญ่เสียหาย และบูรณะใหม่ใน ค.ศ. 1928 เปลี่ยนวัสดุจากเดิมเป็นอิฐและไม้มาเป็นตึกปูนเสริมเหล็ก ค.ศ. 1938 จนถึงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นใช้ตึกนี้เป็นที่เลี้ยงม้า ตึกเสียหายมาก
(น.70) ค.ศ. 1950 รัฐบาลซ่อมแซมให้เป็นพิพิธภัณฑ์มาจนทุกวันนี้ นอกจากนั้นคนยังมาดูตึกว่าเป็นตึกที่งามที่สุดตึกหนึ่ง ทิวทัศน์รอบข้างก็งาม เมื่อปีที่แล้วได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 ของจุดท่องเที่ยวที่ดีที่สุดของกวางโจว
การจัดพิพิธภัณฑ์นั้น ชั้นล่างใช้เป็นที่แสดงประวัติเมืองกวางโจวว่าเดิมเรียกว่าพานหยู เริ่มสร้างเมืองมาตั้งแต่ 214 ปีก่อนคริสต์กาล ตำนานเล่าว่าเมื่อ 2,800 ปีก่อน
มีเทวดาขี่แพะมา 5 องค์ มาช่วยเมืองนี้ให้พ้นจากความอดอยาก เลยเรียกเมืองนี้ว่าเมืองแพะ ไม่ยักเรียกว่าเมืองเทวดา เห็นจะเป็นเพราะเรื่องเล่าต่อไปว่าเมื่อช่วยแล้วเทวดาเหาะกลับสวรรค์ไปเองทิ้งแต่แพะเอาไว้
แพะคาบธัญพืชมาด้วย ชาวเมืองเอาธัญพืชนั้นมาหว่าน จึงมีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์จนทุกวันนี้ แพะนั้นกลายเป็นหิน (แต่ไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน) เรื่องอย่างนี้เท็จจริงอยู่ที่ผู้เล่า
แต่ว่าเขาเรียก 5 แพะ ทำให้คิดถึงถ่านไฟฉายตรา 5 แพะ พอถามคนที่นี่ว่ารู้จักไหมก็ดูจะงงๆ เป็นอันว่าถ่านไฟฉายตรา 5 แพะไม่เป็นที่รู้จักในกวางโจว
(น.70) รูป 65 ฝาผนังพิพิธภัณฑ์ตกแต่งด้วยแผ่นทองแดงสลักรูปเรือ
(น.71) รูป 66 รูปซากอู่ต่อเรือโบราณในจงซาน
(น.71) มีรูปซากอู่ต่อเรือในจงซาน คนนำอธิบายว่า พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้ หรือที่จีนเรียกว่า ฉินซื่อหวาง ส่งทหารมาประจำที่กวางโจว
เมื่อ 214 ปีก่อนคริสต์กาล ถือเป็นเมืองค้าขายที่มีประวัติยาวนานที่สุดในโลก เป็นศูนย์กลางการค้า มีท่าเรือใหญ่ที่สุดตั้งแต่สมัยหมิง สมัยชิง จนถึงปัจจุบัน ติดต่อกับต่างประเทศมากที่สุด
มีรูปอู่ต่อเรือสมัยราชวงศ์ฉิน กล่าวว่าต่อเรือที่ขนสินค้าได้ 25-30 ตัน รูปซากเรือสมัยราชวงศ์ฮั่น เห็นเป็นเศษไม้ทาสี
รูปแสดงเขตเมืองพานหยู แสดงว่าเป็นชายแดนห่างไกลมาก มีกล่องโบราณเขียนชื่อเมืองพานหยู แสดงว่าเดิมเมืองนี้ชื่อพานหยูจริงๆ
Next >>