Please wait...

<< Back

หนิงเซี่ย

จากหนังสือ

หวงเหออู่อารยธรรม
หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 18,19,33,34

(น.18)


รูป 14 แผนที่การเดินทางของคณะกรรมการกลางพรรคในมณฑลส่านซี กานซู่และหนิงเซี่ย
A map depicting the route used by CCP Central Committee in Shaanxi, Gansu, and Ningxia.

(น.19)


รูป 15 แผนที่การเดินทางของคณะกรรมการกลางพรรคในมณฑลส่านซี กานซู่ และหนิงเซี่ย
A map depicting the route used by CCP Central Committee in Shaanxi, Gansu, and Ningxia.

(น.19) คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ที่เหยียนอานเป็นเวลาถึง 13 ปี (ค.ศ. 1935-1948) ช่วงนี้พรรคเจริญขึ้นอย่างเต็มที่ เริ่มสร้างอนุสรณ์สถานเมื่อ ค.ศ. 1969 เสร็จ ค.ศ. 1973 ผู้เข้าชมคณะแรกคือคณะของท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล บนฝาผนังมีแผนที่แสดงเส้นทางเดินของคณะกรรมการกลางพรรคในมณฑลส่านซี กานซู่ และหนิงเซี่ย รวม 23 อำเภอ เนื้อที่ 130,000 ตารางกิโลเมตร กองทัพมีกำลังประมาณ 200,000 คน คณะกรรมการกลางเข้ามาในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 1935 ออกไปวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1948

(น.33) ง่วงแล้วจ๊ะ พรุ่งนี้จะดูศูนย์บัญชาการของพรรคคอมมิวนิสต์และจะรวบยอด เล่าเรื่องความสำคัญของเหยียนอานในการปฏิวัติ
ป.ล. ตู่ (จินตนา) จดเนื้อหาในนิทรรศการไว้ให้ 10 หน่วย ดังนี้
1. การก่อตั้งฐานปฏิบัติการในเขตตะวันตกเฉียงเหนือ มีการแสดงสิ่งของเครื่องใช้ของนักปฏิวัติรุ่นเก่า เช่น หนังสือ เครื่องเขียนและหมวกของหลีจื่อโจว ของใช้ของหลิวจื้อตาน เช่น ที่ฝนหมึก เข็มขัด อานม้า ของใช้ของเซี่ยจื่อฉัง เช่น แว่นตาและปืน เป็นต้น
2.ทหารแดงเดินทัพไกลถึงมณฑลส่านซีตอนเหนือ มีการแสดงสิ่งของ เครื่องใช้ของทหารแดงที่ใช้ขณะเดินทัพไกล เช่น เครื่องพิมพ์ หีบลูกปืน รองเท้าฟาง ถุงใส่เสบียง ชามที่ทำจากไม้ไผ่ นอกจากนี้ยังมีกระปุกใส่ใบชาของจังกุยเซิง เข็มขัดหนังของโจวเกินซาน
3. การก่อตั้งแนวร่วมสงครามต่อต้านญี่ปุ่นโดยชนชาติจีน มีการแสดงโต๊ะเล็กๆ ที่ใช้วางบนคั่งที่เหมาเจ๋อตงเคยใช้เมื่อ ค.ศ. 1936 ถ้วยชามที่โจวเอินไหลเคยใช้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งของเครื่องใช้ของทหารแดง เช่น ฆ้องทองแดง ที่เสียบผมทองแดง
4. เหยียนอาน กองบัญชาการสงครามต่อต้านญี่ปุ่น 8 ปี มีการแสดงเหรียญตรา เครื่องแบบของทหารปาลู่จวินที่ดัดแปลงมาจากเครื่องแบบของทหารแดง มีภาพถ่ายเหมาเจ๋อตงกำลังเขียนหนังสือเรื่อง วิพากษ์สงครามยืดเยื้อ ประชาธิปไตยใหม่ แสดงหนังสือทั้งสองเล่มที่ตีพิมพ์ในปีต่างๆ กัน
5. เขตชายแดนมณฑลส่านซี กานซู่ หนิงเซี่ย การก่อตัวของจีนใหม่

(น.34) มีการแสดงบัตรประจำตัว ตราประทับ ธง ของเขตปกครองชายแดนส่านซี กานซู่ หนิงเซี่ย ลูกคิดที่นักเรียนประดิษฐ์จากเม็ดลูกท้อ กล่องปฐมพยาบาลของโรงพยาบาลกลาง

หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 114,116,118

(น.114) ดูวีดีโอพูดภาษาจีน ฟังไม่ค่อยเข้าใจ พอจับใจความได้ว่า กล่าวถึง ความสำคัญของแม่น้ำหวงเหอว่าเป็นแหล่งชีวิต ตั้งแต่ ค.ศ. 1952 ท่านประธานเหมากำชับเรื่องการจัดการลุ่มน้ำหวงเหอนี้มาก ต้นน้ำหวงเหอตั้งแต่ที่ราบสูงดินเหลืองที่ทิเบต ชิงไห่ ซินเจียง กานซู่ หนิงเซี่ย เหอหนาน และซานตง ไปลงที่ทะเลโป๋ไห่ ในประวัติศาสตร์มีน้ำท่วม เกิดปัญหามาก ประธานเหมาไปดู ค.ศ. 1952 ใน ค.ศ. 1999 ประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมินได้มาดูเรื่องการผลิตไฟฟ้า

(น.116) รูป 81 โมเดลเขื่อน

(น.116) แม่น้ำหวงเหอเป็นแม่น้ำยาวอันดับสองของจีน มีต้นน้ำจากเทือกเขาที่ราบสูงทิเบต-ชิงไห่ ในเขตกลางมณฑลชิงไห่ สูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,500 เมตร ไหลผ่านมณฑลชิงไห่ เสฉวน กานซู่ หนิงเซี่ย มองโกเลียใน ส่านซี ซานซี เหอหนาน และซานตง ออกสู่ทะเลโป๋ไห่ที่รอยต่ออำเภอเขิ่นลี่กับอำเภอลี่จิน

(น.118) เรื่องการควบคุมน้ำท่วม ต้องควบคุมน้ำแข็งคือ ธารน้ำแข็งในหนิงเซี่ยและมองโกเลียใน ซึ่งอาจจะทำให้น้ำท่วมในฤดูร้อน เขาใช้วิธีทำฝาย ส่วนวิธีการที่ไม่ใช่ทางวิศวกรรมนั้นก็คือ การบริหาร การติดต่อกับคนเพื่อสร้างความเข้าใจ และการใช้ระบบ microwave ส่งข่าว สมัยก่อน (เขื่อนซานเหมินเสีย ค.ศ. 1957-1966) ไม่ได้คิดเรื่องเขื่อนที่แก้ปัญหาตะกอน ยังสร้างไม่ทันเสร็จดี มีตะกอนมาถมเสียครึ่งหนึ่งแล้ว ในระยะหลังมีเทคโนโลยีดีขึ้น จึงใช้วิธีทำอุโมงค์ให้ตะกอนไหลออกไป และมีการแก้ไขการกัดเซาะด้วย

เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล
เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล หน้า 192

(น.192) ขึ้นไปชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์เรือจีน จัดแสดงตั้งแต่เรือสมัยหินใหม่ที่ขุดพบในสุสาน แสดงความแตกต่างของเรือที่เรียกว่า โจว กับที่เรียกว่า ฉวน แสดงแผนที่บริเวณที่ขุดพบเรือโบราณ เรือทิเบตชนิดที่ใช้หนังจามรีขึง (หนังยังมีขน) เรือไม้ขุด แพหนังแพะชนิดที่ข้าพเจ้าเห็นเขาใช้กันในหนิงเซี่ยพิพิธภัณฑ์ซื้อจากเมืองหลานโจว เป็นแพที่ใช้ทั่วไปในแถบแม่น้ำหวงเหอ เรือที่ใช้กันที่เมืองเซ่าซิง (มณฑลเจ้อเจียง) เรือสำราญของจักรพรรดิสุยหยังตี้ เป็นเรือพระที่นั่ง ใช้คนลาก 80,000 คน เพราะทั้งขบวนเสด็จมีเรือ 2,000 กว่าลำ มีเรือของจักรพรรดิที่ใช้สาวอายุ 15 ปี ประมาณ 200-300 คนลากเรือเดินทะเล

