Please wait...

<< Back

มหาศาลาประชาชน

จากหนังสือ

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 88, 94

(น. 88) รูป 72 พบรองประธานาธิบดีหูจิ่นเทา
(น. 88) ตอนบ่ายไปพบรองประธานาธิบดีหูจิ่นเทาที่มหาศาลาประชาชน ห้องซินเกียง ท่านผู้นี้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีเมื่อปีที่แล้ว เป็นผู้ที่มีประวัติดีเด่น จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมชลประทาน มหาวิทยาลัยชิงหวา ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในพรรค เช่น ได้เป็นสมาชิกคณะกรรมการพรรคที่มีอายุน้อยที่สุดที่จีนเคยมี ตอนที่เป็นเลขาธิการพรรคมณฑลกุ้ยโจวก็มีอายุน้อยที่สุด เป็นเลขาธิการพรรคที่เป็นพลเรือนคนแรกของภูมิภาคปกครองตนเองทิเบต (5 คนที่เป็นเลขาธิการก่อนหน้าล้วนเป็นทหาร) ตอนเป็นกรรมการโปลิตบุโรก็เป็นกรรมการที่มีอายุน้อยที่สุด
(น. 94) รูป 73 ออกจากมหาศาลาประชาชน
(น. 94) ท่านรองประธานาธิบดีฝากถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ข้าพเจ้าลาท่านหู ออกจากมหาศาลาประชาชนกลับไปที่เตี้ยวอวี๋ไถ รับประทานอาหารเย็นแล้วไปท่าอากาศยาน มีรองอธิบดีกรมเอเชียมาส่ง นั่งเครื่องบิน China Eastern Airline เที่ยวบิน MU 5170 ไปสนามบินหลูโข่วที่นานกิง มีพวกเจ้าหน้าที่มณฑลเจียงซูมาต้อนรับ ฝ่ายไทยมีคุณศรศิลป์ พลเตชา กงสุลใหญ่ ณ เซี่ยงไฮ้ และภรรยา พวกเจ้าหน้าที่เจียงซูกับข้าราชการสถานกงสุลมารับหลายคน ไปที่โรงแรมจินหลิง โรงแรมนี้สร้างขึ้นหลายปีแล้ว แต่ยังปรับปรุงอย่างดี เป็นโรงแรมที่เป็นของจีนแท้ๆ ไม่ได้เป็นสาขามาจากต่างประเทศ ทางสถานกงสุลและโรงแรมจัดอาหารค่ำเอาไว้ เลยฉลองศรัทธา

เจียงหนานแสนงาม หน้า 162

(น. 162) แผ่นลงรักเป็นหินฝนหมึก พร้อ มกล่องประดับมุก ทำแทนของขวัญที่ถวายจักรพรรดิญี่ปุ่น ถาดลายนกเฟิ่ง (phoenix) ทำแทนของที่ให้อดีตประธานาธิบดีกอร์บาชอฟ แจกันประดับมุกสูงราว 2 เมตร เป็นรูปเทพธิดาถวายพระพรวันประสูติเจ้าแม่ตะวันตก เป็นผลงานใหญ่ที่สุดในเรื่องประดับมุก ฉากชุมนุมพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ ประดับด้วยหิน งา เปลือกหอย มีรูปพระศากยมุนี พระศรีอารยเมตไตรย พระมัญชุศรี พระสมันตภัทร เจ้าแม่กวนอิม และยังมีจตุโลกบาลกับพระสาวกด้วย ฉากลงรักแดงรูปพระพุทธเจ้าตอนประสูติ ลงรักทาสี มีมังกร 9 ตัวมาพ่นน้ำสรงถวาย ในภาพเห็นพระพุทธเจ้าทรงพระดำเนิน 7 ก้าว แต่ละก้าวมีดอกบัวรองรับ พระบิดาอยู่ข้างขวา พระมารดาอยู่ข้างซ้าย ภาพฝาผนังฝังหินหยกบนเครื่องรัก ภาพนี้เคยแสดงไว้ในห้องเจียงซูของมหาศาลาประชาชนตอนสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนครบ 10 ปี ผู้ออกแบบคือ เฉินจือฟู่ เป็นศิลปินใหญ่รุ่นแรกของโรงงาน ใช้ปะการัง หยกดำ หยกเขียว ฉากจำลองจากของขวัญถวายจักรพรรดิญี่ปุ่น เป็นรูปนกกระเรียนทำด้วยหยก

