Please wait...

<< Back

ส่านซี

หวงเหออู่อารยธรรม
หวงเหออู่อารยธรรม หน้า 4-9


รูป 3 สนทนากับรองผู้ว่าราชการส่านซีมณฑลส่านซี
A conversation with the Deputy Governor of Shaanxi

(น.4) เมื่อถึงโรงแรมเชอราตัน ก็พยายามหาโทรศัพท์ที่จะต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ ยังไม่ทันต่อได้ก็ถึงเวลาที่จะต้องไปรับประทานอาหารค่ำ รองผู้ว่าราชการมณฑล ชื่อคุณเจี่ยจื้อปัง เป็นเจ้าภาพเลี้ยงแทนผู้ว่าราชการ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติอย่างที่ประพจน์เคยเห็นนั่นแหละจ๊ะ คือจะต้องแนะนำเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑล อธิบดีสำนักงานวิเทศสัมพันธ์ แล้วบรรยายสรุปเกี่ยวกับมณฑลส่านซีว่าเป็นมณฑลเก่าแก่ที่สุดของจีน (ไม่ทราบว่าเป็นมณฑลที่ตั้งขึ้นก่อนเพื่อน หรือมีของที่เก่าที่สุด ฉันลืมถาม) มีเอกลักษณ์ 4 ประการคือ

(น.5)
1. ทรัพยากรการท่องเที่ยว
2. ทรัพยากรมนุษย์ ที่มีการศึกษาและมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์
3. ทรัพยากรแร่ธาตุต่างๆ
4. อุตสาหกรรมทางการทหาร
เนื่องจากฉันเคยมาที่มณฑลนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว (แต่ประพจน์ไม่เคยมา) จึงไม่บรรยายเรื่องเก่าๆ จะเล่าเพียงว่า การพัฒนาเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับภาคตะวันออกก็นับว่าช้า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ปีที่แล้ว ท่านประธานาธิบดีเจียงเจ๋อหมิน มาประชุมที่ซีอาน และได้กล่าวถึงนโยบายที่จะให้พัฒนาภาคตะวันตกของจีน ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติครั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีจูหรงจีก็ได้กล่าวถึงการพัฒนาภาคตะวันตกเช่นเดียวกัน
รัฐบาลของมณฑลพอใจนโยบายของรัฐบาลกลางและพยายามปฏิบัติตามนโยบายนี้ โดยกำหนดเป็นแผนงานได้แก่
1. เร่งพัฒนางานด้านสาธารณูปโภค การคมนาคม การสื่อสาร โทรคมนาคม มณฑลลงทุนด้านนี้มาก เช่น การปรับปรุงทางรถไฟ ทางด่วน
2. จัดการสิ่งแวดล้อม มีนโยบายเพิ่มป่าและทุ่งหญ้า ให้ชาวนาปลูกป่า (ที่เขาพูดตรงนี้ฉันเข้าใจว่าหมายถึง ให้ชาวนาลงแรงปลูกป่าแทนการเสียภาษี ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่) ยุติการถางป่า อุดหนุนการปลูกป่าเป็นเงิน 200 หยวนต่อ 1 โหม่ว รัฐบาลมณฑลเป็นผู้หากล้าไม้และพันธุ์หญ้า ในมณฑลส่านซีมีแม่น้ำหวงเหอ ไหลผ่าน มีปัญหาน้ำกัดเซาะทรายไหลลงในแม่น้ำปริมาณมากต้องหาทางป้องกัน
3. ปรับปรุงการศึกษาของประชาชน เหตุผลที่ภาคตะวันตกของประเทศล้าหลังเพราะการศึกษาของประชาชนยังต่ำอยู่ ต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านวิทยาศาสตร์ ปรับปรุงอุตสาหกรรม วิธีการหนึ่งคือ การติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ครบทุกหมู่บ้าน ให้ประชาชนได้ดูโทรทัศน์ และส่งเสริมการใช้ internet เพื่อให้เกิดการศึกษาทางไกลได้
(น.6)
4. พัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ไม่ซ้ำกับอุตสาหกรรมของภาคตะวันออก ตัวอย่างคือ ที่ซีอานมีอุตสาหกรรมทหาร มีโรงงานผลิตเครื่องบินใหญ่ 2 โรง กำลังแปลงโรงหนึ่งเป็นโรงงานสร้างเครื่องบินพลเรือน ที่มีข่าวเร็วๆ นี้ว่าเครื่องบินบินจากซีอานไปปักกิ่ง เพื่อให้สมาชิกสภาได้ชม ก็เป็นเครื่องบินที่ผลิตในโครงการใหม่นี้
5. พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
6. พัฒนาการปลูกไม้ผล ปริมาณการผลิตแอปเปิ้ลของมณฑลนี้เป็นอันดับสองของประเทศ ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกาและจากอังกฤษเคยมาดูแล้วกล่าวว่า ต้นแอปเปิ้ลเจริญเติบโตดีมาก เพราะสภาพธรรมชาติเหมาะสมคือ ความสูงของพื้นที่ราว 500-800 เมตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ย 18 องศา ฉันคิดว่าแอปเปิ้ลคงเป็นพืชพื้นเมืองของจีน จึงมีชื่อเรียกเป็นภาษาจีนว่า ผิงกั่ว ไทยต้องเรียกทับศัพท์ตามภาษาอังกฤษ ส่วนลาวทับศัพท์ตามภาษาฝรั่งเศสว่า หมากปอมม์ แต่ทางเหนือใกล้ชายแดนจีนได้ยินเรียกว่า หมากผิงกั่ว เมื่อปีที่แล้ว มณฑลส่งผลไม้ไปจำหน่ายทั่วโลกกว่า 20 กว่าประเทศ ได้เงินจากต่างประเทศ เฉพาะที่อังกฤษแห่งเดียว 3 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังมีผลไม้อีกอย่างที่จีนเรียกว่า หมีโหวเถา ฝรั่งเรียกผลไม้นี้ว่า กีวีฟรุต ประเทศนิวซีแลนด์เอาของมณฑลนี้ไปปลูก ฉันชวนท่านรองผู้ว่าราชการมณฑลไปคุยกันต่อที่โต๊ะอาหาร ท่านเล่าถึงเมืองเหยียนอานว่าปัจจุบันนี้ได้แก้ปัญหาปากท้องโดยให้ประชาชนปลูกผลไม้ ปลูกยาสูบ และเลี้ยงแพะแกะ พรุ่งนี้ฉันคงจะได้เห็นสวนแอปเปิ้ล แต่ก่อนนี้จะไปเมืองเหยียนอานจะต้องใช้เวลา 8-9 ชั่วโมง ขณะนี้ลดเหลือ 4-5 ชั่วโมง ต่อไปเมื่อตัดทางด่วนแล้วจะไปได้ในเวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น บางคนนิยมไปทางรถไฟ นอนไปตอนกลางคืน ตื่นเช้าก็ถึง ท่านรองฯ เกิดและเติบโตที่เหยียนอาน และเคยไปทำงานที่นั่นด้วย

