Please wait...

<< Back

Basic Law

จากหนังสือ

คืนถิ่นจีนใหญ่
คืนถิ่นฯ 2540/06/28 หน้า 109

(น.109) 9. นักเรียนหญิงวัย 16 ปี ไม่อยากไปอยู่เมืองจีนเพราะไม่อยากขี่จักรยาน ไม่ชอบคนขากถุย หลังจากฮ่องกงกลับเป็นของจีนแล้วคงไม่เป็นไปอย่างนั้น เราจะรู้จักหวงแหนข้างของของเราเพราะเราจะรู้เรื่องความยากจนของจีนมากขึ้น
10. นักเรียนหญิงวัย 15 ปี คงจะอยู่สบายๆ ไม่ได้แล้ว เพราะคนจีนแผ่นดินใหญ่ยอมรับค่าแรงต่ำ สภาพการทำงานที่ไม่ดี ชั่วโมงทำงานยาว คนฮ่องกงคงแข่งขันไม่ได้และความเป็นอยู่ก็จะเลวลง
11. นักเรียนวัย 15 ปี ตั้งแต่เล็กๆ อยากจะเป็นนักกฎหมาย แต่ตอนนี้กลายเป็นความต้องการอันดับ 2 ไปแล้ว เพราะว่าจะต้องใช้ Basic Law กับกฎหมายจีน แทนกฎหมายอังกฤษ ถ้าจะเรียนกฎหมายต้องเรียนกฎหมายตั้ง 3 อย่าง ยากเกินไป
12. นักเรียนหญิงวัย 16 สนใจอยากเป็นนักหนังสือพิมพ์มาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อเป็น แต่ตอนนี้ต้องคิดหนัก เพราะคงจะต้องมีการจำกัดสิทธิของสื่อมวลชน เป็นนักธุรกิจดีกว่า
13. นักเรียนหญิงวัย 16 อยากเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ป. (ICAC ปราบปรามคอร์รัปชั่น) และอยากไปปราบคอร์รัปชั่นในจีน จีนจะได้เป็นประเทศที่ก้าวหน้า
14. นักเรียนชายวัย 17 ปี อยากเป็นหมอ คงไม่มีปัญหาอะไร นอกจากจะมีนักเรียนแพทย์เก่งๆ จากจีนมาแย่งงาน ทำให้ต้องแข่งขันกันมากขึ้น ที่ดีคือตัวเขาอาจจะมีโอกาสรักษาคนไข้โดยรวมวิธีการแพทย์แบบจีนกับทฤษฎีการแพทย์แบบตะวันตกเข้าด้วยกัน ฐานะของการแพทย์แผนจีนอาจจะดีขึ้นหลังจากการกลับคืนของฮ่องกง

คืนถิ่นฯ 2540/06/30 หน้า 203

(น.203) หน้าประวัติศาสตร์จะต้องจารึกชื่อ นายเติ้งเสี่ยวผิง ผู้คิดหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และโดยแนวทางของความคิดที่ยิ่งใหญ่นี้เองทำให้เราประสบความสำเร็จในการเจรจาทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาฮ่องกง และในที่สุดฮ่องกงก็กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินแม่อีกครั้ง ข้าพเจ้าขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณท่านผู้ทรงเกียรติทั้งชาวจีนและชาวอังกฤษ ที่มีส่วนช่วยในการคลี่คลายปัญหาฮ่องกงประสบความสำเร็จและทุกท่านทั่วโลกที่ได้แสดงความสนใจและสนับสนุนการคืนสู่แผ่นดินแม่ของฮ่องกง และในพิธีที่เคร่งขรึมนี้ ข้าพเจ้าขอแสดงความปรารถนาดีมายังเพื่อนร่วมชาติชาวฮ่องกงกว่า 6 ล้านคนที่ได้กลับคืนมาสู่มาตุภูมิอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังการส่งมอบฮ่องกงแก่จีนแล้ว รัฐบาลจีนจะยึดมั่นและปฏิบัติตามนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” “คนฮ่องกงบริหารฮ่องกง” และ “การปกครองตนเองในระดับสูง” ระบบเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งวิถีชีวิตและตัวบทกฎหมายของฮ่องกงจะไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงในหลักการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อฮ่องกงกลับคืนสู่จีนแล้ว รัฐบาลจีนจะรับผิดชอบด้านการต่างประเทศและการป้องกันประเทศ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงจะมีอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการตามกฎหมาย Basic Law รวมทั้งอำนาจในการพิพากษาขั้นเด็ดขาดของกฎหมาย ชาวฮ่องกงจะมีสิทธิ์และเสรีภาพอย่างเต็มที่ตามกฎหมาย โดยเขตบริหารพิเศษ

