Please wait...

<< Back

ซานซี

จากหนังสือ

มุ่งไกลในรอยทราย
มุ่งไกลในรอยทราย หน้า 365

(น.365)
ราชวงศ์เหนือ
แคว้นทั้ง 16 ของอนายชน 5 เผ่า ค.ศ. 304 – 439
แคว้น เชื้อชาติ มณฑล ระยะเวลา (ค.ศ.)
ราชวงศ์จ้าวภาคต้น ฉยุงหนู ซานซี 304 – 329


ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย
ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 162

(น.162) วัดนี้สร้างเสร็จใน ค.ศ. 779 ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าพุทธศาสนาจะเข้ามาในทิเบตแล้ว แต่ยังไม่มีพระสงฆ์และการประกอบพิธีกรรมที่ถูกต้อง กษัตริย์ฉือซงเต๋อจ้าน (ตรีซงเตเซน Trisong Detsen) ผู้สร้างวัดซังเยจึงตัดสินใจเชิญพระ 3 รูป คือ พระศานตรักษิตะ พระปัทมสัมภวะ แต่ต่อมาเชิญพระกมลศีละจากอินเดีย พระปัทมสัมภวะเป็นผู้เลือกสถานที่ก่อสร้าง และพระศานตรักษิตะเป็นผู้ออกแบบ เมื่อสร้างเสร็จแล้วพุทธศาสนากลายเป็นศาสนาประจำรัฐ ทางวัดเชิญพระผู้มีความรู้จากจงหยวนและอินเดียมาแปลพระสูตรเป็นภาษาทิเบต (คำว่า จงหยวน ภาษาจีนแต้จิ๋วว่า ตงง้วน หรือ China Proper ในภาษาอังกฤษนั้น คือ พื้นที่ช่วงกลางและช่วงใต้ของลุ่มแม่น้ำหวงเหอ ที่เป็นจุดกำเนิดอารยธรรมลุ่มแม่น้ำหวงเหอ พื้นที่ส่วนใหญ่ของจงหยวนอยู่ในมณฑลเหอหนาน บางส่วนอยู่ทางตะวันตกของมณฑลซานตง ทางใต้ของมณฑลเหอเป่ยกับมณฑลซานซี) กษัตริย์ฉือซงเต๋อจ้านคัดเลือกขุนนาง 7 คนมาบวชเป็นลามะ 7 รูปแรก วัดซังเยจึงเป็นวัดแรกที่ถึงพร้อมด้วยพระรัตนตรัย คำว่า ซัมเย่ (หรือ ซังเย ตามเสียงภาษาจีน) เป็นภาษาทิเบต แปลว่า “คิดไม่ถึง” เมื่อกษัตริย์ฉือซงเต๋อจ้านกล่าวขึ้นว่าจะสร้างวัด พระปัทมสัมภวะใช้เวทมนตร์เสกภาพวัดขึ้นมาในอุ้งมือ

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 330

(น. 330) อารยธรรมจีนมีจุดกำเนิดที่ลุ่มแม่น้ำหวงเหอหรือฮวงโห พื้นที่ของอารยธรรมเมื่อแรกเริ่มอยู่แถบมณฑลซานซี (ภาษาไทย-ชานสี) ซานตง (ชานตุง) และเหอหนาน (โฮนาน) ในสมัยชุนชิว-จั้นกั๋ว แคว้นต่างๆ ที่อยู่ในเจียงหนาน เช่น แคว้นอู๋ แคว้นเย่ว์ ยังมีความเจริญน้อยกว่าแคว้นต่างๆ ที่อยู่ในจุดเกิดอารยธรรม อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้นในเจียงหนาน 2 ช่วง คือสมัยราชวงศ์เหนือใต้ และสมัยราชวงศ์ซ่งใต้