เย็นสบายชายน้ำ
เย็นสบายชายน้ำ หน้า 10

(น.10) ภาษาอังกฤษ ถ้าเป็นพวกสิบสองปันนาจึงพอจะพูดภาษาไทยได้ ได้ดูสินค้าหลายอย่าง ได้ทราบว่าสินค้าประเภทอาหารเป็นที่สนใจมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเล เพราะที่ยูนนานไม่มีพื้นที่ติดทะเล มีน้ำยาล้างคอมพิวเตอร์และน้ำยาล้างอัญมณี ได้ทราบว่าเดี๋ยวนี้คนแถวนี้มีกำลังซื้อมากขึ้น จึงขายของพวกนี้ได้ ยาหม่องน้ำซึ่งคนจีนนิยมมาก มาตรวัดน้ำ ของพลาสติกซึ่งแม่บ้านสนใจ เป็นของส่งออกไม่ขายในประเทศ เครื่องหนัง ข้าวหอมมะลิ การเพาะเนื้อเยื่อ ปลาทูน่ากระป๋อง ของขบเคี้ยว อาหารกระป๋อง กะทิ การขายของพวกนี้ส่งทางเรือไปตามแม่น้ำโขง เขาบอกว่าเมืองต่างๆ และมณฑลสนใจกันมาก มีที่ไม่มาคือ ซินเกียง ชิงไห่ กานซู และหนิงเซี่ย ทิเบตก็ยังมา เขามีเหมืองแร่ ผ้าทอ อาหาร ยาสมุนไพร

เย็นสบายชายน้ำ หน้า 210

(น.210) หลังอาหารได้พบศาสตราจารย์ เฉินซู่เผิง ท่านให้หนังสือแผนที่จีน 2 เล่ม และชวนไปประชุมที่จีนในปีหน้า พูดกันถึงเรื่องมณฑลต่างๆ ในจีนที่ข้าพเจ้ายังไม่ได้ไป เช่น หนิงเซี่ย ชิงไห่ มองโกเลียใน

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย
ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 215,216,219


(น.215) รูป 165 กล่าวขอบคุณ
Speech of appreciation.

(น.215) แปลเป็นภาษาไทยเพื่อให้คนไทยได้อ่าน มีมหาวิทยาลัย 2 แห่ง ใช้เป็นสื่อการสอนภาษาจีน ข้าพเจ้าแปลเรื่อง “ผีเสื้อ” ของหวังเหมิ่ง และเรื่อง “เมฆเหินน้ำไหล” ของฟังฟัง คนไทยชอบอ่านหนังสือทั้งสองเล่มนี้ และได้พิมพ์ออกจำหน่ายแล้วเล่มละ 8 ครั้ง คนไทยชอบอ่านเรื่องท่องเที่ยวประเทศจีนเช่นเดียวกัน ครั้งนี้ข้าพเจ้าไปหนิงเซี่ย ชิงไห่ และทิเบต คนไทยคงจะสนใจภาคตะวันตกของจีน ตัวข้าพเจ้าเองสนใจศึกษาวรรณคดีจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมปีนี้ ข้าพเจ้าได้โอกาสที่ใฝ่ฝันมานานแล้วคือ ได้ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นเวลาเดือนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเวลาจะสั้น แต่ก็ช่วยให้ระดับความรู้ภาษาจีนของข้าพเจ้าดีขึ้นมาก มหาวิทยาลัยปักกิ่งยังให้ปริญญากิตติมศักดิ์แก่ข้าพเจ้า ถือเป็นเกียรติยิ่ง เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วกระทรวงศึกษาธิการของจีนได้ให้รางวัลมิตรภาพภาษาและวัฒนธรรมจีน รางวัลและเกียรติยศเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้ข้าพเจ้าศึกษาเรื่องจีนมากขึ้น ขอขอบคุณรัฐบาลจีนที่ช่วยสนับสนุนการศึกษาของข้าพเจ้า ขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยสอนภาษาจีน และนักวิชาการที่ช่วยข้าพเจ้าในด้านอื่นๆ

(น.216) ตอนค่ำรองนายกรัฐมนตรีเวินเจียเป่าเลี้ยงที่อาคารหยังหยวนไจ ในบริเวณเตี้ยวอวี๋ไถนั่นเอง ท่านรองนายกฯ บอกว่ามณฑลต่างๆ ที่ข้าพเจ้าไปคราวนี้แม้แต่คนจีนยังไม่ค่อยได้ไป เสียดายที่ไม่ได้ไปดูสุสานราชวงศ์เซี่ย (พวกซีเซี่ย) ที่หนิงเซี่ย เพราะราชวงศ์เซี่ยก็ถือว่าสร้างประวัติศาสตร์ที่สำคัญเหมือนกัน เคยรบกับกุบไลข่าน