เจียงหนานแสนงาม หน้า 216

(น. 216)พฤษภาคมเจิ้นเจียงจะไปจัดประชุมการค้าที่ปักกิ่ง ที่มหาศาลาประชาชน และจะไปติดต่อหน่วยงานทั้งในและนอกประเทศ จัดงานแบบนี้ทุกสองปี เชิญนักธุรกิจต่างชาติ สถานทูต กระทรวงต่างๆ รวมทั้งตัวแทนวิสาหกิจใหญ่ของจีนมาร่วมประชุม พูดถึงหอฝูหรงที่ข้าพเจ้าขึ้นไปเมื่อบ่ายนี้ก็มีเรื่องเล่าถึงงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระนางซูสีไทเฮา มีคนถวายพระพรให้มีพระชนม์พันปีหมื่นปี ก็ไม่พอพระทัยเพราะยังมีขอบเขตจำกัด มีเด็กเล็กๆ คนหนึ่งพูดว่า พระชนม์ยืนเท่าฟ้าดิน เป็นที่พอพระทัยมาก เพราะถือว่ายาวไม่มีเวลาจำกัด เสร็จแล้วกลับไปที่ห้องพัก เมื่อบ่ายนี้ทางกรุงเทพฯ ส่งข่าวมาเรื่องคุณพ่อของปกรณ์ถึงแก่กรรม ปกรณ์จึงต้องกลับก่อนโดยตกลงกันว่าจะไปซูโจว แล้วไปขึ้นเครื่องบินที่เซี่ยงไฮ้ เปิดโทรทัศน์ดูมีเรื่องนายกรัฐมนตรีจูหรงจีพบกับประธานาธิบดีคลินตันที่สนามหน้าทำเนียบขาว และมีเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์ Melissa

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย
ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 129

(น.129) รูป 113 คุณลุง Niman และภริยานั่งอยู่ด้านขวามือของข้าพเจ้า
(น.129) คันหนึ่ง เครื่องเกี่ยวข้าวคันหนึ่ง ปัจจุบันนี้ทำไร่ทำนาต้องใช้เครื่องจักรช่วยจึงได้ผลดี ทำเนยกินเอง ชาวบ้านแถวนี้ทำเองทั้งนั้น ไม่มีใครซื้อจากคนอื่น รายได้ 120,000 หยวนต่อปี ตอนนี้คุณลุงอายุ 63 เป็นชาวนาดีเด่นระดับชาติ ไปรับเกียรติบัตรที่มหาศาลาประชาชนเมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1989 ว่าแล้วคุณลุงวิ่งไปเอาเกียรติบัตรและรายชื่อชาวนาดีเด่นมาโชว์ มีรูปหมู่ผู้ที่ได้รับรางวัลติดไว้บนชื่อ