คืนถิ่นฯ 2540/07/01 หน้า 210,218,219,225,232

(น.210) การสาบานของสภานิติบัญญัติเฉพาะกาล (Provisional Legislative Council-Legco มีหน้าที่ออกกฎหมาย ควบคุมการทำงานของฝ่ายบริหาร) สาบานต่อนายต่งเจี้ยนหัว การสาบานของผู้พิพากษาศาลฎีกา (Court of Final Appeal มีหน้าที่พิจราณาคดีฎีกา ใส่เสื้อคลุมสีดำ) และผู้พิพากษาศาลสูง (High Court ตัดสินได้ทั้งคดีแพ่งและอาญา ใส่เสื้อคลุมสีแดง) สาบานต่อนายต่งเจี้ยนหัว คำสาบานนั้นมีเนื้อหาเหมือนกันคือ จะยึดมั่นในกฎหมาย Basic Law มีความภักดีต่อ HKSAR รับใช้ HKSAR ด้วยความซื่อสัตย์ เมื่อเสร็จแล้วนายกรัฐมนตีหลี่เผิงกล่าวสุนทรพจน์ว่า ในโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ ในนามของรัฐบาลจีน ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีในโอกาสการสถาปนารัฐบาลของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ข้าพเจ้าใคร่ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาในพิธีนี้ ข้าพเจ้าขอขอบคุณสมาชิกคณะกรรมการเตรียมการตั้ง HKSAR และสมาชิกคณะกรรมการคัดเลือกรัฐบาลแรกของ HKSAR และผู้ที่สนับสนุนการกลับคืนสู่จีนของฮ่องกง ตั้งแต่วันนี้กฎหมาย Basic Law ของ HKSAR มีผลบังคับใช้หัวหน้าคณะผู้บริหารท่านแรก พนักงานรัฐชั้นผู้ใหญ่ สมาชิกสภาบริหาร สมาชิกสภานิติบัญญัติเฉพาะกาล ผู้พิพากษาศาลฎีกาและศาลสูง ท่านทั้งหลายได้สาบานตนเข้าดำรงตำแหน่งแล้วประวัติศาสตร์ได้มอบความรับผิดชอบที่สำคัญให้แก่ท่าน ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะปฏิบัติตาม Basic Law อย่างตั้งใจ ทำหน้าที่ด้วยความสำนึกสมกับที่ประชาชนคาดหวัง ด้วยความรักจีนและรักฮ่องกง

(น.218) ในวันแห่งการเฉลิมฉลองระดับชาติเนื่องในการกลับคืนของฮ่องกงเราขอน้อมรำลึกและยกย่องนายเติ้งเสี่ยวผิงผู้ล่วงลับไปไม่นานมานี้ ท่านเป็นผู้ริเริ่มการมองการณ์ไกลที่สร้างสรรค์หลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ด้วยปัญญาอันยอดเยี่ยมและความเป็นรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นำทางที่ถูกต้องให้เราแก้ปัญหาฮ่องกงโดยการเจรจาทางการทูต และให้รักษาความมั่งคั่งและเสถียรภาพของฮ่องกงในระยะยาว หลังจากที่รัฐบาลจีนเริ่มได้อธิปไตยในฮ่องกง ฮ่องกงยังคงใช้ระบบทุนนิยมต่อไป และใช้ระบบเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กฎหมายก็ไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ส่วนใหญ่ของประเทศยังใช้ระบบสังคมนิยม ฮ่องกงในฐานะที่เป็นเขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีนจะมีอำนาจปกครองตนเองสูงตามกฎหมาย Basic Law ซึ่งรวมทั้งด้านการบริหาร นิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการที่เป็นอิสระรวมทั้งการวินิจฉัยความขั้นสุดท้าย รัฐบาลกลางจะบริหารในด้านการต่างประเทศและการป้องกันประเทศของ HKSAR ตามกฎหมาย เราขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนายต่งเจี้ยนหัว หัวหน้าคณะผู้บริหารของ HKSAR ผู้ซึ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันนี้ เรามีความมั่นใจเต็มที่ต่อ HKSAR ภายใต้การนำของเขาและจะสนับสนุนเต็มที่ Basic Law ของ HKSAR จะไม่มีผลปฏิบัติแต่ในเฉพาะฮ่องกงเท่านั้น แต่หน่วยราชการต่างๆ ของรัฐบาลกลางก็ต้องถือตามเช่นเดียวกัน รวมไปถึงมณฑล ภูมิภาคปกครองตนเอง มหานครทั้งหลายที่อยู่ใต้รัฐบาลกลางโดยตรง จะไม่มีหน่วยงานของรัฐบาลกลาง