(น.219) บทกวีบทที่ 2 ที่รองนายกรัฐมนตรีท่องให้ฟังเป็นบทกวีของประธานเหมาเจ๋อตุง แต่งเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1935 แต่งเลียนแบบบทกวีโบราณ ตามทำนองที่เรียกว่า ชิงผิงเย่ บทกวีนี้ชื่อ ภูเขาลิ่วผาน ถอดความเป็นภาษาไทยว่า ฟ้าสูง เมฆบาง มองนกนางแอ่นบินไปทางใต้จนสุดสายตา
ถ้าไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ไม่ใช่ชายชาตรี
นับได้ว่าเดินทางผ่านไปแล้วสองหมื่นลี้
บนยอดเขาสูง ภูเขาลิ่วผาน
ธงแดงโบกสะบัดในสายลมตะวันตก
วันนี้มีสายแพรยาวในมือ
จะมัดมังกรทิศตะวันออกเมื่อไร
ขณะที่เขียนบทกวีนี้ประธานเหมาอยู่ที่บริเวณเทือกเขาลิ่วผาน หรือที่เรียกว่า ภูเขาหล่ง อยู่ที่มณฑลหนิงเซี่ย อำเภอกู้หยวน ที่กล่าวว่ามองนกนางแอ่นบินไปทางใต้นั้น สื่อความคิดถึงสหายสงครามที่เสียชีวิตไปในพื้นที่ทางใต้ พวกทหารกองทัพแดงส่วนมากมีญาติพี่น้องอยู่ที่บ้านเดิมแถบทางใต้ และยังมีกลุ่มทหารที่ทำสงครามกองโจรอยู่ทางใต้ด้วย

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 250

(น.250) มาดามเล่าว่าเนื้อที่รับประทานกันที่เตี้ยวอวี๋ไถเป็นเนื้อที่สั่งจากมณฑลหนิงเซี่ย เป็นวัวที่กินแต่หญ้าธรรมชาติและพืชสมุนไพร ไม่ได้กินอาหารที่ทำจากเนื้อ สัตว์จึงไม่มีโรควัวบ้า

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 258

(น.258) การแปลนวนิยายภาษาจีนแต่ละเรื่องก็ดี การประพันธ์หนังสือสารคดีท่องเที่ยวจีนแต่ละเล่มก็ดี ล้วนแล้วแต่ได้ก่อให้เกิดลูกคลื่นเกี่ยวกับเรื่องจีนๆ ในประเทศไทยระลอกแล้วระลอกเล่า ครั้งนี้เมื่อข้าพเจ้าได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนหนิงเซี่ย ชิงไห่ และทิเบต ทั้งสามมณฑล ก็ได้ก่อให้เกิดความนิยมภาคพื้นตะวันตกของจีนในประเทศไทยอีกระลอกหนึ่ง

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 44

(น. 44) สิงหาคม ค.ศ. 1937 พรรคก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์ร่วมมือกันเป็นหนที่ 2 ปรับกองทัพเป็นกองทัพต้านญี่ปุ่น แบ่งเป็นสองกองทัพใหญ่ คือกองทัพลู่ที่ 8 ดูแลการรบที่มณฑลส่านซี กานซู และหนิงเซี่ย มีนายพลจูเต๋อเป็นผู้บัญชาการ ท่านเผิงเต๋อไหวเป็นรองผู้บัญชาการ และปรับกลยุทธ์แถวลุ่มแม่น้ำฉังเจียง ให้กองทัพลู่ที่ 4 คุม การโจมตีทัพญี่ปุ่นของกองพลที่ 115 แห่งกองทัพลู่ที่ 8 ได้รับชัยชนะงดงาม ทหารญี่ปุ่นตายหมื่นกว่าคน เป็นการลบความเชื่อที่ว่าญี่ปุ่นไม่มีวันแพ้

เจียงหนานแสนงาม หน้า 91

(น. 91) เมื่อวานนี้ได้พบศาสตราจารย์ชาวจีน ท่านนำหนังสือมาให้หลายเล่ม ใช้ข้อมูลดาวเทียมรวบรวมระบบข้อมูลสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ศึกษาน้ำท่วมในจีนเมื่อปีก่อน การใช้ที่ดินการเกษตร ข้าพเจ้าถามว่าจะไปที่ไหนดี ท่านศาสตราจารย์แนะนำมณฑลหนิงเซี่ยและมณฑลชิงไห่