(น.7) ตอนทศวรรษ 1970 ท่านนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหลพาประธานาธิบดีฝ่ามวันดงของเวียดนามไปเยือนเหยียนอาน เมื่อท่านโจวเห็นความยากจนของประชาชนแล้ว กลั้นน้ำตาไม่ได้ กล่าวแก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า หากทำให้ประชาชนมีรายได้มากกว่าเดิมเท่าตัว จะกลับมาชนแก้วดื่มเหมาไถด้วยกัน แต่ว่าเขตภูเขามีที่ดินทำกินน้อย และการส่งเสริมการทำมาหากินก็ไม่ได้ทำกันจริงจัง จึงไม่สามารถปฏิบัติตามความต้องการของท่านโจวเอินไหลได้จนท่านเสียชีวิตไป ถึง ค.ศ. 1990 คุณเจี่ยจื้อปังทำงานที่เหยียนอาน สามารถช่วยเกษตรกรให้ผลิตธัญพืชได้เท่าตัว นักข่าว CCTV มาสัมภาษณ์ทำข่าวออกทีวี ที่เขาทำสำเร็จคิดว่าเป็นเพราะนโยบายอันชาญฉลาดของท่านเติ้งเสี่ยวผิงในการปฏิรูปเศรษฐกิจ ทำให้สามารถแก้ปัญหาปากท้องได้ แต่อย่างไรก็ตามประชาชนยังขาดเงินจับจ่ายใช้สอยเพราะไม่ได้ผลิตสินค้าที่ขายได้ ระยะหลังจึงสนับสนุนการปลูกแอปเปิ้ล พันธุ์ที่ดีที่สุดเป็นพันธุ์ของญี่ปุ่น ตอนที่ฉันไปเหยียนอาน จะขอให้เขาเตรียมแอปเปิ้ลไว้ให้ทุกห้อง นอกจากนั้นมีการแปรรูปแอปเปิ้ลเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วย ท่านรองผู้ว่าราชการฯ แนะนำเหล้าขาวของมณฑลที่ชื่อว่า ซีเฟิ่งจิ่ว คล้ายๆ กับเหมาไถ แต่เก่าแก่กว่า กล่าวกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว กวีหลี่ไป๋และตู้ฝู่ล้วนแต่เขียนบทกวีสรรเสริญเหล้าชนิดนี้ เขาตั้งเหล้าสีขาวอีกชนิดหนึ่งชื่อว่า หมีจิ่ว เหมือนข้าวหมากซึ่งฉันเคยได้ชิมเกือบ 20 ปีมาแล้ว (แต่ไม่ชอบ) ฉันถามความเห็นเขาว่า ทำไมท่านประธานเหมาจึงเลือกเหยียนอานเป็นที่มั่นแม้จะมีสภาพเลวร้าย รองผู้ว่าราชการฯ เจี่ยตอบว่า ประการแรก กองทัพแดงส่วนหนึ่งมาตั้งมั่นอยู่แถวนี้อยู่แล้ว นี่เป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุด พวกที่เดินทางไกล (Long March) ล้มตายกันไปมาก เดินทางต่อไปไม่ไหวแล้ว