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 208-209,211

(น.208) วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2544
ลงไปวิ่งครึ่งชั่วโมง รู้สึกสบายขึ้นไม่อึดอัด อากาศดี ในสระมีดอกบัวหลวงสีชมพู คราวที่แล้วมาไม่เห็น เพราะดอกบัวจะมีเฉพาะฤดูนี้ ถึงเดือนตุลาคมก็หมดแล้ว รับประทานอาหารเช้าเจ็ดโมงครึ่ง สิบโมงไปมหาศาลาประชาชน ที่ห้องฝูเจี้ยน พบนายกรัฐมนตรีจูหรงจีและภริยาคือ มาดามเหลาอาน สนทนากันประมาณครึ่งชั่วโมง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า
(น.208) รูป 162 เข้าพบนายกรัฐมนตรีจูหรงจีและภริยา (มาดามเหลาอาน) ที่มหาศาลาประชาชน
(น.209) รู้สึกดีใจที่ข้าพเจ้ามาเยือนจีนเป็นครั้งที่ 14 ถือเป็นเพื่อนเก่าที่ทราบเรื่องวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมของจีนเป็นอย่างดี การเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเยือนจีน ช่วยให้ความสัมพันธ์จีนไทยดีขึ้น ทั้ง 7 เล่มคนจีนก็ชอบอ่าน ข้าพเจ้าพูดถึงประเทศจีนอีก 6 มณฑลที่ยังไม่ได้ไป (กุ้ยโจว เจียงซี ฮกเกี้ยน ไหหลำ หูหนาน และภูมิภาคปกครองตนเองมองโกเลียใน) ขอบคุณรัฐบาลจีนที่ช่วยส่งครูสอนภาษาจีนให้ และจัดการต้อนรับดีทุกๆ ครั้งที่มาเยือน ท่านนายกรัฐมนตรีจูหรงจีบอกว่าท่านเป็นคนหูหนาน ข้าพเจ้าบอกว่ายังไม่เคยไปหูหนาน แต่ว่าเคยได้รับประทานอาหารหูหนานที่ปักกิ่งรู้สึกว่าอร่อยมาก หลังจากนั้นพูดคุยกันถึงเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับไทย-จีน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้พบและสนทนากับท่านนายกรัฐมนตรีจูหรงจี ครั้งแรกที่พบที่มาเก๊าไม่ได้พูดกัน ตอนที่ท่านไปเมืองไทยข้าพเจ้าก็ไม่ได้พบ ได้ต้อนรับภริยาของท่านที่ศิลปาชีพสวนจิตรลดา จากมหาศาลาประชาชนข้าพเจ้าตรงไปบ้านครูจี้หนานเซิง บ้านครูจี้อยู่ชั้นบนไม่มีลิฟต์ แต่ครูทุกคนยังแข็งแรงขึ้นบันไดไปได้ไม่มีปัญหา สามีของครูจี้หนานเซิงคือ ท่านทูตเหลียงเฟิง แต่ก่อนเคยทำงานที่สถานทูตจีนในเมืองไทย แล้วไปเป็นทูตที่เซเนกัล พม่า และลาว ตอนที่ท่านทูตและครูจี้อยู่ที่ลาวข้าพเจ้าเคยเชิญทั้งสองท่านไปรับประทานอาหารค่ำที่สถานทูตไทยในเวียงจันทร์ ถ่ายรูปด้วยกัน ตอนนั้นข้าพเจ้ายังตัวเล็ก
(น.211) ต่างประเทศ แต่เป็นฝ่ายพูดภาษาอังกฤษ (ครูจี้พูดภาษาฝรั่งเศส) และมีน้องสาวของท่านทูตเหลียงเฟิงอีกคนหนึ่ง ครูจี้หนานเซิงไม่ได้ทำกับข้าว เอาแต่ไปสั่งที่ร้านอาหารต่างๆ หลายร้าน มีทั้งอาหารเสฉวน อาหารเซี่ยงไฮ้ (ครูจี้หนานเซิงเป็นคนเซี่ยงไฮ้) มีขนมกวางตุ้งเพราะท่านทูตเหลียงเฟิงเป็นคนกวางตุ้ง มีผลไม้พีชกับองุ่น เมื่อรับประทานอาหารแล้วคุยกันพักหนึ่ง ข้าพเจ้ากลับไปที่มหาศาลาประชาชน เพื่อไปรับรางวัลวรรณกรรมเพื่อความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างประเทศ (International Literary Prize for Understanding and Friendship) อุปนายกสมาคมนักเขียนที่ข้าพเจ้าเคยพบที่บ้านหวังเหมิ่ง พาไปนั่งในห้องมีใครต่อใครมากันหลายคน ทั้งนักเขียน เช่น หวังเหมิ่ง ฟังฟัง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิวรรณกรรมแห่งชาติจีนชื่อ ท่านว่านหลี่ อายุ 85 ปี ยังแข็งแรง ตีเทนนิสได้ แต่ว่าหูตึง ข้าพเจ้าจะคุยด้วยต้องให้หลานของท่านเป็นล่ามหรือเป็นเครื่องขยายเสียงให้ อาจารย์มหาวิทยาลัยปักกิ่งมากันหลายคน เมื่อมาพร้อมกันแล้ว เข้าไปในห้องทำพิธี มีคนประมาณ 200 กว่าคน