คืนถิ่นจีนใหญ่
คืนถิ่นจีนใหญ่ หน้า 236

(น.236) ที่ปรึกษาเพื่อให้คำปรึกษาในด้านการจัดการและวิธีการลงทุนจากกองทุนที่ดิน เมื่อมอบแล้วมีการประกาศรัฐบาลกลาง มณฑล ภูมิภาคปกครองตนเอง และมหานครต่างๆ มอบของขวัญให้แก่ HKSAR เวลามอบมีตะกร้าใหญ่ๆ มาตั้งบนเวที มีคนแต่งตัวเป็นชนพื้นเมืองจูงเด็กแต่งตัวเป็นชาติต่างๆ เอาดอกไม้ใส่ตะกร้า ขณะที่ประกาศชื่อว่าใครให้ของอะไร ฉายรูปของขวัญให้ดูชัดๆ ในจอ ฉายแผนที่มณฑลและสถานที่ที่ให้ของ และรูปทิวทัศน์ในที่นั้นด้วย มีคำอธิบายดังนี้ รัฐบาลกลาง ให้รูปปั้นทำด้วยสำริดหุ้มทอง เป็นรูปดอกชงโค (Bauhinia) บานตลอดกาล มีคำอธิบายว่าดอกชงโคเป็นสัญลักษณ์ของ HKSAR ตั้งอยู่บนฐานทำด้วยหินแกรนิตสีแดงจากเสฉวน ทำเป็นรูปกลมและรูปเหลี่ยม เป็นสัญลักษณ์ของทั้งประเทศและรูปกำแพงเมืองจีนที่สลักไว้ด้านใน หมายถึง มาตุภูมิที่ยิ่งใหญ่ รูปดอกชงโคเป็นศิลปะแบบจีน หมายถึง อนาคตอันมั่งคั่งของฮ่องกง รูปปั้นดอกชงโคนี้สูง 6 เมตร
มหานครปักกิ่ง ให้แจกันถมปัดแบบจิ่งไท่หลาน แสดงความยินดีทั่วโลก
มหานครเทียนสิน ให้พรมแขวนผนังเป็นรูปกำแพงเมืองจีน
มณฑลเหอเป่ย ให้ขวดแก้วเจียระไนที่เขียนข้างในขวด แสดงความยินดีระดับชาติ
มณฑลซานซี ให้รูปจำลองเจดีย์ที่ตำบลอินเซี่ยงทำด้วยไม้สลัก

หวงเหออู่อารยธรรม
หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 116

(น.116) แม่น้ำหวงเหอเป็นแม่น้ำยาวอันดับสองของจีน มีต้นน้ำจากเทือกเขาที่ราบสูงทิเบต-ชิงไห่ ในเขตกลางมณฑลชิงไห่ สูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,500 เมตร ไหลผ่านมณฑลชิงไห่ เสฉวน กานซู่ หนิงเซี่ย มองโกเลียใน ส่านซี ซานซี เหอหนาน และซานตง ออกสู่ทะเลโป๋ไห่ที่รอยต่ออำเภอเขิ่นลี่กับอำเภอลี่จิน

หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 157

(น.157) จากนั้นไปสุสานกวนอู ตอนนี้กำลังสร้างลานจอดรถ มีที่แสดงงิ้ว ในแต่ละปีที่มีพิธีไหว้กวนอูจะจัดงานในวันขึ้น 13 ค่ำเดือนอ้าย (ทำไมก็ไม่ทราบ) เดือน 5 และเดือน 9 ประตูทางเข้าสร้างในราชวงศ์ชิง ตัวสุสานสร้างในรัชศกว่านลี่ ราชวงศ์หมิง เป็นสุสานฝังหัวกวนอู ส่วนตัวฝังที่ตังหยัง มณฑลหูเป่ย ฉันรู้สึกว่าฝังแบบตัวไปทาง หัวไปทางนี่ไม่ดีเลย แต่ถ้าไม่ถือ คิดเสียว่าตายไปแล้วก็ทิ้งร่างก็ไม่เป็นไร ดูเหมือนว่าโจโฉเป็นผู้ฝังหัวกวนอู เพราะข้าศึกตัดหัวกวนอูส่งให้โจโฉเพื่อเอาความดีความชอบ แต่โจโฉกลับทำพิธีศพให้อย่างสมเกียรติ ทั่วประเทศมีศาลเจ้ากวนอูมากมาย แต่ที่สำคัญมี 3 แห่ง คือ
1. กวนหลิน เมืองลั่วหยัง
2. กวนหลิง อำเภอตังหยัง มณฑลหูเป่ย
3. อำเภออวิ้นเฉิง มณฑลซานซี เป็นบ้านเก่า

หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 199,201

(น.199) ช่วงบ่ายไปหอสมุดแห่งชาติ ที่จริงที่ไปเที่ยวนี้เพราะตอนที่ไปประชุม ICAI ที่ Berkeley ไปพบคุณซุนเฉิงเจียน ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการ ประพจน์จำได้ไหมที่เขาแนะนำที่งานเลี้ยงที่ Modern Art Museum ดูเขาไม่ค่อยจะสันทัดภาษาอังกฤษนัก ฉันไปคุยภาษาจีน (ที่จริงก็แบบไม่ค่อยจะสันทัดเหมือนกัน) เขาก็เลยชอบใจ นัดกันว่าตอนฉันไปเมืองจีน จะได้เจอกันอีกที