(น.8)


รูป 4 เลี้ยงอาหารค่ำ
At dinner

(น.8)

ประการที่ 2 อยู่ในเขตทุรกันดารและห่างไกลอิทธิพลของพวกก๊กมินตั๋ง
ประการที่ 3 เส้นทางคดเคี้ยวสามารถใช้เป็นที่หลบซ่อนได้ เมื่อฉันไปเห็นสภาพภูเขาที่นั่นจะเข้าใจเอง ฉันถามต่อไปว่ามีนักท่องเที่ยวไปที่นั่นมากไหม เขาตอบว่า นักท่องเที่ยวต่างประเทศมีไม่มากนัก มีแต่คนจีน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ คนแก่ๆ เกษียณแล้ว เคยปฏิบัติงานอยู่ทางโน้น ไปรำลึกความหลัง อีกพวกคือ เด็กนักเรียนที่ไปศึกษาเรื่องการปฏิวัติระหว่างหยุดเทอม พอดีบริกรนำเหล้าขาวเข้ามา ท่านเลขาธิการมณฑล (แซ่เจี่ยเหมือนกัน) จึงอธิบายว่าเหล้านี้แรง 42 ดีกรี ความหอมของเหล้ามีหลายชนิด เช่น แบบหงส์ แบบมังกร เหล้าที่เอามาให้ดื่มวันนี้เป็นแบบหงส์ กลิ่นเหมาไถ แบบที่ภาษาจีนเรียกว่า เจี้ยง น้ำข้นๆ ขุ่นๆ คล้ายน้ำเต้าหู้

(น.9) ฉันชอบดื่มชาจีน จึงถามว่าชาที่มณฑลนี้มีหรือไม่ ได้ความว่าปลูกอยู่ทางใต้ของมณฑล เป็นชาเขียวเรียกว่า ชิงฉา มีประโยชน์ต่อร่างกาย เขาว่าบุหรี่ของมณฑลก็มีคุณภาพดี โรงงานที่เหยียนอานมีกำลังผลิตได้ปีละ 300,000 กล่อง แต่ผลิตจริงแค่ 100,000 กล่องเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายจำกัดบุหรี่ ตอนที่สร้างทางรถไฟซีอาน-เหยียนอาน บริษัทผลิตบุหรี่ให้เงินกว่า 50 ล้านหยวนแก่กระทรวงรถไฟจีน