(น. 219) หรือรัฐบาลท้องถิ่นใดที่สามารถเข้าแทรกแซงงานที่กำหนดไว้ใน Basic Law ว่าเป็นหน้าที่ของ HKSAR เองได้ หลังจากที่กลับคืนสู่มาตุภูมิ ฮ่องกงยังคงมีสิทธิตามกฎหมายที่มีอยู่เดิม ผู้ที่อยู่อาศัยในฮ่องกงยังมีสิทธิและเสรีภาพตามกฎหมาย และมีความเท่าเทียมกันภายใต้ความคุ้มครองของกฎหมาย บทบัญญัติของข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิด้านการเมือง (The International Covenant on Civil and Political Rights) ข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมละวัฒนธรรม (The International Covenant on Economic Social and Cultural Rights) และอนุสัญญาแรงงานระหว่างประเทศที่ใช้กับฮ่องกงยังคงใช้ปฏิบัติอยู่โดยผ่านทางกฎหมายของฮ่องกง ระบบประชาธิปไตยที่ค่อยๆ ปรับปรุงให้เหมาะสมกับความเป็นจริงในฮ่องกง เป็นการประกันที่ดีที่สุดสำหรับเสถียรภาพทางสังคมและการเมืองตาม Basic Law ฮ่องกงจะค่อยๆ พัฒนาประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายสูงสุดที่จะเลือกหัวหน้าคณะผู้บริหารและสภานิติบัญญัติโดยการเลือกตั้งทั่วไป

(น.225) ขณะนี้เราสามารถก้าวไปข้างหน้าโดยมีรากฐานที่แข็งแกร่งซึ่งเกิดจากความสำเร็จในอดีต โดยแนวทางของ Basic Law เป็นโครงสร้างรัฐธรรมนูญของ HKSAR กฎหมายนี้ได้กำหนด “การปกครองตนเองในระดับสูง” ให้เรา เป็นการกำหนดระบบสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองอย่างชัดเจน ต่างจากระบบในแผ่นดินใหญ่ เป็นการวางระบบที่ต่างกันในประเทศเดียวกัน เพื่อปกป้องสิทธิ วิถีชีวิตของชาวฮ่องกง และรักษาข้อผูกพันของเรา ในปัจจุบันนี้ฮ่องกงมีเศรษฐกิจที่เป็นอิสระที่สุดในโลก มีธุรกิจการค้าเสรี มีการจัดการเงินที่รัดกุม และการเก็บภาษีในอัตราต่ำ มีกฎหมายที่เป็นระเบียบ มีรัฐบาลนำโดยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสำเร็จเหล่านี้จะได้รับประกันโดย Basic Law ผู้นำในจีนได้กล่าวอยู่เสมอว่าความมั่งคั่งและเสถียรภาพในฮ่องกงมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศของเราให้ทันสมัย ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติตามหลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” “การปกครองตนเองในระดับสูง” และ “คนฮ่องกงบริหารฮ่องกง” ให้ได้ผลเป็นขั้นแรกในการรวมจีนขั้นสุดท้าย ประชาชนชาวฮ่องกงทั้งหลาย นี่คือภารกิจของเรา เบื้องหน้าของเราคือ ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงและระยะทางอีกยาวไกล ประเทศของเราได้ให้สิทธิการปกครองตนเองในระดับสูงแก่เรา ฉะนั้นเวลานี้เป็นเวลาที่เราจะต้องใช้สติปัญญาของเราทำงานอย่างแข็งขันเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น

(น.232) และพยายามรักษาสังคมให้สะอาด เราให้ความมั่นใจว่าทุกคนจะอยู่ใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และเราจะจัดให้มีสิ่งแวดล้อมที่จูงใจสำหรับนักลงทุนและชาวฮ่องกง เราจะรักษาเสรีภาพและวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เราให้ความมั่นใจว่าคนฮ่องกงยังคงมีเสรีภาพในการพูด การชุมนุม การรวมกันเป็นสมาคม เสรีภาพของสื่อมวลชน และเสรีภาพอื่นๆ ตามที่มีหลักประกันจากข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ประชาธิปไตยเป็นเครื่องหมายสำหรับยุคใหม่ของฮ่องกง รัฐบาล HKSAR จะเดินหน้าต่อไปในรูปแบบที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นตามบทบัญญัติที่เขียนไว้ใน Basic Law เราจะให้โอกาสแก่ทุกชนชั้น ในสังคมและองค์การทางการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมาย แก่คนที่มีความคิดทางการเมืองต่างๆ กัน ให้มีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง รัฐบาล HKSAR จะมีทัศนคติที่เปิดกว้างและรับผิดชอบต่อส่วนรวม ฮ่องกงมีเจ้าหน้าที่รัฐที่ดีเด่นและซื่อสัตย์ พวกเขาจะมีบทบาทสำคัญภายใต้หลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐเราจะรับใช้ชุมชน ทำงานเพื่อฮ่องกงที่ดีขึ้น เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฮ่องกงที่เรามีสิทธิกำหนดชะตาชีวิตของตนเองภายใต้หลัก “หนึ่งประเทศ สองระบบ” เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความแน่วแน่ รอบคอบและมุ่งมั่น เราจะทำงานด้วยกันเพื่ออนาคตอันดีขึ้น วิสัยทัศน์ของเราสำหรับฮ่องกงคือ