คืนถิ่นจีนใหญ่
คืนถิ่นจีนใหญ่ หน้า 236,238

(น.236) รัฐบาลกลาง มณฑล ภูมิภาคปกครองตนเอง และมหานครต่างๆ มอบของขวัญให้แก่ HKSAR เวลามอบมีตะกร้าใหญ่ๆ มาตั้งบนเวที มีคนแต่งตัวเป็นชนพื้นเมืองจูงเด็กแต่งตัวเป็นชาติต่างๆ เอาดอกไม้ใส่ตะกร้า ขณะที่ประกาศชื่อว่าใครให้ของอะไร ฉายรูปของขวัญให้ดูชัดๆ ในจอ ฉายแผนที่มณฑลและสถานที่ที่ให้ของ และรูปทิวทัศน์ในที่นั้นด้วย มีคำอธิบายดังนี้
รัฐบาลกลาง ให้รูปปั้นทำด้วยสำริดหุ้มทอง เป็นรูปดอกชงโค (Bauhinia) บานตลอดกาล มีคำอธิบายว่าดอกชงโคเป็นสัญลักษณ์ของ HKSAR ตั้งอยู่บนฐานทำด้วยหินแกรนิตสีแดงจากเสฉวน ทำเป็นรูปกลมและรูปเหลี่ยม เป็นสัญลักษณ์ของทั้งประเทศและรูปกำแพงเมืองจีนที่สลักไว้ด้านใน หมายถึง มาตุภูมิที่ยิ่งใหญ่ รูปดอกชงโคเป็นศิลปะแบบจีน หมายถึง อนาคตอันมั่งคั่งของฮ่องกง รูปปั้นดอกชงโคนี้สูง 6 เมตร
มหานครปักกิ่ง ให้แจกันถมปัดแบบจิ่งไท่หลาน แสดงความยินดีทั่วโลก
มหานครเทียนสิน ให้พรมแขวนผนังเป็นรูปกำแพงเมืองจีน
มณฑลเหอเป่ย ให้ขวดแก้วเจียระไนที่เขียนข้างในขวด แสดงความยินดีระดับชาติ
มณฑลซานซี ให้รูปจำลองเจดีย์ที่ตำบลอินเซี่ยงทำด้วยไม้สลัก

(น.238) มณฑลหูหนาน ให้ฉากปัก รูปฤดูใบไม้ผลิที่ทะเลสาบตงถิง
มณฑลกวางตุ้ง ให้หยกสลัก รูปการเดินเรือที่ราบรื่น
ภูทิภาคการปกครองตนเองกว่างซี จ้วง ให้ไม้สลัก รูปสะพานแห่งความสามัคคี
มณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ให้หอยสลัก รูปทั้งโลกร่วมกันเบิกบาน
มณฑลเสฉวน ให้ไม้แดงสลัก รูปเสฉวนร่วมกันฉลองกับชาวฮ่องกง
มหานครฉงชิ่ง ให้รูปปั้นริบบิ้นสีอันเป็นมงคล
มณฑลกุ้ยโจว ให้ฉากไม้แดงประดับด้วยผ้าไหมและบาติกทำเป็นรูปภูเขาร้องเพลงในการฉลองฮ่องกงด้วยความเบิกบาน
มณฑลหยุนหนาน (ยูนนาน) ให้แจกันสำริด รูปนกมงคล
ภูมิภาคปกครองตนเองทิเบต ให้พรมแขวนผนัง รูปภูเขาสูงและแม่น้ำแยงซี
มณฑลส่านซี ให้รูปปั้น เป็นเรื่องชาวส่านซีฉลองการกลับคืนของฮ่องกง
มณฑลกานซู ให้หินฝนนหมึกจากแม่น้ำเถา เป็นเรื่องมังกรเกิดมาจากรากฐานเดียวกัน และทั้งหมดพุ่งขึ้นบนฟ้า
มณฑลชิงไห่ ให้พรมแขวนผนัง รูปคลื่นในทะเลสาบชิงไห่ร่วมต้อนรับการกลับคืนของฮ่องกง
ภูมิภาคปกครนองตนเองหนิงเซี่ย หุย ให้หินเหอหลานสลักรูปกลับจากการต้อนปศุสัตว์