เย็นสบายชายน้ำ
เย็นสบายชายน้ำ หน้า 119,121

(น.119) ผ่านสะพานหลงเหมินสร้างใน ค.ศ. 1987 สูง 185 เมตร จะสูงกว่าระดับน้ำเพียง 7 เมตรเมื่อน้ำท่วม แต่ก็จะต้องระเบิดทิ้งไปและสร้างสะพานใหม่ เพราะเตี้ยไปเรือลอดไม่สะดวก เรือแล่นมาจนถึงบริเวณที่แม่น้ำฉางเจียงและแม่น้ำต้าหนิงเหอบรรจบกันเข้าเป็นบริเวณที่เรียกว่า โตรกเขาซานเสียน้อย น้ำในแม่น้ำต้าหนิงเหอใสกว่าแม่น้ำฉางเจียงข้างนอก แม่น้ำนี้ไหลจากต้นน้ำในมณฑลส่านซี โตรกเขามีช่องสี่เหลี่ยมสำหรับสอดไม้ทำทางเดินที่เรียกว่าจ้านเต้า ไกด์อธิบายว่าแต่ละช่องนั้นลึก 60 เซนติเมตร กว้าง 20 เซนติเมตร ห่างกัน 1 เมตร น้ำในแม่น้ำต้าหนิงเหอเชี่ยวและเย็น มีก้อนหินกลมๆ ถูกน้ำขัดเสียเรียบ พวกชาวบ้านมีอาชีพอีกอย่างหนึ่งคือ เก็บหินขาย แต่ละคนมีเข่งหรือกระสอบใส่หิน ใครแบกเก่งก็ได้มาก ดูเหมือนว่าจะต้องรู้จักวิธีเลือกด้วยจึงจะได้หินดีๆ ลืมถามเขาว่าราคาหินเหล่านี้เท่าไร มีต้นทุนบ้างหรือเปล่า บางคนบอกว่าน่าจะมีสมาคมผู้เก็บหิน แต่ข้าพเจ้าคิดว่าหินก็มีเยอะแยะ ต่างคนต่างเก็บจะดีกว่า ไม่มีการผูกขาด

(น.123) ภูเขาแถวนี้เป็นเขาหินทราย แต่ก็มีถ้ำซึ่งคงจะโดนน้ำกัดเซาะ แต่ไม่มีหินงอกหินย้อยเพราะไม่ใช่หินปูน มีภูเขาลูกหนึ่งมีถ้ำกลมๆ 2 ถ้ำคู่กัน ชาวบ้านเลยเรียกกันว่า ถ้ำหมีแพนด้า เทือกเขานี้ยาวถึง 400 กว่ากิโลเมตร ผ่านมณฑลเสฉวน หูเป่ย ส่านซี ภูเขาสูงไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ มีทุ่งหญ้า มีวัวและแพะอยู่มาก เป็นของชาวบ้านเลี้ยงไว้ แต่ไม่ต้องดูแล ปล่อยให้หากินเอง

เย็นสบายชายน้ำ หน้า 307

(น.306) หมึก (โม่)
การใช้หมึกน่าจะมีมาแล้วตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชาง ในการขุดค้นสุสานสมัยจ้านกว๋อและสมัยฮั่นพบหมึกก้อนฝังอยู่ด้วย ตรงกับที่หนังสือจวงจื่อว่าในสมัยชุนชิวจ้านกว๋อมีหมึกใช้กันแพร่หลายแล้ว แต่เดิมชาวจีนใช้พู่กันจุ่มรักเขียนหนังสือ ต่อมาจึงรู้จักทำหมึกใช้ มีการขุดพบกระบอกไม้ไผ่โบราณ มีตัวอักษรที่ใช้รักปนกับที่ใช้หมึก ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เริ่มทำหมึกนั้นมีกล่าวไว้ต่าง ๆ กันไปไม่เป็นที่ยุติ ในหนังสือต่าง ๆ กล่าวถึงผู้ผลิตหมึกที่มีชื่อเสียงในสมัยต่าง ๆ เช่น สมัยสามก๊ก เหวยต้าน ชาวเว่ย ผลิตหมึกคุณภาพเยี่ยม สีประดุจรัก สมัยราชวงศ์จิ้นมีหมึกของจางจิ้น ราชวงศ์ซ่งมีหมึกของจางหย่ง หลิวฝาในราชวงศ์จิน หูเหวินจงในราชวงศ์หยวน หลอหลงเหวิน เฉินจนฝัง หูคายหยวน ฯลฯ ในราชวงศ์หมิงและชิง ตระกูลเหล่านี้ต่างก็จัดทำหนังสือเรื่องการผลิตหมึก มีภาพแสดงหมึกแบบ