มุ่งไกลในรอยทราย
มุ่งไกลในรอยทราย หน้า 49,51,56

(น.49) จันทร์ที่ 9 เมษายน 2533
วันนี้ตื่นมาตั้งแต่ตีห้า ทดลองอ่านทบทวนเรื่องราวที่พบเห็นเมื่อวานนี้ ค่อนข้างจะยากเพราะเราค้นหนังสือกันมายังไม่ละเอียด ฟังไก๊ด์พูดและล่ามแปลบางครั้งก็ไม่แน่ใจ ไม่อยากเขียนไปผิด ๆ กลับไปจะต้องค้นหนังสืออ้างอิงหลายเล่มเทียบกัน เช้า ๆ ไปเดินเล่นครู่หนึ่ง กลับไปรับประทานอาหารเช้า มีข้าวต้มกับอะไรคล้าย ๆ กับเมื่อวานนี้ ข้าพเจ้าเลยกินแต่ปาท่องโก๋คู่ยักษ์และน้ำเต้าหู้ ประมาณ 09.30 น. ข้าพเจ้าไปมหาศาลาประชาชน (คนที่ไม่อยู่ในรายชื่อมี ป้าจัน กิ่ง อึ่ง ซุป ไปเที่ยวเทียนถานกัน)
(น.51) รูป46. ไฟรูปดาวบนเพดาน ที่มหาศาลาประชาชนมีไก๊ด์ที่เขาทราบเรื่องแล้วว่าข้าพเจ้าอยากจะดูอะไร เขาพาไปห้องประชุมใหญ่ที่จุคนได้ 10,000 แต่ละที่นั่งมีเครื่องแปลภาษาได้ 12 ภาษา มีกล่องที่สำหรับใช้ลงคะแนนเสียง ไก๊ด์ก็พยายามจะเปิดให้ดู แต่ก็เปิดไม่ได้เพราะเขามีคนดูแลเป็นพิเศษ จะเปิดเฉพาะเวลาจะใช้งานเท่านั้น จะมีปุ่มออกเสียงเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียงจะพูดก็ได้แต่ประธานสภาจะเป็นผู้ควบคุม ห้องประชุมนี้มีลักษณะพิเศษคือ ประตูเข้าออกมาก มีถึง 32 ประตู ทำให้ระบายคนเข้าออกได้สะดวก เสียงชัดมากไม่สะท้อน จัดที่นั่งดีจะเห็นเวทีได้ชัดทุกที่นั่ง เพดานกว้างไม่มีเสา มีไฟฟ้าทำเป็นรูปคลื่น ทำให้แสงออกมาชัดดี ตรงกลางเป็นรูปดาวล้อมด้วยกลีบทานตะวัน มีความหมายว่าประชาชนอยู่ใต้การชี้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
(น.56) รูป51. พบประธานหยางซ่างคุนที่มหาศาลาประชาชน ถึงเวลาไปพบท่านประธานาธิบดีหยางซ่างคุน ท่านประธานาธิบดีเป็นคนเสฉวน อายุ 83 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง เคยร่วมเดินทางไกล (Long March) ระหว่าง ค.ศ. 1934-1935 ท่านเล่าเรื่องเส้นทางแพรไหมได้สนุกมาก กลับจากมหาศาลาประชาชน เขาจัดให้รับประทานอาหารเวลา 11.30 น. วันนี้ทางสถานทูตจัดอาหารมาหลายอย่าง รวมกับอาหารของ