คืนถิ่นฯ 2540/07/03 หน้า 260

(น.260) นอกจากคนมาเล่นการพนัน พวกมามาเก๊าก็เป็นพวกที่ลี้ภัยการเมืองและความอดอยากจากจีนและเวียดนาม ที่รุนแรงที่สุดคือช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม พวกเรดการ์ดบุกมาเก๊า ถูกทหารโปรตุเกสยิงตายไปมาก ผู้ว่าราชการโปรตุเกสเห็นว่าโปรตุเกสควรแก้ปัญหาโดยการทิ้งมาเก๊า เผอิญใน ค.ศ. 1974 มีการปฏิวัติของทหารในโปรตุเกส รัฐบาลฝ่ายซ้ายที่ได้อำนาจพยายามเลิกการมีอาณานิคม (โมซัมบิก อังโกลา ติมอร์ตะวันออก) แต่จีนไม่ยอมรับมาเก๊าคืน เพราะสนใจแต่จะเอาฮ่องกงคืน ต่อมาใน ค.ศ. 1975 โปรตุเกสทำความตกลงให้มาเก๊าเป็นดินแดนพิเศษของจีนที่อยู่ภายใต้การบริหารของโปรตุเกส และสามารถตกลงกับจีนได้สำเร็จใน ค.ศ. 1987 โดย Sino-Portuguese Joint Declaration ว่าใน ค.ศ. 1999 จึงจะส่งมอบให้จีนโดยเด็ดขาด มาเก๊าจะเป็นเขตบริหารพิเศษมาเก๊าของสาธารณรัฐประชาชนจีนสามารถปกครองตนเองได้ มีวิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างเดิมไปอีก 50 ปี และมี Basic Law เป็นกฎหมายแม่บทเช่นเดียวกับในฮ่องกง คนมาเก๊าถือเป็นพลเมืองโปรตุเกส จะไปโปรตุเกสเมื่อไรก็ได้ แต่คนฮ่องกงไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นคนอังกฤษ จึงมีคนฮ่องกงบางคนที่ไม่อยากอยู่ใต้ระบบใหม่พยายามมาอยู่ในมาเก๊าเพื่อให้ได้สัญชาติโปรตุเกส โปรตุเกสเริ่มปฏิรูปการเมืองในมาเก๊าให้เป็นระบบรัฐสภา มีสภาเดียว ตั้งแต่ ค.ศ. 1976 ไม่มีพรรคการเมือง มีแต่กลุ่มการเมืองปัจจุบันยังปกครองแบบเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส มีประธานาธิบดีโปรตุเกสเป็นประมุข ตั้งผู้ว่าราชการมาเป็นผู้แทนในการปกครอง

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานฯ 2542/04/13 หน้า 17

(น. 17) ท่านรองนายกรัฐมนตรีพูดถึงเรื่องการแก้ไขมลภาวะในน้ำที่ทะเลสาบเตียนฉือในนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน และการแก้ไขสภาพอากาศเป็นพิษโดยใช้รถไฟฟ้า รถยนต์ก็ให้ใช้น้ำมันไร้สารตะกั่ว แก้ไขระบบท่อไอเสีย พูดกันถึงเรื่องการจัดกีฬาโอลิมปิกว่าจะพยายามจัดใน ค.ศ. 2008 หวังว่าไทยจะสนับสนุน เมื่อเลี้ยงเสร็จกลับมาที่อาคาร 10 ข้าพเจ้าวิ่งอยู่ในห้องประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วจึงลงมือเขียนหนังสือ อ่าน China Daily มีเรื่องการเตรียมกฎหมาย Basic Law ที่จะใช้ในมาเก๊าให้ทันในวันที่ 20 ธันวาคมปีนี้