(น.307) ต่าง ๆ เป็นการแข่งขันทางการค้า เป็นผลงานที่เหลือตกทอดมาถึงรุ่นหลัง หมึกรุ่นแรกมักทำจากตะกั่วดำ หญิงสมัยโบราณใช้ทาคิ้ว เมื่อประสมกับน้ำจะกลายเป็นหมึก เชื่อกันว่าเริ่มใช้กันที่เมืองเอี๋ยนอาน ทางเหนือของมณฑลส่านซี ต่อมาสมัยราชวงศ์ฮั่นจึงเปลี่ยนเป็นหมึกก้อน ถึงสมัยราชวงศ์ถัง เกาหลีถวายหมึกทำจากเขม่าเป็นบรรณาการ จีนจึงเริ่มผลิตหมึกด้วยเขม่าต้นสนและไขกวางใช้ ต่อมาจึงทำจากเขม่าต้นหลานและต้นนุ่นผสมกับชะมดและไขสัตว์ ให้กลิ่นหอม หมึกชนิดนี้จึงมีชื่อว่า หลงเซียง แปลว่า หมึกที่เก็บไว้ได้นานหอมทน

มุ่งไกลในรอยทราย
มุ่งไกลในรอยทราย หน้า 53,67

(น.53) เวทีแสดงละครก็ได้ มีที่ตั้งวงดนตรี ระหว่างที่เราเดินดูก็เห็นมีประชาชนมาดู เขาเปิดเสียงอธิบายเป็นภาษาจีนอยู่ตลอด ขึ้นลิฟท์ไปห้องมณฑลส่านซี จุดเน้นของห้องนึ้คือสุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ เรื่องราวสมัยราชวงศ์ถัง รูปนางสนมหยางกุ้ยเฟยซึ่งเป็นบุคคลที่สวยงามมาก จักรพรรดิถังเสวียนจงมัวแต่หลงใหลนางจนกระทั่งต้องเสียบ้านเสียเมือง ไก๊ด์อธิบายว่าสตรีในสมัยราชวงศ์ถังนั้นจะต้องอ้วน หน้ากลมจึงจะถือว่าเป็นสาวงาม มีลายผ้าปักแบบส่านซี มีภาพวาดเมืองเยียนอัน ซึ่งเป็นที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์ในสมัยต่อต้านญี่ปุ่น

(น.67) ท่านรองเล่าให้ฟังว่าส่านซีมีสัตว์ที่ล้ำค่าของโลก มีหมีแพนด้าชนิดที่สีออกเหลือง หมีแพนด้าเล็ก ปีที่แล้วโรคระบาดทางการเลยเอาจากในป่ามารักษาที่สวนสัตว์ ปีก่อนออกลูกมา บริเวณที่เจอหมีอยู่ใกล้ ๆ ที่เกิดของจางเชียน อยู่อำเภอหนิงกู้

มุ่งไกลในรอยทราย หน้า 71,76-77

(น.71) นั่งรถไปกับคุณหันกัวจินรองอธิบดีกรมวิเทศสัมพันธ์ รัฐบาลมณฑลส่านซี และคุณหลิว คุณหันบอกว่าเขาเรียนจบมาทางประวัติศาสตร์เหมือนกันจึงอธิบายได้ เราจะเดินทางไปสุสานเฉียนหลิง ระยะทาง 85 กิโลเมตร ขึ้นเขาอีก 5 กิโลเมตร มีการค้นคว้าวิจัยมาก ถนนในซีอานปัจจุบันตามแบบราชวงศ์หมิง สมัยถังกว้างกว่าปัจจุบัน 8 เท่า ถ้าอยากจะทราบว่าบรรยากาศราชวงศ์ถังเป็นอย่างไรก็ต้องอ่านบทกวีต่าง ๆ เช่น หลี่ไป่ ตู้ฝู่ หวางเหว่ย บทกวีเหล่านี้กล่าวถึงวัฒนธรรมชีวิตของคนในประวัติศาสตร์เมื่อประกอบกับสิ่งที่เราเห็นในปัจจุบัน จะประสานอดีตและปัจจุบันเข้าด้วยกันได้

(น.76) ส่านซีเป็นมณฑลที่มีรูปร่างยาวแต่แคบ ฉะนั้นสภาพทางภูมิศาสตร์ คือภูมิประเทศและภูมิอากาศจะต่างกันมาก ทางเหนือเป็นทะเลทราย ดินสีเหลือง และเป็นเนินสูง พืชที่ปลูกจะเป็นข้าวฟ่าง ข้าวโพด เกาเหลียง เป็นข้าวเม็ดใหญ่ ทำเหล้าเกาเหลียงอันขึ้นชื่อ มีแอลกอฮอล์ 60 º ภาคกลางเป็นที่ราบปลูกข้าวสาลีและข้าวโพดได้ดี ส่วนทางใต้เป็นภูเขาสลับกับที่ราบ ปลูกข้าวเจ้า มีข้าวสาลีบ้าง แต่มีจำนวนน้อย