ย่ำแดนมังกร
ย่ำแดนมังกร หน้า 38, 40

(น.38) เซ็นภาษาฝรั่งเศส... เราเลยไปถามอาจารย์สารสิน แกบอกให้เขียนว่า “ขอมิตรภาพไทย-จีนจงสถิตสถาพร” ซึ่งข้าพเจ้าเขียนหลายสิบเที่ยว จนถ้าเป็นคนที่ชอบละเมอคงละเมอเป็นประโยคนี้แน่ๆ เวลา 18.20 น. ออกจากเรือนเตี้ยวหยูว์ไถ ไปพบมาดามที่มหาศาลาประชาชน งานครั้งนี้จำกัดคนไปเฉพาะท่านทูตและภรรยา ท่านเลขาฯ พูนเพิ่ม ท่านผู้หญิงทั้งสอง พ.อ. ดำรง อาจารย์สารสินเมื่อไปถึงท่านมาดามและใครๆ อีกหลายคนออกมารับ ท่านดูคล่องแคล่วแข็งแรงดี คณะจีนพาเราเข้าไปในห้อง เจียงซู ในที่นั้นข้าพเจ้านั่งคู่กับมาดามเติ้งอิงเชา มีล่าม (หลี่เม่า) อยู่ข้างหลังคอยแปล โต๊ะข้างหน้าเขาตั้งน้ำชาและไมโครโฟนสำหรับสนทนากัน ส่วนคนอื่นๆ อยู่อีก 2 ข้างเป็ฯแถวๆ ยาวๆ ท่านมาดามก็กล่าวต้อนรับ บอกว่าดีใจที่เรามาที่ประเทศจีนได้ และถามถึงพระอนามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ข้าพเจ้าตอบว่าทุกพระองค์มีพระอนามัยดี สมเด็จพระศรีฯ เสด็จออกมาถามทุกข์ของราษฎรอยู่เสมอทั้งๆ ที่พระชนม์ 80 กว่าแล้ว มาดามเติ้งบอกว่าจีนให้ความสำคัญแก่การมาเยือนจีนของข้าพเจ้ามาก และจะพยายามให้ข้าพเจ้าและคณะเข้าใจเกี่ยวกับประเทศจีนยิ่งขึ้น หวังว่าการมาเยือนครั้งนี้จะส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างกัน ข้าพเจ้าบอกมาดามว่าตั้งแต่เด็กๆ ก็ได้คุ้นเคยกับวรรณคดีและศิลปะจีน แต่ลืมไปหมดแล้ว การมา
(น.40) มาดามอธิบายว่ามหาศาลาประชาชนนี้สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1950 แต่ละห้องให้ชื่อเป็นชื่อของมณฑลต่างๆ และพยายามแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของมณฑลด้วย