(น.201) ดูนิทรรศการหนังสือเก่า ผู้บรรยายคือ หัวหน้าฝ่ายหนังสือโบราณหายากชื่อ คุณหวงรุ่นหวา หนังสือเหล่านี้รวบรวมหลังสมัยปลดแอก ใน ค.ศ. 1937 ทหารญี่ปุ่นบุกเข้ายึดมณฑลซานซี พวกทหารปาลู่จวินบอกชาวบ้านให้เอาหนังสือและของมีค่าไปซ่อน หลังจากปลดแอกปักกิ่งในเดือนมกราคม ค.ศ. 1949 รัฐบาลปักกิ่งขอให้รัฐบาลท้องถิ่นส่งหนังสือเหล่านี้มาเก็บไว้ที่ปักกิ่ง มีทั้งหมด 4,800 กว่าเล่ม อยู่ในสภาพที่ไม่ดี จึงต้องซ่อมแซมใช้เวลานานถึง 17 ปี เล่มแรกที่ดูเป็นหนังสือคัมภีร์ปรัชญาปารมิตาสูตรที่เขียนในราชวงศ์จิน ได้มาจากวัดกวงเซิ่งซื่อ

หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 222

(น.222) กลับไปที่เตี้ยวอวี๋ไถ แล้วไป สถานทูตเพื่อพบกับคณะราชการและ คนไทยในปักกิ่ง มีนักเรียนและนักธุรกิจจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้คุยกันมากเหมือนคราวก่อน เพราะมีจำนวนมากด้วย กลับเตี้ยวอวี๋ไถอีกครั้ง รับประทานอาหารค่ำ แล้วไปสนามบิน โดยสารเครื่องบิน China Eastern Airlines MU 7102 เดินทางไปนครไท่หยวน มณฑลซานซี ในเครื่องบินคุยกับมาดามฉงจวินอีก พักที่โรงแรมอิ๋งเจ๋อ

หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 234

(น.234) จากที่นี่นั่งรถกลับโรงแรมอิ๋งเจ๋อ ตอนกลางวันมีผู้ว่าราชการมณฑลซานซีมารับ วันนี้เป็นวันแรกที่พบกับบุคคลระดับผู้ว่าราชการมณฑลแรกที่เลี้ยง เพราะการประชุมเสร็จพอดี ท่านผู้ว่าราชการกล่าวต้อนรับในนามของประชาชน 30 ล้านคนของมณฑล ท่านบอกว่าเพิ่งกลับจากการประชุมที่ปักกิ่ง เมื่อเช้านี้เอง ท่านได้เห็นในโทรทัศน์ว่าได้พบพูดคุยกับประธานาธิบดี ท่านว่ากำหนดการเดินทางของฉันแน่นมาก เพิ่งมาถึงก็ได้ไปกำแพงเมืองผิงเหยาและบ้านตระกูลเฉียวแล้ว ที่จริงอยากให้มาอยู่หลายๆ วัน เพราะมณฑลซานซีเป็นบ่อเกิดอารยธรรมจีน มีแหล่งโบราณสถานมากมาย ทางเหนือของมณฑลที่จะไปดูมีถ้ำหยุนกั่ง ภูเขาเหิงซาน (เป่ยเอี้ย) ซึ่งเป็นเขาสำคัญหนึ่งใน 5 ของจีน ทางใต้มีเจดีย์โบราณสร้างด้วยไม้ มีภูเขาอู่ไถซาน ศาลเจ้ากวนอู (เป็นบ้านเกิดของกวนอู) ทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่น่าสนใจ มีน้ำตกหูโข่วในอำเภอจี๋

หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 243,252

(น.243) ประเทศจีนมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ 5,000 ปี มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ถึงพันหมื่นลี้ ดังนั้นจึงมีโบราณวัตถุและโบราณสถานมากมาย ที่มณฑลซานซีมีโบราณสถานสร้างมาตั้งแต่โบราณถึงราชวงศ์ชิง มีแหล่งโบราณสถานกว่า 18,000 แห่ง

(น.252) ต้าถงตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลซานซี ติดเหอเป่ยและมองโกเลียใน อยู่บนที่ราบสูงดินเหลือง (loess plateau) สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ล้อมรอบด้วยภูเขา ประกอบด้วย 4 เขตในเมือง และ 7 อำเภอ มีเนื้อที่รวม 14,127 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2.8 ล้านคน

เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอก
เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนนอกหน้า 130

(น.130) พุทธสมาคมให้หนังสือเรื่อง ประติมากรรมพุทธศาสนาในมณฑลซานซี ดีมาก อธิบายเรื่องลวดลายต่างๆ สีที่ใช้เป็นอย่างไร อาจารย์จังเยี่ยนชิวให้ที่คั่นหนังสือ ซึ่งเป็นของที่ระลึกมหาวิทยาลัยปักกิ่งครบ 100 ปี และฉากเล็กๆ ด้านหนึ่งเป็นรูปหมีแพนด้า อีกด้านหนึ่งเป็นรูปกำแพงเมืองจีน