(น.77) อู่เจ๋อเทียนมีนิวาสถานเดิมอยู่ที่เหวินสุ่ย (มณฑลส่านซีในปัจจุบัน) เคยเป็นพระสนมที่มีฐานะอยู่ในกลุ่มพระสนมอันดับ 5 ของพระเจ้าถังไท่จง เมื่อพระเจ้าถังไท่จงสวรรคตแล้วตามปกติพวกสนมจะต้องไปบวชชีกันหมด แต่อู่เจ๋อเทียนทำอย่างไรไม่ทราบ สึกออกมาเป็นมเหสีของพระเจ้าถังเกาจงได้ มีอายุมากกว่าถังเกาจง 4 ปี สุสานเฉียนหลิงสูงประมาณ 1,040 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในบริเวณส่านซีมีสุสาน 72 แห่ง คุณหันพูดว่าคนกล่าวกันบ่อย ๆ ว่าสุสานใหญ่จะถูกขโมย แต่เฉียนหลิงไม่มีคนขโมย ไม่มีในเอกสาร และไม่มีร่องรอยการถูกขโมยด้วย ฉะนั้นข้างในอาจมีศิลปวัตถุอยู่

มุ่งไกลในรอยทราย 206

(น.206) จว่อจงถังมาเป็นแม่ทัพภาคและข้าหลวงใหญ่ที่นี่ ได้ทำความเจริญให้มณฑลส่านซีและกานซูอย่างมาก สรุปแล้วบริเวณนี้มีความสำคัญในหลายราชวงศ์ เช่น ฮั่น ถัง ทางสายแพรไหมก็ผ่านมาที่นี่ จักรพรรดิเฉียนหลงในราชวงศ์ชิงเคยเสด็จมาแถวนี้ ในบริเวณนี้มีวัดซึ่งกำลังบูรณะอยู่ ปิดทองพระพุทธรูปเสร็จเรียบร้อยแล้วจะเปิดให้ประชาชนเข้านมัสการได้

มุ่งไกลในรอยทราย หน้า 365

(น.365)
ราชวงศ์เหนือ
แคว้นทั้ง 16 ของอนายชน 5 เผ่า ค.ศ. 304 – 439
แคว้น เชื้อชาติ มณฑล ระยะเวลา (ค.ศ.)
ราชวงศ์จ้าวภาคต้น ฉยุงหนู  ซานซี  304 – 329
ราชวงศ์เฉิงฮั่น ตี  เสฉวน  304 – 347
ราชวงศ์จ้าวภาคปลาย เจี๋ย  เหอเป่ย  319 – 351
ราชวงศ์เหลียงภาคต้น ฮั่น (จีน)  กานซู  314 – 376
ราชวงศ์เหยียนภาคต้น เซียนเปย  เหอเป่ย  349 – 370
ราชวงศ์ฉินภาคต้น ตี  ส่านซี  351 – 394
ราชวงศ์เหยียนภาคหลัง เซียนเปย  เหอเป่ย  384 – 409
ราชวงศ์ฉินภาคหลัง เชียง  ส่านซี  384 – 417
ราชวงศ์ฉินตะวันตก เซียนเปย  กานซู  385 – 431
ราชวงศ์เหลียงภาคหลัง ตี  กานซู  386 – 403
ราชวงศ์เหลียงใต้ เซียนเปย  กานซู  397 – 414
ราชวงศ์เหลียงเหนือ ฉยุงหนู  กานซู  401 – 439
ราชวงศ์เหยียนใต้ เซียนเปย  ชานตง  400 – 410
ราชวงศ์เหลียงตะวันตก ฮั่น (จีน)  กานซู  400 – 421
ราชวงศ์เซี่ย ฉยุงหนู  ส่านซี  407 – 431
ราชวงศ์เหยียนเหนือ ฮั่น (จีน) เหลียวหนิง  409 – 439

ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย
ต้นน้ำ ภูผา และป่าทราย หน้า 219