ย่ำแดนมังกร หน้า 80

(น.80) ซื้อของเสร็จแล้วป้าไลชวนกลับบ้าน จะได้เตรียมตัวไปงานเลี้ยงรับรองที่มหาศาลาประชาชน พอกลับถึงบ้าน ป้าไลบอกว่าให้นั่งรออยู่ในห้อง เดี๋ยวจะไปสั่งนมเย็นมาให้รับประทาน เราก็นั่งรออยู่สักครู่ใหญ่ ป้าไลก็ไม่กลับมา เราจึงแกะรอยไปดูที่ห้องไว้เครื่องดื่ม เห็นป้าไลกำลังเถียงกับ “มหาดเล็ก” ด้วยภาษาทุกภาษา มหาดเล็กหน้าตางงเต็มที่ หยิบน้ำหวาน น้ำแร่ เหมาไถ ฯลฯ และทุกๆ อย่างเท่าที่เขาจะหาได้ ข้าพเจ้าจึงบอกว่าขอเข้าไปเจรจาเอง ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด ข้าพเจ้าขอนมเย็น เขาฟังอย่างไรก็ไม่ทราบเป็นนมเย็นสองแก้ว พอได้เวลาเราก็พากันไปงานเลี้ยงซึ่ง ฯพณฯ จ้าวจื่อหยาง เป็นเจ้าภาพ งานเที่ยวนี้เขาเชิญเราหมดทั้งคณะ มีผู้ที่ไม่ยอมไปคือคุณวิไล กับคุณออมทรัพย์ ข้าพเจ้าต้องออกเดินทางตั้งแต่ 18.30 น. เพื่อพบ ฯพณฯ จ้าวพร้อมกับท่านทูตและคุณหญิง คุณพูนเพิ่ม ท่านผู้หญิงทั้งสอง คุณดำรง และอาจารย์สารสินเมื่อเข้าไปถึง ฯพณฯ จ้าว มาพบและพาไปนั่งในรูปเดิมที่ห้อง ฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ท่านจ้าวจื่อหยางก็ชวนสนทนาอย่างเดียวกับเมื่อวานที่สนทนากับท่านเติ้งอิงเชา ท่านจ้าวจื่อหยาง อายุ 62 ปี ปัจจุบันเป็นนายกรัฐมนตรี กรรมการประจำ โปลิตบุโร และเป็นสมาชิกสำนักเลขาธิการของพรรค เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากในการปรับปรุงการเกษตรและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดเล็กของเอกชน เมื่อสมัยที่เป็นประธานคณะกรรมการปฏิวัติมณฑลเสฉวน (เท่ากับเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด) ได้แก้ไขภาวะทรุดโทรมและล้าหลังทางเศรษฐกิจ โดยใช้วิธีให้ค่าตอบแทน

เย็นสบายชายน้ำ
เย็นสบายชายน้ำ หน้า 62,63

(น.62) รูป 64 ศาลาประชาชน
(น.62) ไปศาลาประชาชน มาดามหลู่เล่าถึงสภาพของเมืองฉงชิ่งในสมัยก่อนว่าอากาศร้อนมาก สมัยก่อนไม่มีเครื่องปรับอากาศ ชาวบ้านชอบยกเตียงออกมานอนข้างถนน ตอนหัวค่ำราดน้ำเอาไว้ สองสามทุ่มก็นอนได้ ตอนนี้สถานที่ทำงานและบ้านเรือนราษฎรก็ติดเครื่องปรับอากาศแล้ว
(น.63) เมื่อไปถึงศาลาประชาชนมีไกด์มาบรรยายโดยย่อว่า สถานที่นี้มาจากความคิดของจอมพลเฮ่อหลง (ผู้ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ท่านที่แต่งตั้งในช่วงการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่านรับผิดชอบด้านการกีฬา เสียชีวิตระหว่างการปฏิวัติวัฒนธรรมเนื่องจากไปคัดค้านแก๊งสี่คน) เริ่มสร้างในค.ศ. 1951 เสร็จเรียบร้อยในค.ศ.1954 สถาปัตยกรรมแบบหอเทียนถานในกรุงปักกิ่ง แบ่งเป็นตึกกลาง ตึกใต้ ตึกเหนือ ตึกตะวันออก จุคนได้ 4,206 คน วัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อใช้ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชน และใช้เป็นโรงละครให้ประชาชนได้เข้ามาดูการแสดงต่าง ๆ เช่น การแสดงนาฏศิลป์ในวันขึ้นปีใหม่ ลักษณะพิเศษของส่วนกลางนี้ คือโครงหลังคาเป็นเหล็กหนัก 286 ตัน ความกว้าง (เส้นผ่าศูนย์กลาง) หลังคา 46.33 เมตร โครงหลังคาเหล็กที่สามารถจะยืดหดได้ 4.4 เซนติเมตรเพื่อความปลอดภัย เขาอวดว่าในหนังสือเกี่ยวกับประวัติของสถาปัตยกรรมในโลก ซึ่งบันทึกเรื่องอาคารสำคัญต่าง ๆ ในโลก 42 แห่ง หอนี้เป็นอันดับที่ 2 แบบแปลนที่สร้างเก็บไว้ที่ปักกิ่ง ต่อมาชาวอินเดียมาขอไปประยุกต์ใช้ในประเทศอินเดีย ตึกทิศใต้ เหนือ ตะวันออก กลายเป็นโรงแรม

เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล
เยือนถิ่นจีนโพ้นทะเล หน้า 34

(น.34) รูป
(น.34) กลับอาคาร 10 ป้าจันและอึ่งกลับมาแล้ว ซื้อได้ของครบทุกอย่างที่ต้องการ ตอนเย็นไปมหาศาลาประชาชน เนื่องจากวันนี้มีแขกที่เจรจายังไม่เสร็จจึงรออยู่ในห้องอานฮุยครู่หนี่ง แล้วท่านหลี่เผิงกับภริยาเลี้ยงอาหารที่ห้องฮ่องกง ท่านหลี่เผิงและภริยาเพิ่งไปเมืองไทยเมื่อเดิอนที่แล้ว เมื่อสนทนากันครู่หนึ่งท่านให้ของขวัญเป็นรูปถ่ายดอกโบตั๋น 2 ดอก ซึ่งมาดามถ่ายเอง ทำเป็นปฏิทิน ค.ศ. 2003 รูปที่ข้าพเจ้าถ่ายกับมาดามที่ศิลปาชีพ ภาพประดับหินสีเป็นลูกเจี๊ยบ 2 ตัวกับพวงองุ่น

หวงเหออู่อารยธรรม
หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 210

(น.210) โรงแรมอิ๋งเจ๋อ นครไท่หยวน
มณฑลซานซี
วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2543
สวัสดีหลวงตาประพจน์
เข้าวันนี้วิ่งอีก วิ่งไปทางอาคารเตี้ยวอวี๋ไถหลังเก่า วันนี้พวกทีวีไม่ได้ลงมา รับประทานอาหารเช้าแล้วไปที่มหาศาลาประชาชน มาดามเฉินจื้อลี่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจีนต้อนรับ มาดามบอกว่าได้เจอฉันที่มาเก๊า เข้าห้องมณฑลเจ้อเจียง เพื่อทำพิธีมอบรางวัลมิตรภาพภาษาและวัฒนธรรมจีน เรื่องรายละเอียดฉันเห็นจะต้องให้ซุปเล่า เพราะเขารู้ละเอียดดีกว่าฉันเสียอีก ฉันถูกจับนั่งเก้าอี้ไว้จดก็ไม่ได้ ที่ต้องเขียนไว้ (โดยลอกแกมดัดแปลงจากซุป) เพราะเรื่องราวจะได้ครบถ้วน รางวัลนี้เป็นรางวัลนานาชาติที่กระทรวงศึกษาธิการจีนตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1999 อันเป็นปีที่ 50 แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน มีจุดประสงค์

"ไอรัก" คืออะไร?
"ไอรัก" คืออะไร? หน้า 18

(น.18) รูป 12 ท่านประธานาธิบดีแนะนำสถานที่ในเมืองจีนที่ควรไป และเล่าถึงแขกต่างประเทศที่จะมาเยือนจีน
(น.18) ที่มหาศาลาประชาชน ห้องฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ข้าพเจ้า และคณะส่วนหนึ่งเข้าไปพบท่านประธานหยางช่างคุน ส่วนคณะที่เหลือนั่งรออยู่อีกทางหนึ่ง ฝ่ายจีนนั้นมีท่านสูตุนซิ่น บุตรสาวของท่านหยางช่างคุนที่เคยมาพบข้าพเจ้าที่กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่กรมพิธีการทูตฝ่ายจีน ในการนี้คุณก่วนมู่แปลแทนคุณหลิว และมีเจ้าหน้าที่จีนอีกท่านนั่งคู่อยู่กับคุณก่วนมู่ แต่ไม่ได้พูดว่าอะไร ก่อนอื่นท่านให้ถ่ายรูปหมู่ ในห้องนั้นมีฉากและขั้นบันไดสำหรับถ่ายรูปหมู่โดยเฉพาะ แล้วจึงไปนั่งสนทนา ท่านเล่าเรื่องไปเมืองไทยได้รับการต้อนรับอย่างดี ได้ไปภูเก็ต ชอบมาก ได้พบคนทุกระดับ ไป