(น.219) บทกวีบทที่ 2 ที่รองนายกรัฐมนตรีท่องให้ฟังเป็นบทกวีของประธานเหมาเจ๋อตุง แต่งเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1935 แต่งเลียนแบบบทกวีโบราณ ตามทำนองที่เรียกว่า ชิงผิงเย่ บทกวีนี้ชื่อ ภูเขาลิ่วผาน ถอดความเป็นภาษาไทยว่า
ฟ้าสูง เมฆบาง มองนกนางแอ่นบินไปทางใต้จนสุดสายตา
ถ้าไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ไม่ใช่ชายชาตรี
นับได้ว่าเดินทางผ่านไปแล้วสองหมื่นลี้
บนยอดเขาสูง ภูเขาลิ่วผาน
ธงแดงโบกสะบัดในสายลมตะวันตก
วันนี้มีสายแพรยาวในมือ
จะมัดมังกรทิศตะวันออกเมื่อไร
ขณะที่เขียนบทกวีนี้ประธานเหมาอยู่ที่บริเวณเทือกเขาลิ่วผาน หรือที่เรียกว่า ภูเขาหล่ง อยู่ที่มณฑลหนิงเซี่ย อำเภอกู้หยวน ที่กล่าวว่ามองนกนางแอ่นบินไปทางใต้นั้น สื่อความคิดถึงสหายสงครามที่เสียชีวิตไปในพื้นที่ทางใต้ พวกทหารกองทัพแดงส่วนมากมีญาติพี่น้องอยู่ที่บ้านเดิมแถบทางใต้ และยังมีกลุ่มทหารที่ทำสงครามกองโจรอยู่ทางใต้ด้วย บาทที่กล่าวถึงกำแพงเมืองจีน หมายถึง กำแพงเมืองจีนตอนกลาง ซึ่งอยู่ทางเหนือของมณฑลส่านซี พื้นที่แถบนี้เป็นจุดมุ่งหมายของกองทัพแดง ส่วนคำกล่าวที่ว่า ไม่ถึงกำแพงเมืองจีน ไม่ใช่ชายชาตรี เป็นสำนวนแสดงความมุ่งมั่นที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

เจียงหนานแสนงาม
เจียงหนานแสนงาม หน้า 24

(น. 24) ฟอสซิลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมโบราณ Shanxi thorium tateli คนเยอรมันพบส่วนหัวใน ค.ศ. 1922 ใน ค.ศ. 1994 ได้พบทั้งตัวที่เฟกุ มณฑลส่านซี จึงมองเห็นว่าเป็นยีราฟโบราณ มีเขา 2 ข้าง ข้างละ 2 กิ่ง คอสั้นกว่ายีราฟปัจจุบัน

เจียงหนานแสนงาม หน้า 44

(น. 44) สิงหาคม ค.ศ. 1937 พรรคก๊กมินตั๋งกับพรรคคอมมิวนิสต์ร่วมมือกันเป็นหนที่ 2 ปรับกองทัพเป็นกองทัพต้านญี่ปุ่น แบ่งเป็นสองกองทัพใหญ่ คือกองทัพลู่ที่ 8 ดูแลการรบที่มณฑลส่านซี กานซู และหนิงเซี่ย มีนายพลจูเต๋อเป็นผู้บัญชาการ ท่านเผิงเต๋อไหวเป็นรองผู้บัญชาการ และปรับกลยุทธ์แถวลุ่มแม่น้ำฉังเจียง ให้กองทัพลู่ที่ 4 คุม การโจมตีทัพญี่ปุ่นของกองพลที่ 115 แห่งกองทัพลู่ที่ 8 ได้รับชัยชนะงดงาม ทหารญี่ปุ่นตายหมื่นกว่าคน เป็นการลบความเชื่อที่ว่าญี่ปุ่นไม่มีวันแพ้

เจียงหนานแสนงาม หน้า 329

(น. 329) ค่ำนี้รองผู้ว่าฯ เย่ว์เลี้ยงส่งที่เรือนรับรองซีหู มาดามเย่ว์ “สอบ” ทุกคนว่ามีความคิดเห็นเรื่องหังโจวอย่างไร และเล่าว่าที่นี่มีความสำคัญหลายอย่าง เกาะดอกท้อในเรื่องมังกรหยกก็ไม่ไกลจากที่นี่นัก คิสซินเจอร์กับนิกสันก็มาที่นี่ ตอนนี้มีผู้มาลงทุนมาก มาดามไปที่เมืองไทยเห็นมีนิคมอุตสาหกรรม กลับมาก็เลยผลักดันให้ที่นี่มีบ้าง แสดงว่าการออกไปศึกษาจากต่างประเทศมีประโยชน์ ตอนนี้พยายามปรับปรุงการตลาด ผลิตของให้มีคุณภาพ บริการส่งให้ถึงลูกค้า สร้างความสัมพันธ์กับมณฑลอื่น เช่น นำถ่านหินจากมณฑลส่านซี ใบยาสูบจากมณฑลยูนนาน มณฑลเจ้อเจียงผลิตชิ้นส่วนของรถยนต์ป้อนโรงงานผลิตรถยนต์ในมณฑลหูเป่ย จี๋หลินและมหานครเซี่ยงไฮ้ การติดต่อเช่นนี้กับต่างประเทศก็ทำได้เหมือนกัน เช่น สัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาในการผลิตโทรศัพท์มือถือโมโตโรลา มณฑลนี้ทรัพยากรมีไม่มากนัก ต้องรับจากมณฑลอื่น ต้องวางแผนการลงทุนในที่อื่น เช่น เมื่อที่เซี่ยงไฮ้เปิดเขตอุตสาหกรรมผู่ตง บริษัทในมณฑลเจ้อเจียงก็ไปลงทุนทำกิจการที่นั่นด้วย

แกะรอยโสม
แกะรอยโสม หน้า 92 - 93

(น.92) รูป 91 เจ้าหน้าที่โครงการสาธิตระบบข้อสนเทศทางภูมิศาสตร์

(น.92) การใช้ข้อมูลรีโมทเซนซิ่งในการศึกษาที่ราบสูงดิน Loess บริเวณที่ต้องศึกษาประมาณ 800 กว่าล้านตารางกิโลเมตร ทรายแป้ง (Silt) ถูกกัดเซาะไปประมาณปีละ 5,000 ตัน ซึ่งเป็นขั้นรุนแรง บริเวณลุ่มแม่น้ำหวงเหอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่เป็นแหล่งถ่านหิน ซึ่งเป็นพลังงาน

(น.93) สำคัญของจีน แถบนี้มีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ค่อนข้างรุนแรง ในการทำโครงการนี้เขาหวังผลหลายๆ อย่าง ที่เห็นชัดได้แก่
1. การทำเหมืองแร่มากเกินไป ทำให้เกิดของเสีย เกิดมลภาวะในน้ำ ก็จะถือโอกาสหามาตรการแก้เรื่องนี้
2. การแก้ปัญหาเขตด้อยพัฒนา
3. การควบคุมแม่น้ำหวงเหอในเขตมณฑลชานซี ส่านซี และมองโกเลียใน มีผลในการวางแผนการใช้ที่ดิน การศึกษาเรื่องคนที่มาตั้งถิ่นฐานใหม่ในส่วนที่เคยเป็นทะเลทราย ไม่มีผู้คน จัดบริเวณที่ควรตั้งบ้านเรือน ที่ควรปลูกป่า

เกล็ดหิมะในสายหมอก
เกล็ดหิมะในสายหมอก เล่ม 4 เฮยหลงเจียง หน้า 72

(น.72) ไปรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นแบบจีนปนรัสเซีย มีสลัดมันฝรั่ง ซุปมะเขือเทศ ทำแบบ borsch ของรัสเซีย ไก่บดแบบ Kiev ซุปอุ้งตีนหมี ปลา sturgeon สตูเนื้อวัว วัวนี้เรียกว่า เฝยหนิว แปลว่า วัวอ้วนพี แต่ไม่ได้มีมันมาก เป็นการเลี้ยงอย่างพิเศษคือให้วัวกินเบียร์วันละ 4 ครั้ง และนวดให้ด้วยวันละ 2 ครั้ง ตัวหนึ่งน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ต้นพันธุ์มาจากเมืองฉินฉวนในมณฑลส่านซี แต่ก่อนเคยสั่งวัวแบบนี้จากเกาหลี เวลานี้ไม่ต้องสั่งแล้ว เนื้อธรรมดาเวลาเอาไปทอดหรือต้มนานๆ จะแข็ง แต่เนื้อวัวแบบนี้จะไม่แข็ง อาหารนอกจากนั้นมีกะหล่ำปลีทำแบบอาหารฝรั่ง ซุปมักกะโรนี ข้าวผัด ซาละเปานึ่ง ซาละเปาทอด จบด้วยไขมันกบหิมะลอยแก้วเช่นเคย แต่แรกข้าพเจ้าเข้าใจว่าฮาชื่อมาเป็นไขมันหน้าท้องกบ ที่จริงแล้วเป็นไขมันบริเวณหูที่กบใช้เวลาจำศีล ส่วนที่หน้าท้องเป็นไข่กบที่ชาวบ้านชอบ ขากบก็ทอดกินได้ กบชนิดนี้ออกไข่ในน้ำที่มีสัตว์เล็กๆ เพื่อให้ลูกที่ออกจากไข่มีอะไรกิน